บันเทิง

รู้ทันกฎหมาย - รถหาย

รู้ทันกฎหมาย - รถหาย

01 เม.ย. 2553

เมื่อรถหาย สิ่งแรกที่คิดได้ก็คือการแจ้งความ ก่อนแจ้งความก็อาจคิดถึงบริษัทประกันที่เราไปเสียสตางค์ให้เขาว่าได้เอาประกันไว้แบบชั้นหนึ่งหรือชั้นใด ถ้าได้ตัวช่วยแบบนี้ก็ถือว่าเคราะห์ไม่หนักเสียทีเดียว

  การไปแจ้งความก็ต้องดูว่ารถหายอยู่ในท้องที่หรืออำนาจสอบสวนของสถานีตำรวจไหนก็ไปที่นั่น รวบรวมสติให้ได้ความว่ามันตรงไหน หายได้อย่างไร  มีของในรถอะไรมีมูลค่าราคาเท่าไหร่  นั่นคือความเสียหายจากการที่รถหาย แจ้งความเพื่อให้ตำรวจติดตามเอารถคืนมาพร้อมทั้งเอาตัวคนขโมยมาจัดการตามกฎหมาย ก็อย่าลืมขอคัดประจำวันการแจ้งความเอาไว้

 ถ้าประกันจ่ายเงินให้เราตามที่ได้ตกลงกันไว้ ถือว่าเราได้รับชดใช้ค่าเสียหายแล้ว   จะพอใจหรือไม่ก็ต้องรับไว้ตามที่ตกลงในสัญญา  แล้วก็จัดแจงหารถคันใหม่จะป้ายแดงป้ายขาวอย่างไรก็แล้วแต่

 หากในภายหลังต่อมาได้ตัวคนขโมยรถ หรือว่าได้รถคืนมา  รถก็ยังงคงเป็นของเราต่อไปไม่ได้เปลี่ยนเจ้าของไปให้บริษัทประกัน  แต่สิทธิในการเรียกค่าเสียหายทั้งหลายก็ตกได้แก่บริษัทประกัน  เพราะเขาชดใช้ให้เราไปแล้ว เขาย่อมรับช่วงสิทธิจากเราไปเรียกร้องความเสียหายได้ 

 รถที่ว่าหาย หากไม่ใช่ของเรา  ไปยืมเขามาขับ  คนที่ได้รับความเสียหายก็คือเจ้าของรถ   เขาย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนรถได้ มีสิทธิแจ้งความและเรียกค่าเสียหายได้ และมีสิทธิที่จะได้รับค่าสินไหมเพราะเป็นผุ้เอาประกันภัยไว้กับบริษัทประกัน 

 ในฐานะที่เราเป็นผู้ครอบครองในขณะที่เกิดเหตุรถหาย  เราย่อมเป็นผู้เสียหายด้วยเช่นกัน ไม่ต้องไปตามเจ้าของเสียก่อนก็สามารถไปแจ้งความรถหายได้

 ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งกี่ที่นั่งหรือเป็นมอเตอร์ไซค์ราคาไม่เท่าไหร่ ไม่ว่าจะป้ายแดงออกใหม่หรือไม่   เราอาจไม่ได้ซื้อสดแล้วออกรถมาเลย  ส่วนใหญ่มักจะเข้าไฟแนนซ์ คือการเช่าซื้อ

 ตามกฎหมาย เรายังไม่ใช่เจ้าของรถ เป็นเพียงผู้เช่าซื้อรถมาจากบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งมีชื่อในสมุดทะเบียนเป็นเจ้าของรถ  เราเป็นเพียงผู้ครอบครองรถไว้เท่านั้น  ซึ่งก็ไม่ต่างกันกับการเอารถเขามาใช้นั่นแหละ แต่เนื่องจากเรามีข้อตกลงเป็นสัญญากันไว้กับผู้ให้เช่าซื้อ  จึงมีเรื่องของสิทธิที่ดีกว่าการไปยืมรถเขามาอยู่

 นั่นคือหนี้สินที่เราผูกพันต้องจ่ายค่าเช่าซื้อรายเดือนให้ไฟแนนซ์ตามงวดที่ตกลงกันไว้ ขาดส่งเมื่อไหร่เป็นได้ชื่อว่าผิดสัญญา  มีสิทธิถูกบอกเลิกและยึดรถคืนและเรียกค่าเสียหาย

 ทีนี้พอรถมันหาย เราก็ไม่ได้ใช้รถ  กลายเป็นว่าเราเลยไม่ส่งค่าเช่าซื้อตามกำหนด เพราะจ่ายไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร  ผลร้ายก็จะตามมา เพราะสัญญาเช่าซื้อยังไม่ได้เคลียร์

 ในทางปฏิบัติในการเช่าซื้อรถ  เขาก็จะจัดให้เราเอาประกันภัยรถไว้  เกิดรถหายประกันก็จ่ายสบายผู้ให้เช่าซื้อไป  แต่ราคาที่ขาดตกบกพร่องไปเท่าไหร่ ก็ยังสบายผู้ให้เช่าซื้อและเดือดร้อนเราที่ต้องจ่ายอยู่ดี

 ดังนั้น คิดจะมีรถไว้ใช้ก็ต้องระวังอย่าให้หาย  เช่น ไม่ได้ล็อกรถเอาไว้ ถือว่าประมาทเลินเล่อล่อใจให้คนร้ายมันได้ช่องในการขโมยไป  อย่างนี้ แม้จะไม่มีความผิดทางอาญา แต่ก็มีหน้าที่รับผิดชอบในทางละเมิดฐานที่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

 แต่เมื่ออยู่ในความซวยด้วยเรื่องรถหายเมื่อไหร่  ก็ต้องจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ตามขั้นตอนและวิธีการของกฎหมาย โดยเฉพาะในรายที่ไปเช่าซื้อเขาก็ต้องเข้าเงื่อนไขในสัญญา อย่าถือว่ารถไม่มีให้ใช้สัญญาก็เป็นอันยกเลิกไปตามใจตัวเอง 

 แบบนี้ไม่เพียงรถที่หาย แต่ความเสียหายอื่นจะตามมาหาตัวแน่นอน

"ศรัณยา ไชยสุต"