
"แจ๊ส คอนเนอร์" ปฏิวัติ ดนตรีแจ๊สของเมืองไทย
เปิดค่ายอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับสังกัดเพลงน้องใหม่ แจ๊ส คอนเนอร์ ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โดยมี อ้อม" ชุมพล สุปัญโญ แห่งวง อินฟินิตี้ มานั่งแท่นผู้บริหาร พร้อมเปิดใจถึงก้าวย่างที่ลำบากกว่าจะผ่านด่าน "อากู๋" ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม มาถึงวันนี้ได้
"อาจเพราะผมดื้อด้วย จริงๆ ไม่ใช่ ตลอดชีวิตที่ผมทำงานป๊อปมา ผมก็ไม่เคยมั่วตั้งแต่วันแรกที่ผมทำ ผมเข้าไปแกรมมี่ตั้งแต่วันแรก ตอนนั้นเขาทำอัลบั้ม ใหม่ เจริญปุระ ชุดไม้ม้วน ผมแต่งเพลงเทรักคืนไป นั่นคือเพลงแรกที่ผมอยู่แกรมมี่ เพลงนั้นเป็นเพลงโปรโมทเพลงดังเพลงแรกของเขา นั่นก็ไม่มั่ว แล้วผมก็ไม่ได้เป็นคนร็อก ผมเป็นคนโซล คนฟังก์ แต่วันแรกที่ผมได้โจทย์ผมต้องทำเพลงร็อก ผมทำเพลงนั้น ถัดมาผมโปรดิวซ์ให้วิยะดา ที่มีเพลงขอจันทร์ เพลงปล่อยใจฝัน ปัจจุบันก็ยังเล่นกันอยู่ ผมทำเพลงให้นันทิดา เพลงวิมานดิน เพลงดังๆ หลายเพลงของเขา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผู้ใหญ่คงคิดว่าผมไม่มั่ว ผมอาจจะไม่ป๊อป แต่ผมก็ไม่ใช่พวกทำงานเจ๊ง เขาเชื่อผมอีกเรื่องหนึ่ง ว่าผมเป็นคนตั้งใจที่จะทำเรื่องพวกนี้
จริงๆ ผมคิดว่าคนอย่างพี่บูลย์ (ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม) มีรสนิยมในเรื่องการฟังเพลงมาก แต่ใครไม่ค่อยรู้ว่าแกฟังแจ๊ส แกเป็นแจ๊สตัวจริงเหมือนกัน แต่ไม่มีใครรู้ และอีกอย่างคือ ผมรู้ว่าพี่บูลย์แกรักเพลงของแกมาก วันแรกที่ผมเดินไปหาแก วันที่ผมออกจากเคพีเอ็น แล้วแกก็โทรศัพท์กลับมาหาผม ผมก็บอกเลยว่าพี่ ผมไม่ทำป๊อปนะ ป๊อปผมทำมา 20 ปีแล้ว ผมจะอ้วกออกมาเป็นมันอยู่แล้ว ผมไม่รู้ว่าผมจะทำมันต่อไปทำไม ผมอยากที่จะพัฒนาคนมากกว่า และถ้าจะให้ผมทำ ผมขอทำแจ๊สได้ไหม ผมบอกแกว่าพี่มีเพลงเป็นหมื่นๆ เพลง แล้วเวลามันไปอยู่เมืองนอก ใครจะรู้ว่าเป็นเพลงของพี่ ผมคิดว่าตอนนั้นแกก็คงนึกไม่ออก ว่ามันเป็นยังไง ภาษาไทยไปอยู่เมืองนอกก็คนไทยดู ในมุมมองของเรา เราคิดตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ว่าเพลงบรรเลงไง ประเทศไหนก็ฟังทั้งนั้น" อ้อม อินฟินิตี้เผย ก่อนจะคุยฟุ้งถึงการที่ได้จับมือทำงานร่วมกับศิลปินแจ๊สระดับโลกอย่าง "บ๊อบเจมส์"
"การที่ได้มาทำงานกับเขา เพราะว่าเขาเห็นเราเป็นคนแบบเดียวกันในการสร้างเพลง และการสร้างสรรค์งาน เราเล่นสู้เขาไม่ได้หรอก เราก็เป็นประเทศเล็กๆ ก็อยากที่จะทำงานกับเขา โดยอัลบั้มนี้เขาเรียบเรียงให้ผม 2 เพลง คือเพลงขอจันทร์ ของ ตุ๊ก (วิยะดา โกมารกุล ณ นคร) และเพลง เหมือนเป็นคนอื่น ของ เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) แล้ววันที่เขามาเล่นให้ผมฟัง ผมขนลุกเลย เพราะมันไม่เหมือนเพลงไทยเลย แค่มันเป็นเมโลดี้เพลงไทยเท่านั้น เขาเองก็รู้สึก ว่าเพลงไทยมันมีเมโลดี้ที่เพราะ เขาฟังเนื้อไม่ออก แต่ชอบที่เมโลดี้ของเพลงไทย ฟังแล้วอยากเล่น ต่อจากนี้เราจะเริ่มทำงานกับระดับโลกมากขึ้น เพื่อวันหนึ่งเราจะเอาเพลงไทยไปขายเมืองนอก
น่าจะเป็นความภูมิใจของคนไทย นี่คือความหวังของผม จริงๆ แกรมมี่ ก็มีหน่วยงานหนึ่งชื่อจีเอ็มเอ็ม อินเตอร์ เขาช่วยผมเยอะมาก เพื่อที่จะเอางานเหล่านี้ไปขายในต่างประเทศ โดยเบื้องต้น ก็มีตลาดในเอเชีย และตอนนี้ที่เขาแจ้งผมมา ก็มีประเทศออสเตรเลียที่สนใจจะมาร่วมลงทุนด้วย ในแง่ของโชว์บิสในประเทศเขา" ผู้บริหารแจ๊ส คอนเนอร์กล่าว
และเผยถึงการเข้าค่ายนี้ว่า เพื่อเป็นการปูเส้นทางให้แก่เด็กรุ่นใหม่ที่จะเติบโตขึ้นในวงการแจ๊ส และจะได้ก้าวไปสู่ระดับโลก
"ผมคิดว่าผมทำในสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้เด็กรุ่นที่จะขึ้นมายืนตรงนี้ เขาจะทำงานได้ง่าย เราต้องถางป่าให้เขา ถ้ามันเป็นไปได้ เด็กรุ่นใหม่จะได้ประโยชน์จากตรงนี้ แล้วกิ่งก้านของเรา ก็ไม่หยุดที่ฟิวชั่นแจ๊ส เรามีหลายมุม แต่เราจะค่อยๆ ทำไปก่อน โดยจะสื่อสารกับคนฟังด้วยฟิวชั่นแจ๊ส แต่ถ้ามีสแตนดาร์ดเข้ามา ก็พร้อมที่จะสนับสนุน เราพร้อมเดินไปหาคน เพราะโปรดักส์เราดี แต่ที่ผ่านมาที่ไม่ได้ความนิยมเพราะการขายของเรา ตลาดเราเล็กสื่อเราน้อย เราก็พยายามหาพันธมิตร ตอนนี้เราก็มีโอเวอร์ไดรฟ์, มหิดล, สถาบันการศึกษาที่มีสาขาดนตรี เราคงจะพัฒนามันไปเรื่อยๆ ดีกว่า
มองให้รอบด้าน บอกตรงๆ ว่าลึกๆ ก็หวังอยู่ แต่มันมีหลายๆ แง่ หลายๆ มุม แล้วถ้าจะทำอย่างนั้นได้ มันต้องทำให้คนรอบข้างต้องเชื่อว่าสิ่งที่เราคิดมันสามารถเป็นอุตสาหกรรมได้จริง มันสร้างอาชีพได้จริง นักดนตรีมีตังค์ซื้อรถ มีเงินเก็บในธนาคาร มีเงินเลี้ยงลูกได้จริง และวันหนึ่งเราก็อาจจะได้เห็นเพลงไทยไปเป็นเพลงที่ต่างชาติเล่นโชว์ก็ได้" อ้อมเล่า
ก่อนจะปิดท้ายถึงเรื่องที่ศิลปินสามารถมาอยู่ค่าย แจ๊ส คอนเนอร์ โดยไม่ต้องเซ็นสัญญา ว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงให้เหมือนกับอารยธรรมดนตรีของทางตะวันตก ที่นักดนตรีไม่ได้ผูกติดกับค่ายเหมือนในเมืองไทยเมื่อก่อน