เปิดมุมมอง 'ลูกเกด-โยชิ-แอนโทเนีย' กับ ความหลากหลายทางเพศ ในสังคมไทย

หากพูดถึงเทศกาลสุดอลังการที่เต็มไปด้วยสีสัน ของเหล่าชาวสีรุ้ง คงไม่พูดถึงงานนี้ไม่ได้ กับ Pride Month เดือนแห่งเทศกาลการเฉลิมฉลอง และแสดงออก ถึงความภาคภูมิใจในตัวตน และความหลากหลายทางเพศ ทั่วโลกเมืองไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่เปิดกว้างมากขึ้นในความแตกต่างของผู้คนในสังคม ที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างเสรี และสันติ โดยจะมีการจัดแคมเปญมากมาย เพื่อรณรงค์ ส่งเสริมเสรีแห่งตัวตน และขับเคลื่อนให้ประเทศไทยกลายเป็นแลนด์มาร์คของเทศกาลไพรด์ กับงาน "THAILAND’S PRIDE CELEBRATION 2023" ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ "PRIDE FOR ALL" ที่จะเกิดขึ้นตลอดเดือน มิ.ย.นี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ 

 

นอกจากกิจกกรรมมากมาย ที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อส่งเสริมความเปิดกว้างในสังคม และเพื่อสิทธิความเท่าเทียมของกลุ่ม LGBTQIA+ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของผู้คนจากทั่วโลกสำหรับเทศกาลไพรด์นี้ อีกทั้งยังมีบรรดาคนดังในวงการบันเทิง อย่าง  'ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม', 'โยชิ-รินรดา ธุระพันธ์' มิสทิฟฟานี่ 2017, และ 'แอนโทเนีย โพซิ้ว' ขอร่วมเป็นกระบอกเสียง เพื่อสิทธิความเท่าเทียมของผู้คนที่มีความหลากหลายทางเพศ มาเปิดเผยมุมมอง เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ และเตรียมตัวต้อนรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองนี้ เพื่อรณรงค์ให้สังคมไทยเปิดกว้าง และสนับสนุนในความหลากหลายของผู้คนมากขึ้น

 

ประเดิมกันที่ ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม ในฐานะตัวแม่ผู้รันวงการ อีกทั้งยังเป็นคุณแม่คนเก่ง ของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่าง น้องสกาย ได้เปิดใจถึงมุมมองที่มีต่อความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย ว่า

 

"เกดเองก็มีลูกชาย ที่เกดก็อยากให้เขารู้ว่า เราสามารถที่จะเลือก เป็นอะไรก็ได้ และมนุษย์เองไม่ควรที่จะถูกดูถูก และเกดก็มีนักเรียนที่สถาบันปรับบุคลิกภาพ เกดก็อยากจะให้พวกเขารู้ว่า Everybody can be different but accepted in society (คนเราสามารถแตกต่างกันได้ แต่ล้วนเป็นที่ยอมรับในสังคม) ลูกชายของเกดเคยถามอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่เขาอายุ 5 ขวบ ว่า ผู้ชายกับผู้ชาย มีลูกด้วยกันได้ไหม ตอนแรกเกดก็แปลกใจว่า อายุ 5 ขวบ ทำไมคิดแบบนี้แล้ว เกดก็หันไปตอบเลยว่า ได้สิลูก อาจจะไม่เหมือนผู้หญิงกับผู้ชาย แต่ก็สามารถมีลูกได้ ก็เลยรู้สึกว่า โอเคเกดต้องสอนลูกแล้วล่ะ เกดต้องสอนลูกว่าคนเราเนี่ย different (แตกต่าง) ได้แต่ All the same (ทุกคนเป็นคนเหมือนกัน)"

 

 

อีกหนึ่งตัวแทนจากเวทีมิสทิฟฟานี่ อย่าง โยชิ-รินรดา ธุระพันธ์ ในฐานะเจ้าของมงกุฏในปี 2560 ก็ได้มาแสดงจุดยืนเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมถึงงานเทศกาลไพรด์ของประเทศไทยที่กำลังจะมาถึงด้วย ว่า

 

"โยคิดว่า ตั้งแต่โยเกิดมา โยยังไม่ค่อยเห็นงานไพรด์ที่หลายคนออกมาร่วมเฉลิมฉลอง โยก็ไม่แน่ใจว่า อาจจะเป็นเพราะด้วยยุคสมัยหรือเปล่า แต่พอเราไปเห็นที่เมืองนอกมา รู้สึกเห็นถึงความแตกต่าง ต่างประเทศเขามีความเท่าเทียมมาก สามารถเปลี่ยนคำนำหน้าได้ แต่งงานเพศเดียวกันได้ รู้สึกว่าเจ๋งมาก"

 

"รู้สึกดีใจที่ประเทศไทยเปิดกว้างมากขึ้น ถ้าพูดถึงประเทศไทย ก็จะเป็น Transgender ที่สวย หลายหลายคนบอกว่าประเทศไทย เปิดกว้างสำหรับ เพศทางเลือกที่สุดแล้ว แต่จริงๆ แล้วโยคิดว่า เปิดกว้างก็จริงแต่ อีกมุมมองหนึ่ง กฎหมายยังไม่ได้มารองรับ หลายคนบอกว่าเป็นอะไรก็ได้ แต่ขอให้เป็นคนดี ขอให้ประสบความสำเร็จ แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง มันก็ต้องควบคู่ไปกับกฏหมายด้วย ไม่ใช่แค่เราใช้ชีวิต ในสังคมนี้ได้ทำงาน แต่เราก็อยากได้สิทธิ์ หลายๆ สิทธิ์ที่เรายังไม่ได้ จากสังคมมารองรับเหมือนกัน โยก็หวังว่าในเร็วๆ วันนี้ กฎหมายสมรสเท่าเทียม อาจจะผ่านสักที และเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย"

 

 

รวมถึง แอนโทเนีย โพซิ้ว นางแบบและนางงามชาวไทยเชื้อสายเดนมาร์ก นางงามผู้ครองตำแหน่งมิสซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ 2019 และมิสซูปราเนชันแนล 2019 ที่เผยมุมมองของเธอ ต่อความหลากหลายทางเพศเช่นกัน

 

"แอนคิดว่าเรื่อง LGBTQ ในสังคมของเรา เป็นเรื่องที่ควรเป็นที่ยอมรับมานานแล้ว เราอยู่ในปี 2566 แล้ว เราควรพัฒนาตัวเอง และความคิดของเราเพื่อที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยกัน แต่แอนเชื่อว่ายังมีอีกหลายขั้นตอนที่เราไปต่อได้ด้วยกัน แต่สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ เราต้องยอมรับ และเปลี่ยนความคิดของเรา ยอมรับ และเปิดรับความหลากหลาย Pride for one is not pride for all. Pride for all means every gender, every race, every way of thinking, inclusivity, diversity and celebrating each other (ความภาคภูมิใจเพียงหนึ่งเดียว ไม่ใช่ความภูมิใจของผู้คนทั้งหมด ความภูมิใจของทุกคน หมายถึง ความภูมิใจในทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ ทุกวิถีแห่งความคิด ความแตกต่างที่ไม่แตกแยก และมาร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายนั้นด้วยกัน)"