บันเทิง

"จุ๋ยจุ๋ยส์"สุดเจ๋งพาเพลงไทยไป'บอลโลก'

"จุ๋ยจุ๋ยส์"สุดเจ๋งพาเพลงไทยไป'บอลโลก'

13 พ.ค. 2553

โด่งดังจากเพลงบทที่1 จนทำให้ชื่อของ"จุ๋ยจุ๋ยส์" สุทธิพงศ์ สุทินรัมย์ เป็นที่รู้จักและล่าสุด โซนี่มิวสิค ไทยแลนด์ ก็หยิบโอกาสดีๆ ให้นักร้องหนุ่มคนนี้ด้วยการให้แต่งเพลง และร้องเพลงที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2010 ที่แอฟริกาใต้

ซึ่งเพลง สู้สิสู้ที่จุ๋ยจุ๋ยส์โชว์ฝีมือแต่งในครั้งนี้จะถูกเอาไปรวมไว้ในอัลบั้ม ลิตเติ้ลอัพ เดอะ ออฟฟิตคัล 2010 ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ อัลบั้ม (Listen Up The Offcial 2010 FIFA World Cup Album) โดยในอัลบั้มนี้จะมีเพลง วาก้าวาก้า : ดิสไทม์ ฟอร์ แอฟริกา (Waka waka : This Time For Africa) เพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลโลก2010 อย่างเป็นทางการจากศิลปินระดับโลกอย่าง ชากีร่า ด้วยได้จับงานใหญ่ขนาดนี้ศิลปินคนเก่งของเราจะรู้สึกอย่างไรไปถามจากปาก "จุ๋ยจุ๋ยส์" เองเลยดีกว่า 

"ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้แต่งเพลงบอลโลกก็ยังอึ้งๆ อยู่ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ทำเพลงฟุตบอลโลก เพราะว่ามันเป็นระดับโลก แค่ฟังชื่อนี่ก็หนาวแล้ว แต่ได้รับมอบหมายมาแบบนี้ ทางผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้ เราก็ต้องรับโอกาสนี้ไว้อย่างเต็มใจ และพยายามทำให้ดีที่สุด ในตอนแรกกดดันมาก เพราะว่าเราเคยแต่แต่งเพลงให้ตัวเอง อาจจะแต่งเพลงให้เพื่อนบ้าง แต่งเพลงให้คนรอบข้างบ้าง แต่คราวนี้เหมือนแต่งเพลงให้แก่ทุกๆ คน ก็เลยรู้สึกว่าเกร็งนิดหนึ่ง พอผ่านช่วงเกร็งช่วงนั้นไปได้ก็ตัดปัญหา พยายามทำให้เต็มที่ เราก็ดูกระแสอะไรต่างๆ ที่ผ่านมาในโลก มันวุ่นวายเสียเหลือเกิน เลยทำเพลงออกแนวให้กำลังใจ ไม่จำเป็นว่าต้องแข่งกีฬาเท่านั้น แข่งกับตัวเอง แข่งกับใคร แข่งกับใจตัวเองให้ชนะ เพลงนี้ผมแต่งให้เป็นกลางๆ ไม่ว่าจะเปิดในกีฬาประเภทไหนก็ได้หมด มันเป็นการเชียร์ เป็นการให้กำลังใจกับคนที่กำลังสู้อยู่"

นักร้องหนุ่มกล่าวก่อนจะเล่าถึงการเลือกแนวเพลงแบบโจ๊ะๆ ของไทยมาเป็นตัวขาย เพราะความชอบส่วนตัว และเพื่ออยากโปรโมทให้คนทั่วโลกรู้จักความเป็นไทยด้วย

"ในส่วนตัวผมเองชอบเพลงแนวโจ๊ะๆ อยู่แล้ว ฟังแล้วมันก็สนุกดี แล้วแบบโจ๊ะๆ ที่ผมเอามาแต่งครั้งนี้ในเพลง สู้สิสู้  มันเป็นแนวกึ่งลูกครึ่งผสมอีสานนิดๆ มีฮิพฮอพเข้ามาหน่อยๆ มีกลิ่นป๊อปเข้ามา มันน่าจะเป็นเพลงรวบรวมอะไรต่างๆ นานาอยู่ในเพลงเดียวกันได้ ให้มันสนุกได้ มันเหมือนกับฟุตบอลโลก ขึ้นชื่อว่าโลกมันน่าจะรวมอะไรต่างๆ นานาหลายเชื้อชาติ ก็เลยออกเป็นแนวลูกทุ่งกึ่งๆ สามช่า แต่ผมว่าของผมน่าจะประมาณสี่ช่าครึ่ง (หัวเราะ) แล้วผมอยากที่จะให้คนทั่วโลกรู้จักสไตล์แบบไทยๆ ด้วย" จุ๋ยจุ๋ยส์ เผย

นักร้องหนุ่มอินดี้เล่าต่อว่า รู้สึกดีใจอย่างมาก เพราะตอนแรกคาดไม่ถึงว่าจะได้รับการอนุมัติจากทางฟีฟ่าของฟุตบอลโลก จนเพลงของเขาได้มีโอกาสรวมอยู่ในอัลบั้มเดียวกันกับเพลงของศิลปินระดับโลกคนอื่นๆ

"ขั้นตอนอันดับแรกตอนนั้นก็คือส่งเนื้อเพลงไปให้เขาก่อน แล้วก็ส่งเดโมตามไป พอส่งเดโมไปเสร็จ ก็ส่งที่อัดเสร็จแล้วที่เป็นมาสเตอร์ไป ส่งไปตามขั้นตอน ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนตั้งแต่แต่งเพลง โดยตลอด 1 เดือน ในใจก็หวังว่าเขาให้เราผ่าน เพราะว่าตั้งใจทำเต็มที่ ไม่ได้ทำให้มันผ่านเลยไป ให้มันเสร็จๆ ไปเป็นหนึ่งเพลง คือเพลงนี้ตั้งใจว่า น่าจะอยู่ได้นานๆ โดยที่มันยังเป็นสไตล์ของจุ๋ยจุ๋ยส์อยู่"

แต่พอถูกแซวว่าทำให้เพลงไทยได้ไปบอลโลก ทำเอา "จุ๋ยจุ๋ยส์" เขิน ก่อนจะเปรยว่ากลัวจะถูกชาวบ้านด่า เหตุที่ทาง โซนี่ฯ ให้ศิลปินธรรมดาแบบเขามาร้องและแต่งเพลงนี้แทนศิลปินชื่อดังคนอื่นๆ

"ดูโกอินเตอร์นะ แต่จริงๆ ตอนแรกผมกลัวว่าชาวบ้านเขาจะด่าเอา (หัวเราะ) ว่าทำไมไม่ให้ศิลปินที่เป็นมืออาชีพกว่านี้ หรือให้ศิลปินที่ดังกว่านี้มาทำมาร้อง ทำไมให้จุ๋ยจุ๋ยส์มาทำ มันเหมือนเป็นศิลปินอิสระที่ทำเพลงตัวเองมาก่อน เพลงอาจจะไม่ดัง อาจจะไม่โดน ตอนแรกที่ทำกลัวชาวบ้านด่ามาก แต่ก็พยายามทำให้เต็มที่ตามที่ได้รับมอบหมายมา เพราะผู้ใหญ่อุตส่าห์ให้โอกาสเรา ก็อยากจะทำเพลงที่สนุกๆ ไม่เหมือนใครดี ตอนนี้ก็กำลังลุ้นกันอยู่ว่าเพลงนี้จะได้ไปเปิดตอนแข่งฟุตบอลโลกหรือเปล่า แต่ถ้าได้เปิดจริงๆ ก็จะดีใจมาก ไม่ได้หวังว่าจะเปิด ผมคาดหวังแค่ให้คนไทยรู้จักเพลงนี้กันทุกคน ไม่ต้องไปถึงต่างประเทศ ขอแค่มีการแข่งขันกีฬาไม่ว่าประเทศไหน หรือว่าการแข่งขันกีฬาที่จะแข่งขึ้น แค่ขอให้มีเพลงนี้เปิดในงานกีฬานั้นๆ แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่อยากที่จะให้เพลงนี้จบลงแค่ฟุตบอลโลกครั้งนี้ ยังไงก็ฝากถึงเพลง สู้สิสู้ ที่จุ๋ยจุ๋ยส์ตั้งใจทำออกมาให้มิตรรักแฟนเพลงได้ฟังกัน อยากให้ทุกคนร้องเพลงนี้ให้แก่คนที่กำลังจะสู้อะไรกับบางสิ่งบางอย่าง ให้กำลังใจเขาด้วยเพลงนี้" นักร้องหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย