"โตโน่" ปลงผมบวช ฉายา "สุทธิสัทโธ" มีสัมผัสพิเศษ พญานาค ตอนว่ายน้ำข้ามโขง

ขออนุโมทนาบุญ กับ "โตโน่" ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ วัย 36 ปี พร้อมเพื่อนอีก 3 คน คือ นายชูชาติ ไทยแย้ม , นายวรวัฒน์ สภาวสุ และนายฉัตรินทร์ วุฒิสิริบูรณ์ ทีมครูฝึกว่ายน้ำ ที่ร่วมในกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขง โครงการหนึ่งคนว่ายหลายคนให้ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ปลงผม เตรียมเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวานนี้ 8 มกราคม 2566 เวลา 15.09 น. ที่ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมี พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม เป็นประธาน นำคณะสงฆ์ในฐานะประอุปัชฌาย์ ประกอบพิธีขอขมาบุพการี ผู้มีพระคุณ

โดยภายหลัง เปิดบัญชีรับบริจาค จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ มอบแก่โรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทางดาราหนุ่มจึงได้มีความตั้งใจที่จะอุปสมบท เพื่อตอบแทนคุณทั้งชาวไทยและชาวลาว ที่สมทบเงินบริจาคในกิจกรรมครั้งนี้ จึงได้มีการประกอบพิธีขอขมา ก่อนที่จะเข้าพิธีขลิบผม ปลงผมนาค และเข้าสู่พิธีบายสู่ขวัญนาคตามประเพณี 

ส่วนพิธีอุปสมบทจะมีขึ้นในเช้าวันที่ 9 มกราคม 2566 ในครั้งนี้ มีคุณแม่น้อย-นางสุดลมโชย คำวิลัยศักดิ์ พร้อมดาราสาว ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ หวานใจดาราหนุ่มโตโน่ และญาติสนิทมิตรสหาย ตลอดจนทีมงาน ประชาชน นักท่องเที่ยว ร่วมสาธุบุญให้กำลังใจผู้อุปสมทบตลอดเวลา โดยโตโน่ ได้ฉายาในการอุปสมบท "สุทธิสัทโธ" แปลว่า ผู้มีจิตบริสุทธิ์

นางสุดลมโชย คำวิลัยศักดิ์ แม่ดาราหนุ่มโตโน่ เปิดเผยว่า "วันนี้รู้สึกภาคภูมิใจดีใจมากที่ลูกชายคนเดียว คือโตโน่ ภาคิน ได้สำนึกในบุญคุณแผ่นดิน รวมถึงประชาชนชาวไทย ชาวลาว ที่สนับสนุนบริจาคกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขงช่วยหาอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลนครพนม ยอมรับรู้สึกตื้นตันใจจนบอกไม่ถูก ที่ลูกชายจะเข้าพิธีอุปสมบทเป็นครั้งที่ 2 โดยก่อนนี้เคยอุปสมบทในช่วงอายุประมาณ 25 ปี สำคัญที่สุดการอุปสมบทครั้งนี้ ขอให้ทุกคนได้อานิสงส์ผลบุญร่วมกัน และมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง เจริญรุ่งเรืองกันทุกคน และขอให้องค์พระธาตุพนมคุ้มครอง"

ด้าน "โตโน่" เปิดเผยว่า "ตนรู้สึกปลื้มใจดีใจที่สุดในชีวิต ที่ได้ทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเฉพาะโครงการว่ายน้ำข้ามโขง "หนึ่งคนว่ายหลายคนให้" จนได้รับบริจาคสนับสนุนโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ที่จะเปิดประโยชน์ในการบริการด้านสุขภาพทั้งคนไทยคนลาว สิ่งเดียวที่จะตอบแทนได้คือ การบวชเพื่อทดแทนคุณ และกราบขอบพระคุณทุกกำลังใจที่ให้การสนับสนุน ตนตั้งใจว่าจะปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา และทำกิจวัตรของสงฆ์ให้ดีที่สุดตลอดระยะเวลา 7 วัน ทั้งนี้ในวันที่ 11 มกราคม 2566 จะเดินทางไปจำวัดที่พระธาตุศรีโคตรบูรณ์ (พระธาตุศรีโคตตะบอง) แขวงคำม่วน สปป. ก่อนที่จะกลับมาลาสิกขาวัดพระธาตุพนมฯ ในวันที่ 15 มกราคม 2566

ส่วนความเชื่อเรื่องพญานาค วันนั้นขณะว่ายอยู่ในแม่น้ำโขง ได้สัมผัสอะไรหลายอย่าง เกี่ยวกับพญานาค และส่วนตัวเชื่อว่าพญานาคมีจริง ซึ่งเชื่อมโยงมาถึงองค์พญาศรีสัตตนาคราช รวมถึงองค์พระธาตุพนมที่มีเหล่าพญานาค 7 ตนคอยดูแลปกปักษ์รักษา แต่ก็เป็นความเชื่อส่วนตัวยากที่จะอธิบาย ยืนยันว่ามีสัมผัสพิเศษหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับตนเองจริง เหตุการณ์ตรงนี้ขอไม่เปิดเผยเดี๋ยวจะถูกจับมาเป็นประเด็น

การบวชครั้งนี้ จะเป็นการสร้างบุญกุศลส่งผลานิสงส์นี้ให้องค์พญานาคด้วย ส่วนกรณีถามว่า หลังลาสิกขามีการวางแผนที่จะสร้างชีวิตครอบครัวหรือไม่ ขอตอบว่ายังไม่คิดเรื่องนี้ ยังไม่มีการวางแผนสร้างชีวิตครอบครัว ช่วงนี้ขอทำงานและอุทิศตนช่วยเหลือสังคมให้เต็มที่ก่อน และทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด"

ข่าว : พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล จ.นครพนม

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก : molnaka_