
รู้ทันกฎหมาย - รถหาย
เมื่อรถหาย สิ่งแรกที่คิดได้ก็คือการแจ้งความ ก่อนแจ้งความก็อาจคิดถึงบริษัทประกันที่เราไปเสียสตางค์ให้เขาว่าได้เอาประกันไว้แบบชั้นหนึ่งหรือชั้นใด ถ้าได้ตัวช่วยแบบนี้ก็ถือว่าเคราะห์ไม่หนักเสียทีเดียว
การไปแจ้งความก็ต้องดูว่ารถหายอยู่ในท้องที่หรืออำนาจสอบสวนของสถานีตำรวจไหนก็ไปที่นั่น รวบรวมสติให้ได้ความว่ามันตรงไหน หายได้อย่างไร มีของในรถอะไรมีมูลค่าราคาเท่าไหร่ นั่นคือความเสียหายจากการที่รถหาย แจ้งความเพื่อให้ตำรวจติดตามเอารถคืนมาพร้อมทั้งเอาตัวคนขโมยมาจัดการตามกฎหมาย ก็อย่าลืมขอคัดประจำวันการแจ้งความเอาไว้
ถ้าประกันจ่ายเงินให้เราตามที่ได้ตกลงกันไว้ ถือว่าเราได้รับชดใช้ค่าเสียหายแล้ว จะพอใจหรือไม่ก็ต้องรับไว้ตามที่ตกลงในสัญญา แล้วก็จัดแจงหารถคันใหม่จะป้ายแดงป้ายขาวอย่างไรก็แล้วแต่
หากในภายหลังต่อมาได้ตัวคนขโมยรถ หรือว่าได้รถคืนมา รถก็ยังงคงเป็นของเราต่อไปไม่ได้เปลี่ยนเจ้าของไปให้บริษัทประกัน แต่สิทธิในการเรียกค่าเสียหายทั้งหลายก็ตกได้แก่บริษัทประกัน เพราะเขาชดใช้ให้เราไปแล้ว เขาย่อมรับช่วงสิทธิจากเราไปเรียกร้องความเสียหายได้
รถที่ว่าหาย หากไม่ใช่ของเรา ไปยืมเขามาขับ คนที่ได้รับความเสียหายก็คือเจ้าของรถ เขาย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนรถได้ มีสิทธิแจ้งความและเรียกค่าเสียหายได้ และมีสิทธิที่จะได้รับค่าสินไหมเพราะเป็นผุ้เอาประกันภัยไว้กับบริษัทประกัน
ในฐานะที่เราเป็นผู้ครอบครองในขณะที่เกิดเหตุรถหาย เราย่อมเป็นผู้เสียหายด้วยเช่นกัน ไม่ต้องไปตามเจ้าของเสียก่อนก็สามารถไปแจ้งความรถหายได้
ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งกี่ที่นั่งหรือเป็นมอเตอร์ไซค์ราคาไม่เท่าไหร่ ไม่ว่าจะป้ายแดงออกใหม่หรือไม่ เราอาจไม่ได้ซื้อสดแล้วออกรถมาเลย ส่วนใหญ่มักจะเข้าไฟแนนซ์ คือการเช่าซื้อ
ตามกฎหมาย เรายังไม่ใช่เจ้าของรถ เป็นเพียงผู้เช่าซื้อรถมาจากบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งมีชื่อในสมุดทะเบียนเป็นเจ้าของรถ เราเป็นเพียงผู้ครอบครองรถไว้เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ต่างกันกับการเอารถเขามาใช้นั่นแหละ แต่เนื่องจากเรามีข้อตกลงเป็นสัญญากันไว้กับผู้ให้เช่าซื้อ จึงมีเรื่องของสิทธิที่ดีกว่าการไปยืมรถเขามาอยู่
นั่นคือหนี้สินที่เราผูกพันต้องจ่ายค่าเช่าซื้อรายเดือนให้ไฟแนนซ์ตามงวดที่ตกลงกันไว้ ขาดส่งเมื่อไหร่เป็นได้ชื่อว่าผิดสัญญา มีสิทธิถูกบอกเลิกและยึดรถคืนและเรียกค่าเสียหาย
ทีนี้พอรถมันหาย เราก็ไม่ได้ใช้รถ กลายเป็นว่าเราเลยไม่ส่งค่าเช่าซื้อตามกำหนด เพราะจ่ายไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผลร้ายก็จะตามมา เพราะสัญญาเช่าซื้อยังไม่ได้เคลียร์
ในทางปฏิบัติในการเช่าซื้อรถ เขาก็จะจัดให้เราเอาประกันภัยรถไว้ เกิดรถหายประกันก็จ่ายสบายผู้ให้เช่าซื้อไป แต่ราคาที่ขาดตกบกพร่องไปเท่าไหร่ ก็ยังสบายผู้ให้เช่าซื้อและเดือดร้อนเราที่ต้องจ่ายอยู่ดี
ดังนั้น คิดจะมีรถไว้ใช้ก็ต้องระวังอย่าให้หาย เช่น ไม่ได้ล็อกรถเอาไว้ ถือว่าประมาทเลินเล่อล่อใจให้คนร้ายมันได้ช่องในการขโมยไป อย่างนี้ แม้จะไม่มีความผิดทางอาญา แต่ก็มีหน้าที่รับผิดชอบในทางละเมิดฐานที่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
แต่เมื่ออยู่ในความซวยด้วยเรื่องรถหายเมื่อไหร่ ก็ต้องจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ตามขั้นตอนและวิธีการของกฎหมาย โดยเฉพาะในรายที่ไปเช่าซื้อเขาก็ต้องเข้าเงื่อนไขในสัญญา อย่าถือว่ารถไม่มีให้ใช้สัญญาก็เป็นอันยกเลิกไปตามใจตัวเอง
แบบนี้ไม่เพียงรถที่หาย แต่ความเสียหายอื่นจะตามมาหาตัวแน่นอน
"ศรัณยา ไชยสุต"