"ได๋ ไดอาน่า" โกรธจนร้องไห้! คอลเซ็นเตอร์อาละวาดหลอกเงินแม่ | คมชัดลึก

เป็นเรื่องเดือดกลางวงสัมภาษณ์ เมื่อ "ได๋ ไดอาน่า" ออกมาเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดสดๆ เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.2567) ว่า "คุณแม่" ถูกคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพหลอกเงินหมดบัญชี กว่า 1 ล้านบาท โดย "ได๋" เล่าด้วยรายละเอียดที่คุณแม่โดนหลอกเพื่อเป็นอุทาหรณ์กับคนอื่น

"คุณแม่โดน call center หลอกให้โอนเงินไปมูลค่า 1 ล้านบาทเมื่อวานนี้
จริงๆมันเป็นเรื่องที่ฟังคนอื่นมาเยอะว่าระวัง call center นะระวัง call center นะแล้วก็ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเราจะต้องมาตกอยู่ในที่นั่งที่ต้องมานั่งแก้ปัญหาตรงนี้ให้กับคุณแม่
เรื่องของเรื่องคือเมื่อวานนี้อยู่ดีๆคือเราทำงานอยู่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์อยู่ดีๆแม่ก็มี miss call มาแต่ว่าเป็นเบอร์ของเด็กที่ทำงานที่บ้านไม่ใช่เบอร์แม่แล้วมันประมาณ 3-4 miss call เราก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วพอโทรกลับไปก็ไม่รับโดยแม่ก็บอกว่าแม่ไม่มีเวลาแล้วแม่ไม่มีเวลาแล้วแม่เหลือเวลาอีกไม่มากเราก็ตกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นแม่บอกว่าแม่พูดไม่ได้แม่พูดอะไรไม่ได้เลยมันต้องเป็นความลับนะแม่บอกใครไม่ได้แม่ตกอยู่ในอันตรายแล้วก็ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น
คนแก่เขาก็กลัวเขาก็ไม่กล้าพูดเราก็ตกใจเราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่เราก็นั่งมอเตอร์ไซค์จากเซ็นทรัลเวิลด์กลับไปหาแม่ที่บ้านแล้วแม่ก็ปิดบ้านหมดเลยแล้วก็ลากเราเข้าไปในบ้านแล้วแม่เขาก็บอกว่าเดี๋ยวแม่ต้องรายงานตัวแล้วก็ถามว่ารายงานตัวอะไรก็เจอว่าเขาจะต้องรายงานตัวกับมิจฉาชีพ

เวลาประมาณ 11 โมงแม่เขาได้รับโทรศัพท์มาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากค่ายมือถือค่ายนึงแล้วก็แจ้งว่าเจ้าของเบอร์โทรศัพท์นี้ได้ถูกตรวจสอบว่ามีการฟอกเงินเกิดขึ้นมูลค่า 14 ล้านต้องขออนุญาตโอนสายให้กับเจ้าหน้าที่เพราะโอนให้เจ้าหน้าที่เสร็จเจ้าหน้าที่ก็พูดประมาณว่าคุณถูกใช้ชื่อแอบอ้างเป็นบัญชีม้าฟอกเงินจำนวน 14 ล้านตอนนี้คุณครูผู้ต้องหาเพราะฉะนั้นเราจะช่วยคุณอะไรประมาณนี้คุยจนแอด line
ไฮไลท์อยู่ตรงที่ว่า add LINE เสร็จเขาถ่ายหน้าบุ๊คแบงค์มาซึ่งในบุ๊คแบงค์มีชื่อคุณแม่อยู่จริงๆนั่นหมายความว่าเขาลงทุนทำเอกสารที่เป็นบุ๊คแบงค์ส่งมาให้คุณแม่ดูเพื่อให้คุณแม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้ต้องหาจริงๆแล้วหลักฐานหลายๆอย่างเขามีข้อมูลที่ไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไงส่งมาคุณแม่ก็โอนเงินไปให้หมดบัญชีที่เป็น mobile banking เขาโอนให้หมดเลยแต่ว่ามิจฉาชีพเขาก็เก่งมีการกำกับว่าโอนยอดแรกเท่านี้นะยอดนี้เท่านี้นะแล้วมันก็หมดแล้วเขาก็กำกับจนคุณแม่ไปที่ธนาคารไปขายกองทุนก็คือกำกับจนแม่เตรียมล้างทุกบัญชีที่มีอยู่โอนให้หมดเลยกับมิจฉาชีพโชคดีที่ว่ามันติดลิมิตเพราะว่าธุรกรรมบางอย่างมันต้องมีติดการเคลียร์ก่อนมันก็เลยโอนไปแค่ 1 ล้านบาท

พอเกิดเรื่องปุ๊บเขาก็ข่มขู่แม่ว่าห้ามบอกใครถ้าบอกจะตกอยู่ในอันตรายจะจับเข้าคุก แม่บอกว่าอยากจะบอกลูกเขาก็ไม่ให้บอกเขาบอกว่าถ้าจะบอกลูกลูกจะต้องโดนไปด้วยด้วยความที่แม่เขาเป็นห่วงเราแม่เขาก็เลยพยายามสู้ด้วยตัวเองสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่ามิจฉาชีพมันร้ายมากเลยนะคะมันบอกให้คุณแม่รายงานตัวกับมันทุกชั่วโมงผ่านวีดีโอคอลแล้วก็บอกว่าถ้าออกจากบ้านให้วีดีโอคอลไปบอกเขาและเอามือถือไว้ในกระเป๋าเพื่อให้มั่นใจว่าแม่จะไม่บอกใคร

เมื่อวานนี้ไปหาคุณแม่เขาก็อยู่ในความตกใจก็เข้าใจเขาหนึ่งเขาตกใจพี่ว่าเขาเป็นผู้ต้องหาเราก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่ามันคือมิจฉาชีพแล้วเมื่อเช้านี้เราก็นอนอยู่กับคุณแม่เขาก็โทรมาตอน 9 โมงเช้าให้คุณแม่รายงานตัวคิดว่ามาจากที่คุณแม่ถ่ายบัญชีว่ามีอะไรบ้างเขาก็เลยพยายามกำกับเพื่อให้โอนเงินทุกบาททุกสตางค์เข้าบัญชี

ระหว่างที่สัมภาษณ์ก่อนสัมภาษณ์เมื่อ 15 นาทีที่แล้วเขาก็โทรมาให้คุณแม่รายงานตัวด้วยจริงๆอยากใช้โอกาสนี้ในการบอกทุกคนว่าโดยส่วนตัวมองว่าเงินที่มันเสียไปไม่มีทางที่จะกลับมาอยู่แล้วถือว่าเป็นอุทาหรณ์แล้วกันเชื่อว่าจะต้องมีผู้ใหญ่ที่อยู่ที่บ้านคุณเฒ่าคนแก่ก็อยู่ที่บ้านจะต้องมีคนเคยเจออะไรแบบนี้แน่นอนใครที่มีคนแก่ที่อยู่ที่บ้านแล้วเราอาจจะไม่ได้ดูแลเขาฝากให้ช่วยส่งและกระจายต่อเพื่อไม่ให้มันตื่นขึ้นอีก
ได๋ได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเมื่อคืนนี้ซึ่งทางตำรวจก็บอกว่าวันนึงมีคนที่เจอแบบนี้เป็น 10 รายเพราะฉะนั้นอยากให้พี่ๆสื่อทุกคนช่วยกันกระจายข่าวออกไปเพื่อให้เรารู้เท่าทัน"

หลังจากนั้น "ได๋" ได้เอาไลน์ที่คุยกับมิจฉาชีพออกมาโชว์ให้สื่อดูพร้อมอ่านข้อความ จากนั้นเธอก็กดวิดีโอคอล LINE ของมิจฉาชีพ ซึ่งมิจฉาชีพเป็นผู้ชายรับโทรศัพท์ขอถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนซึ่งใดก็ตอบกลับไปว่าอยู่บ้าน มิจฉาชีพก็บอกกลับมาว่าให้เอาหน้าเข้ากล้องด้วยไดจึงเรียกคุณแม่เข้ามากลางวงสัมภาษณ์ก่อนที่ผู้ชายในสายจะทำเสียงเข้มและถามว่าฮัลโหลครับก่อนจะย้ำว่าให้เอาหน้าเข้ากล้องและเรียกชื่อของคุณแม่ จากนั้นมิจฉาชีพก็พูดว่าไม่ค่อยได้ยินเลยครับและวางสายไป
ซึ่งได๋ยอมรับว่าแค้นและถามกลับสื่อมวลชนว่า ควรจะจัดการกับมันยังไงดี