บันเทิง

วันนี้ของ "เพลงแรงงาน" 
กับครูสลา คุณวุฒิ

วันนี้ของ "เพลงแรงงาน" กับครูสลา คุณวุฒิ

30 เม.ย. 2553

อดีตเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแรงงานที่โดนใจคนฟังทุกครั้งที่ออกมา คงไม่มีใครทาบ สลา คุณวุฒิ ครูเพลงคนดังที่มีเพลงเนื้อหาคมกินใจแห่งยุคนี้ แต่ปัจจุบันเพลงแรงงานในรูปแบบเดิมนั้นดูลดน้อยลงไป

   ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" ได้มีโอกาสพูดคุยกับ สลา คุณวุฒิ ถึงความเปลี่ยนแปลงของเพลงแรงงานที่นำเสนออยู่ในปัจจุบันนี้

  "จริงๆ เพลงแรงงานไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่แปรรูปไป เมื่อก่อนเราพูดเกือบจะทุกมุมของคนใช้แรงงาน สะท้อนชีวิตในรูปแบบต่างๆ แต่วันนี้เราก็ยังมีอยู่เพียงแต่ไม่ได้บอกว่าจะให้แรงงานสู้ยังไง  เพลง "คนบ้านเดียวกัน" ก็เป็นเพลงที่เกี่ยวกับแรงงาน มันไม่ได้หนีไปจากแรงงานเดิมๆ แค่เปลี่ยนมุมนำเสนอ เพียงแต่ไม่ได้เจาะจงเหมือนคน ยังมีอีกหลายเพลง "แรงงานข้าวเหนียว", "นักสู้หัวใจเซิ้ง" นี่ก็ใช่ ถ้าดูภาพในมิวสิกวิดีโอจะเห็นว่ายังมีภาพของแรงงานอยู่ เป็นพฤติกรรมของคนใช้แรงงาน"

 ครูสลา อธิบายวิวัฒนาการของเพลงแรงงานที่เขาคิดในพ.ศ.นี้ ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่นักแต่งผู้นี้ยอมรับคือ "รสนิยม" ของคนฟังที่เป็นตัวกำหนดให้การเขียนเพลงแนวนี้ต้องเปลี่ยนรูปแบบไป

 "เพลงก็เป็นสินค้าในกลุ่มที่ขึ้นอยู่กับรสนิยมคนฟัง ซึ่งมันจะเป็นในลักษณะวงกลม  บางทีอาจขยับไปเรื่อยๆ ถ้าพูดเรื่องแรงงานอาจจะฟังแล้วเครียด ก็เปลี่ยนไปเป็นเพลงเรื่องสนุกๆ บ้าง แต่ก็ต้องสนองกลุ่มคนลูกทุ่ง แต่มีเรื่องราวหรือถ้อยคำที่ต้องขยับ ถ้าเขียนหรือร้องในมุมเดิมๆ คนฟังก็จะมองว่าเราพูดแต่เรื่องเก่า ทุกสิ่งไม่เฉพาะเพลงจะขึ้นอยู่กับรสนิยม"

 เมื่อถามถึงเพลงแนวเพลงแรงงานแบบไมค์ ภิรมย์พร ที่เคยดังกระหึ่มทุกครั้งที่นักร้องผู้นี้มีอัลบั้มออกมา มาวันนี้ดูเงียบเหงาลงไป กลับกลายเป็นเพลงของ ไผ่ พงศธร ที่คนชื่นชอบเป็นเพราะเหตุใด

  "ที่เพลงแนวนี้มันเบาบางลง ผมมองว่าวันนี้เพลงมันสร้างง่ายขึ้น มันหนีกันยาก มันท้าทายคนแต่งเหมือนกัน  มันเป็นความตั้งใจของคนทำงานแต่กว่าที่จะเจอเรื่องดีๆ ก็หายากเหมือนกัน  ไมค์ ภิรมย์พร กับไผ่ พงศธร สองคนนี้ต่างกันตรงการนำเสนอ ไมค์จะเป็นลูกบุก สู้ชีวิต แต่ไผ่จะมีลูกอ้อน แนวเพลงแบบไมค์ก็ยังมีคนฟังอยู่ เขายังรักษาระดับมาตรฐานของเขาได้สมํ่าเสมอไม่มีที่ติ เว้นแต่ถ้าเราเจอนักร้องที่เหมือนไมค์ เป็นเด็กรุ่นใหม่อายุ 17-18 แต่ไม่จำเป็นต้องเสียงเหมือนนะ แต่มีบุคลิกที่สามารถนำเสนอเพลงแนวไมค์ได้ก็ดี แต่ก็ยังหาไม่เจอ แนวเพลงแบบไมค์ที่ดูเบาบางลงเป็นเพราะมีเด็กรุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมาย การนำเสนอก็เปลี่ยนแปลงไป วันหนึ่งคนฟังอาจจะคิดถึงเพลงแรงงานแบบไมค์อีกก็ได้ วันนี้ก็ยังมีคนถามและขอเพลงแบบนี้อยู่ เราต้องหาแนวใหม่ๆ มาให้คนเสพ"

 ครูสลายังบอกอีกว่าไม่เฉพาะเพลงลูกทุ่งเท่านั้นที่มีการเปลี่ยนแปลง เพลงในแนวอื่นก็เช่นกัน โดยครูยกตัวอย่างเพลงของคาราบาวว่ามีการนำเสนอที่ไม่เหมือนเดิม

 "ถ้าเราลองดูเพลงในแนวเพื่อชีวิต เช่น คาราบาว วันนี้คนก็ยังฟังเพลงลุงขี้เมาอยู่ ถ้าคาราบาวมีเพลงในแนวเดียวกับลุงขี้เมาออกมา คนฟังก็เลือกที่จะฟังลุงขี้เมามากกว่าเพลงใหม่ แต่พอมีปรากฏการณ์แบบเพลงหนุ่มบาว-สาวปาน ขึ้นมา คนฟังก็รับทันทีเลย และไม่ใช่เพลงนี้เพลงอื่นๆ ในชุดนั้นก็ดีมากหลายเพลงเลย ซึ่งเพลงก็ยังพูดถึงคนในสังคมในแบบคาราบาวอยู่ อันนี้สะท้อนรสนิยมของคนฟังได้ชัดเจนมาก"