บันเทิง

แฉเล่ห์โกงเจ้าภาพเบี้ยวต้องทำสัญญาป้องกันภัย

แฉเล่ห์โกงเจ้าภาพเบี้ยวต้องทำสัญญาป้องกันภัย

05 เม.ย. 2553

จากข่าวนักร้องลูกทุ่งกลุ่มใหญ่ เช่น แคท รัตกาล "ลูกนก" สุภาพร น้องมายต์ ฯลณฯ ที่ถูกดีเจวิทยุชุมชนย่านบางบัวทองหลอกให้ไปร้องเพลงในงานบวช แล้วเชิดค่าตัวไม่จ่ายเงิน ผัดผ่อนแล้วปิดมือถือหนี จนทำให้ต้องแจ้งความเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์

 กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยในวงการลูกทุ่งหมอลำ ที่เคยโดนมาแล้ว อาทิ เฉลิมพล มาลาคำ รุ่ง สุริยา ฯลฯ หรือดาราที่ได้รับเชิญไปโชว์ตัวตามงานต่างๆ ซึ่งหลายครั้งก็ไม่ได้ตกเป็นข่าว หลายคนก็คิดเสียว่าทำบุญทำทานกันไป ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในวงการฮึกเหิมได้ใจ

 ในอดีตเคยมีข่าววงในเกี่ยวกับวงหมอลำดังวงหนึ่ง ที่ถูกโกงค่าตัวจากวัดในต่างจังหวัด ซึ่งว่าจ้างไปแสดงในงานประจำปี แล้วเบี้ยวเงินไม่จ่ายค่าตัว งานนั้นทำเอาเจ้าของวงโกรธจัด ถึงขนาดสั่งให้รถขนของในวงหมอลำขับเฉี่ยวซุ้มประตูวัดให้เสียหายไว้เป็นอนุสรณ์กันเลยทีเดียว

 มาตรการตั้งรับนั้น แต่ละค่ายหรือผู้จัดการส่วนตัว จะมีวิธีการบริหารที่ต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ค่ายใหญ่จะใช้วิธีการเซ็นสัญญาว่าจ้าง วางเงินมัดจำ ก่อนไปทำการแสดงให้

 อดีตผู้จัดการของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังคนหนึ่ง ซึ่งเธอได้ขึ้นชื่อว่า เป็นผู้จัดการที่ระมัดระวังอย่างมากในการทำสัญญาเวลามีเจ้าภาพมาติดต่อนักร้องในสังกัดของเธอ จนหลายคนกล่าวหาว่า เธอเป็นผู้จัดการจอมเขี้ยวตัวแม่ แต่นั่นหมายถึงการป้องกันตัวเองจะการถูกเบี้ยวค่าตัว และนักร้องที่เธอดูแลอยู่แทบไม่เคยถูกเบี้ยวเลย

 “ตั้งแต่ทำนักร้องมาในระยะเวลา 10 ปี เคยถูกเบี้ยวครั้งเดียว ที่จริงก็ได้เงินนะ แต่เป็นเช็คแล้วมันเด้ง ปกติแล้วไม่รับเช็ค แต่เห็นว่าเป็นงานราชการก็เลยรับไว้ มาพลาดก็ตรงที่มันเป็นเช็คส่วนตัวของเขา หลังจากนั้นก็ติดตามเรื่อง แต่เขาหายตัวไปเลยติดต่อไม่ได้ นั่นเป็นรายเดียวจริงๆ ที่ถูกเบี้ยว วิธีการรับงาน เราจะทำสัญญาทุกครั้ง ยกเว้นคนกันเองที่ตัวเราแน่ใจ เมื่อทำสัญญาแล้ววางมัดจำ 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าตามกติกาในสัญญาแล้วก่อนวันงาน 1 วัน เจ้าภาพจะต้องโอนค่าตัวส่วนที่เหลือมาให้ทั้งหมด หรือตกลงกันว่าจะรับเงินที่เหลือทั้งหมดก่อนที่นักร้องขึ้นเวทีทำการแสดง แต่มีข้อยกเว้นคือ ถ้าเป็นคนที่เราเชื่อใจหรือใช้งานกันเป็นประจำ ก็อาจจะจ่ายหลังงานก็ได้ แต่เจ้าภาพใหม่จะไม่ได้เด็ดขาด ต้องทำตามที่เรากำหนด ส่วนใหญ่เขาจะทำตามกติกา อาจจะเป็นด้วยความที่เราเป็นคนพูดอะไรตรงไปตรงมา เราจะบอกชัดเจนทุกอย่างในทุกขั้นตอน”

 จากการตั้งกฎเหล็กที่ชัดเจนนี้ เจ้าภาพบางส่วนจึงไม่เข้าใจและมีปฏิกิริยาในทางลบบ้าง แม้แต่ตัวของนักร้องเองก็คิดว่า ผู้จัดการไม่ยืดหยุ่น

 “จากการที่กติกาเราชัดเจนมาก ที่ผ่านมาเจ้าภาพหลายคนไม่เข้าใจ เขาไปพูดว่าเราเขี้ยว เราร้าย ในส่วนของนักร้องเองก็ไปฟังคนอื่นมาว่าเราร้าย ไม่ดี แต่ที่จริงๆ แล้วนักร้องหารู้ไม่ว่า มันเป็นผลประโยชน์ของนักร้องเองทั้งนั้น ซึ่งภายหลังเราทราบมาหลังจากที่เราไม่ได้เป็นผู้จัดการนักร้องแล้ว ก็มีข่าวได้ยินถึงหูว่า นักร้องที่เราเคยดูแลคนนั้นถูกเบี้ยว ถูกกดค่าตัวหรือจ่ายเงินไม่ครบ ล่าสุดเลย เขาไปงานงานหนึ่งแล้วรับค่าตัวมาโดยไม่เปิดซองนับจำนวนเงิน พอมาถึงอีกวันถึงได้รู้ว่า เจ้าภาพจ่ายเงินไม่ครบ ซึ่งปกติถ้าเป็นตัวเราแล้วจะต้องเปิดซองนับเงินต่อหน้าเจ้าภาพทันทีเลย ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจกัน แต่ป้องกันการมาทะเลาะกันทีหลัง เพราะเรื่องเงินทำให้คนผิดใจกันได้ บางครั้งเจอเจ้าภาพซี้ๆ กัน เราเองบอกไม่ต้องนับ เจ้าภาพยังบอกว่า ให้เปิดนับเงินเลยดีกว่า เราทำแบบนี้ก็สบายใจกันทั้งสองฝ่าย”

 อีกรายหนึ่งเป็นโบรกเกอร์หรือนายหน้าติดต่อนักร้องมืออาชีพที่เคยมีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งเรื่องการติดต่องานกับดารามาแล้ว เล่าประสบการณ์กลโกงของเจ้าภาพที่เพิ่งโดนมาล่าสุด

 “เพิ่งเจอมาเหมือนกันหมาดๆ ที่จังหวัดแถวๆ ปริมณฑลนี่เอง คนติดต่องานเป็นดีเจเหมือนกันกับที่เป็นข่าว แต่คนละคนกัน เขาบอกว่าเขาจะจัดงานกุศล ขอให้เอานักร้องไปช่วยหน่อย เราก็จัดนักร้องไป 6-7 คน โดยให้เขาทำหนังสือเป็นเอกสารมาว่าจะจ่ายเงินให้เป็นค่าน้ำมันหรือค่าเดินทาง ไม่ใช่ค่าตัว เพราะเป็นงานการกุศล ตามปกติแล้วถ้าเป็นกิจกรรมของคลื่นวิทยุ เราจะให้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์เข้ามา เพื่อยืนยันกับนักร้องหรือค่ายเพลงว่าเป็นงานกุศลไม่มีค่าตัว มีแต่ค่าน้ำมันรถ และเราจะส่งให้นักร้องหรือค่ายเพลงเซ็นรับทราบ เพื่อป้องกันข้อครหาว่าเราเอานักร้องมาใช้งานในราคาตีตั๋วเด็ก

 พอไปถึงงาน กลับกลายเป็นว่า เขาจัดงานรื่นเริง โดยขายโต๊ะจีนหารายได้ เขาอ้างว่าเป็นการกุศล และมาบอกว่า เขาขาดทุน เลยจ่ายค่าน้ำมันเราจากคนละ 5,000 ตามที่ตกลง เหลือเพียงคนละ 300-500 บาท เราไม่รู้จะทำอย่างไง ก็ต้องพากันแยกย้ายกลับบ้าน เราก็ไม่อยากมีปัญหา เพราะเป็นคลื่นวิทยุชุมชน มีอะไรก็พึ่งพากันได้ พวกเราก็ได้แต่อึ้ง งานนั้นก็มีดาราไปด้วย และชวนเพื่อนๆ ของเขาไปหลายคน ไม่รู้ว่าโดนเหมือนกันหรือเปล่า”

 มาตรการป้องกันของโบรกเกอร์รายนี้ ไม่ต่างจากผู้จัดการนักร้องคนแรกนัก กล่าวคือ ทำสัญญากันก่อน

 “ใครจะว่าเขี้ยวหรืออย่างไรก็ไม่ว่า แต่ต้องทำสัญญากันแล้วจ่ายเงิน 30-50 เปอร์เซ็นต์ก่อนในวันสัญญา หลังจากวันนี้ เมื่อใกล้วันจัดงาน หรือก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 1 วันก็ต้องจ่ายเงินที่เหลือทั้งหมด จะไปลุ้นที่งานไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาก็เคยมีกรณีเจ้าภาพยอมทิ้งมัดจำ เราไม่ต้องไปทำการแสดง เพราะเขาประมูลงานไม่ได้ จัดงานไม่ได้ เราก็ไม่คืนมัดจำ เพราะถือว่าเขาทำให้เราเสียโอกาสในการรับงานอื่นๆ แต่ถ้าเป็นเจ้าภาพประจำที่เคยใช้งานกัน เราก็ย้ายคิวให้ เป็นงานอื่นโดยใช้วงเงินมัดจำเดิม”

 สำหรับค่ายเพลงใหญ่ที่มีมาตรฐานในการรับงานนั้น จะให้กฎเหล็กคือ เซ็นสัญญากันอย่างละเอียด โดยเจ้าภาพต้องโอนเงินมัดจำให้อย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ โดยจะจ่ายเป็นเงินโอนหรือเช็คก็ได้ หากเป็นเช็คต้องรอให้บริษัทไปขึ้นเงินให้ได้ออกมาเสียก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเช็คไม่เด้ง หลังจากนั้นก่อนวันงาน อย่างน้อย 7-10 วันจะต้องโอนเงินส่วนที่เหลือมาทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะไม่เดินทางไปทำการแสดงโดยเด็ดขาด และเจ้าภาพไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องเพราะมีสัญญาระบุไว้อย่างชัดเจน