ช่องวัน มาแรง เรตติ้งพุ่ง ไม่แคร์เพื่อนบ้าน ดาราหน้าใหม่ แจ้งเกิดกันเป็นแถว

โดยเมื่อช่วงต้นปี 2565 "บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท เดอะ วันฯ เจ้าพ่อสื่อโทรทัศน์ของเมืองไทย เคยเปิดใจทั้งน้ำตา เล่าวินาทีตัดสินใจ ทุ่มเงินเก็บทั้งชีวิต เทหมดหน้าตักพลิกอนาคตช่อง ONE บอกแพ้ไม่ได้ ถ้าไม่รุ่งก็ล่ม 

 

"จะบอกง่ายๆ ว่าเราไม่ยึดติด เพราะโลกมันเปลี่ยนไป เราต้องทำละครให้คนสมัยนี้ดู ตัวละครที่จะ Attractive กับเขา นางเอกโง่ไม่ได้แล้วไงในสมัยนี้ ถ้าละครไทยสมัยนี้นางเอกโง่คนดูเปลี่ยนช่อง คือคุณอย่าลืมว่าละครมันคือ Reflection ของสังคมในแต่ละยุคนะ เพราะฉะนั้น Logic ตัวละครจะเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนพระเอกต้องยอม เพราะฉันเป็นคนดี ฉันไม่สู้ พ.ศ นี้คนบอกโง่

 

การไม่ยึดติด เปิดกว้าง ไม่เสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง อะไรผ่านๆ ไปได้บ้าง ก็ผ่านไป Secret to Success คือ รู้ว่าคุณรู้อะไร และรู้ด้วยว่าคุณไม่รู้อะไร แต่ถ้าเกิดคุณต้องทำในสิ่งที่คุณไม่รู้ไปหาคนอื่นมาทำ มันไม่ต้องรู้ทุกอย่างชีวิตคนเรา มันไม่ต้องทำเป็นทั้งหมด ไปหาคนที่เก่งๆ ที่เขามีประวัติที่ดีเข้ามาทำกับเราสิ แต่ในขณะเดียวกันในความเปิดกว้าง เราก็ต้องกลับมา QC แล้วก็ดูว่า Target หรือ Community ของเราเขารับไหม มันต้องกลับมาดู ไม่ใช่เปิดกว้างไปหมดสุดท้ายอะไรก็ไม่รู้ อันนี้ก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นมันคือการบาลานซ์

การเข้าตลาดหลักทรัพย์ ดีครับ แต่หนักขึ้นมาหน่อยเพราะความรับผิดชอบมันมากขึ้น วันแรกที่เข้าตลาด หลายๆ คนก็จะบอกว่างานที่ทำมาเรียบร้อยแล้วจบลง ต้องบอกว่าไม่จบหรอกครับมันเริ่มต้นใหม่ครับ เพราะว่าเมื่อก่อนนายผมคือผู้ถือหุ้นไม่กี่คน แต่ตอนนี้นายผมมีผู้ถือหุ้นเป็นพัน เพราะฉะนั้นมีอะไรแบบนี้ขึ้นความรับผิดชอบมันมากขึ้นอยู่แล้ว ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะต้องทำบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ว่าในวันที่เราต้องมาร่วมลงทุนใน ONEE ยังไงก็ต้องเข้า ถ้าย้อนไปเมื่อเวลาปี 2014-2015 พอได้ช่องมาไม่กี่เดือนมั้งก็จะกลายเป็นดิจิตอลดิสรัปชั่น คนก็จะบอกว่าพวกที่ได้ช่องมาแย่แล้ว เจ๊งแน่

 

ถามว่าหวั่นไหม แน่นอนสิ แน่นอนคนดูน้อยลงแหละ แต่เราก็มีความเชื่อมั่นว่าทีวีก็ยังอยู่ แต่เราจะหารายได้อะไรเพิ่มเข้ามา ทำให้เราย้อนกลับไปดูตัวเองว่าจริงๆ เราเป็นใคร เราเป็นคนทำคอนเทนต์ไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้นชาแนลต่างๆ ที่มีเพิ่มมากขึ้นในโลกออนไลน์ แปลว่ามันมีโอกาสเพิ่มขึ้น ก็เลยเป็นการหาอย่างอื่นมาเพิ่มมาเสริมไม่ใช่แค่ช่องทีวี และนั้นคือ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ เราไม่ใช่แค่ช่องทีวี

พอมันมีโอกาสมากขึ้น เอื้อให้เราสามารถทำอะไรได้แตกต่างมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนเวลาเราจะทำละครโทรทัศน์สักเรื่อง เราก็ต้องดูแล้วว่าจะได้เรตติ้งไหม แล้วถ้าจะได้เรตติ้งต้องทำยังไง พอมันมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ยิ่งจอเล็กลงเขายิ่ง Concentrate เพราะฉะนั้นความธรรมชาติของการแสดงมันมีเพิ่มมากขึ้น แปลว่าอะไร แปลว่ามันมีความสากลได้มากขึ้นหรือเปล่า มีความออนไลน์เข้ามา เราเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไม่ใช่แค่ช่องทีวี เราก็เลยสามารถที่จะผลิตคอนเทนต์ที่คิดว่ามันจะไปเข้าตาต่างชาติได้มากขึ้น

 

ถ้าพูดกันภาษาบ้านๆ คือเราโกอินเตอร์ได้ง่ายขึ้น แล้วเราก็ทำมาแล้ว อย่าง Girl From Nowhere แนนโน๊ะ ก็ได้รางวัลต่างๆ มากมายในปีที่ผ่านมา เป็นนิมิตหมายที่ดี และอีกอันหนึ่งพูดตรงๆ เลยว่าขอบคุณเกาหลีใต้นะ ที่มีทั้ง Squid Game หรือว่า BTS อะไรต่างๆ ที่เขาเปิดตลาดเอเชียให้กับชาวโลกได้เห็น และทำให้คนหันมามองเอเชีย ถ้าพูดกันตรงๆ จากเกาหลีใต้ Next Step เขาก็มองมาที่ไทย เพราะเราก็ทำคอนเทนต์ที่เข้าตาคนนอกประเทศได้อยู่พอสมควร

วันที่เปี่ยมสุขที่สุดในชีวิต อาจจะก่อนที่จะประมูลช่องทีวีด้วยซ้ำ ตอนนั้นผมดูแล บริษัท เอ็กแซ็กท์ (Exact) และบริษัทซีเนริโอ (Scenario) ณ ตอนนั้นผมคิดว่าเราก็มีความสุขกับการผลิตคอนเทนต์ ทำละคร ทำซีรีส์ ทำละครเวที ทำซิทคอม ทำคอนเสิร์ต เราสนุกอ่ะ พอมันเกิดดิจิตอลดิสรัปชั่นขึ้น ตรงนี้มันก็กลายเป็นโอ๊ยตายแล้วฝุ่นตลบ อันนั้นเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากในชีวิต มันเป็นจังหวะการตัดสินใจที่มันหนักมากนะ ก็มีการพูดคุยกับทาง GMM ผมบอกว่ามันต้องลงแล้วครับ ไม่งั้นตกรถไฟนะ มันเสี่ยงมากนะ มันลงทุนสูงมากนะ

 

ทางแกรมมี่ก็ยังมีความกล้าๆ กลัวๆ จนมีคำถามที่แบบมาร่วมลงทุนกันไหมล่ะ ผมก็บอกเอา แต่ว่ามันก็ลงทุนสูงจริงๆนะ มันก็ต้องกู้หนี้ยืมสินนะ ต้องไปกู้แบงค์นะ มีผู้ใหญ่ที่เป็นทางการเงินเขาก็บอกว่าคุณแน่ในเหรอ นี่มัน Your life saving ผมก็ตัดสินใจหนักมากตอนนั้น คือการที่เราเป็น Production Company มีทีมงานเต็มไปหมดเลย แล้วเรามีความเชื่อว่าเราลงทุนแล้วมันจะดี แต่โอกาสมันก็ไม่ได้เยอะ ณ ตอนนั้น แต่ถ้าเราไม่ลงทุนมันจะเกิดอะไรขึ้น เราจะไปต่อในวงการนี้ได้ไหม ไม่ใช่แค่เราลูกน้องอีกทั้งไม่รู้เท่าไหร่ ผมมีออฟชั่นอยู่ 2 ออฟชั่น ผมลงทุนแล้วก็ไปกันต่อ กับอีกออฟชั่นหนึ่งก็คือแยกย้ายดีใจที่รู้จักกัน เพราะมันไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ผมก็เลยเลือกออฟชั่น ที่ว่ามาทำกันต่อ มาอยู่ด้วยกัน

 

ทำไมเสียน้ำตาเวลาพูดถึงเรื่องนี้ เพราะมันคือเงินเก็บทั้งชีวิต คือผมยังเชื่อในพลังในการทำงานของผมและทีม ผมยังเชื่อในวิสัยทัศน์ ยังเชื่อในวิธีคิด และผมยังเชื่อในแพชชั่น เชื่อในพลังที่จะเดินต่อ ศักยภาพและความสามารถของคนที่อยู่ในทีมทุกคนที่จะไปต่อด้วยกัน"

สำหรับ สุดยอดละคร ของช่องวัน ในปี 2565 เรตติ้งปัง กระแสเปรี้ยง แจ้งเกิดคู่จิ้น ดาวเด่น แบบไม่ทันตั้งตัว มีดังนี้ 

• ประเดิมที่ละครหลังข่าว เรื่องแรกของปี "สิเน่หาส่าหรี" ละครแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ ซึ่งเป็นการโคจรมาเจอกันครั้งแรกของ พระนาง "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" และ "ฌอห์ณ จินดาโชติ" เคมีก็ดีเกินต้าน ร่วมด้วยทัพนักแสดงมากฝีมือล้นจอ ริชชี่ อรเณศ , ก้อง วิทยา , แหม่ม คัทลียา , ลิลลี่ ภัณฑิลา ฯลฯ ด้วยฝีมือสุดปัง บวกด้วยพลังความเข้มข้นของบท คอสตูมสุดอลังการ และสถานที่ถ่ายทำสุดจึ้ง ส่งให้ “สิเน่หาส่าหรี” เป็นละครสุดปัง อันดับ 4 GOOGLE TRENDING ที่มีคนค้นหามากที่สุดในปี 2565  
• "ใต้หล้า" ละครดราม่า ฟอร์มยักษ์ เป็นอีกหนึ่งเรื่อง ที่กระแสแรง ตั้งแต่ละครยังไม่ออนแอร์ ทันทีที่เปิดรายชื่อนักแสดงตัวพ่อ ตัวแม่ ออกมา แฟนละครก็เรียกร้องอยากชม เข้ามาทุกช่องทาง นำโดย 4 พระนาง ฝีมือเฉียบ ต่อ ธนภพ , ไบร์ท นรภัทร , เพลงขวัญ นัตยา , เบญ เรวิญานันท์ ร่วมด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่ ดอม เหตระกูล , ตู่ นพพล , ดวงดาว จารุจินดา ฯลฯ งานนี้ เสียงชื่นชมล้นหลาม ถึงบทที่เข้มข้น และนักแสดงที่ตีบทแตกทุกอารมณ์ โดยเฉพาะ "ต่อ" ที่แฟนละครเทใจเชียร์ ไปกับเสน่ห์การแสดง สมกับความเป็นนักแสดงมือรางวัล ฟาก "ไบร์ท" ก็ระเบิดพลังการแสดงได้ถึงใจ ด้วยบทพระเอกร้าย แต่แฟนละครกลับเทใจรัก จนดังเป็นพลุแตก เพราะคาแรคเตอร์ และตัวตนของไบร์ท ทัชใจแฟนละครไปเต็มคาราเบล เรียกว่าพลังความปังของทีมนี้ ส่งให้ละครฮิต ติดอันดับ 1 GOOGLE TRENDING ที่มีคนค้นหามากที่สุดในปี 2565 อีกด้วย
• "วิวาห์ฟ้าแลบ" ละครดราม่า คอมเมดี้ ที่คว้า พระนาง ปุ๊กลุ๊ก ฝนทิพย์ และ โตโน่ ภาคิน โคจรมาร่วมงานกันครั้งแรก กับเรื่องราวของรักหลอก วิวาห์ลวง ที่ทั้งคู่ใส่เต็มทุกอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นดราม่าสุดเข้มข้น หรือ ความฮา ที่โบ๊ะบ๊ะจัดหนัก ทำให้เคมีความลงตัวของคู่นี้ กระแทกต่อมความสนุกแฟนละครทั่วประเทศ จนกลายเป็น ละครเรตติ้งสูงที่สุดของช่องวัน31 ในช่วงเวลา 20.30 น.

• "คุณชาย" แม้เพิ่งจะลาจอไปไม่นาน แต่กระแสความปัง ยังแรงต่อเนื่อง เพราะเป็นละครดราม่าฟอร์มใหญ่ สุดเข้มข้น ที่รวมทัพนักแสดงระดับขั้นเทพ ทั้งรุ่นใหญ่ และรุ่นเล็กมากฝีมือ มาถ่ายทอดบทสุดท้าทาย นำโดย ฟิล์ม ธนภัทร , แจม รชตะ , ตงตง กฤษกร , แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ , ป๊อก ปิยธิดา , เป้ย ปานวาด , มิลลี่ คามิลล่า ฯลฯ กับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญ ของ ฟิล์ม ในบทชายรักชายครั้งแรกนี้ พิสูจน์ถึงความเป็นนักแสดงมืออาชีพตัวจริง ที่เอาอยู่ทุกโหมดอารมณ์ จนแฟนละครเทใจโหวตให้ยืนหนึ่ง ตำแหน่ง นักแสดงนำชายแห่งปี ฟากนักแสดงหนุ่มน้องใหม่ แจม ก็ฮอตไม่เบา เพราะกระแสความฟิน ดันให้ ฟิล์ม-แจม กลายเป็น คู่จิ้นห้างแตก ที่ไม่ว่าจะขยับหรือทำอะไร ก็กลายเป็นกระแสไปหมด ที่สำคัญ ละครเรื่องนี้ เป็นที่ถูกกล่าวถึงอย่างล้นหลามทุกช่องทางโซเชี่ยล จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยอันดับ 1 ทุกสัปดาห์ รวมถึงความปัง ยังดังไกลถึงต่างแดน จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของโลก หลายสัปดาห์ อีกด้วย

มาที่ฟากละคร 1 ทุ่ม ที่ช่องวัน ยืนหนึ่งความเป็นผู้นำคอนเทนต์

• เริ่มกันที่ "ทายาทพันธุ์ข้าวเหนียว" ที่ได้คู่ซุปเปอร์สตาร์ลูกทุ่งขวัญใจมหาชน ต่าย อรทัย และ ไผ่ พงศธร โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้ง เสริมทัพด้วยนักแสดงและนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ไข่มุก รุ่งรัตน์ , ก้อง วิทยา , อาร์ อาณัตพล , ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม , หญิงลี ศรีจุมพล ฯลฯ โดยการพลิกคาแรคเตอร์ของ สาวต่าย จากบทเรียบร้อย เจ้าน้ำตา มาเป็นสาวนักบู๊ สายเตะ ต่อย สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนละคร และแฟนเพลง อย่างมาก ส่งให้เป็นละครที่มีเรตติ้งสูงที่สุด ในช่วงเวลา 1 ทุ่ม
• "บอดี้การ์ดหมอลำ" ละครครบรส ที่ทั้งบู๊ ทั้งฮา สไตล์อีสาน กับเรื่องราวสุดชุลมุนวุ่นรัก ของตำรวจมือปราบ ผู้มีใจรักหมอลำ  กับคุณหมอไฮโซ ทายาทเศรษฐีพันล้าน นำแสดงโดย พระเอก พ้อยท์ ชลวิทย์ ประกบคู่ นางเอก แนท อนิพรณ์ พร้อมทัพนักร้องหมอลำ และนักแสดงรุ่นเล็ก-รุ่นใหญ่ อาทิ แซ็ค ชุมแพ , ข้าวทิพย์ ธิดาดิน , หนุ่ม สุรวุฑ , อี๊ด โปงลางสะออน , ปอยฝ้าย มาลัยพร ฯลฯ 
• และที่กำลังฮอตติดลมบน จนเรตติ้งดีดสูงต่อเนื่องขึ้นทุกสัปดาห์ ด้วยเรตติ้งที่กำลังทะยานสู่ เลข 8 เร็วๆ นี้ กับละคร "ซิ่นลายโส้" ละครดราม่าสุดเข้มข้นส่งท้ายปี ที่ขนทัพนักแสดง มาสาดอารมณ์ใส่กันเต็มเหนี่ยว กับเรื่องราวปมครอบครัวที่พลัดพราก ซึ่งมีเพียงผ้าซิ่นลายโส้ ที่จะทำให้พวกเค้าได้กลับมาเจอกัน นำโดย คู่พระนาง กั้ง กรณ์ และ ไข่มุก รุ่งรัตน์ เสริมทัพด้วย กัปตัน ภูธเนศ , สุนารี ราชสีมา , น้ำผึ้ง ณัฐริกา ฯลฯ เรียกว่า เป็นละครส่งท้ายปีนี้ ที่กำลังได้รับความนิยมจากแฟนละครต่อเนื่อง เชื่อว่า ความสนุก สุดเข้มข้น จะส่งให้ละครเรื่องนี้ โกยเรตติ้ง 2 หลัก เป็นของขวัญส่งท้ายปีนี้  ได้ไม่ยาก แน่นอน

ขอบคุณข้อมูล ช่องวัน และ รายการ WOODY FM