"อีซึงกิ" ชอกช้ำใจ ตลอด 18 ปี ถูกค่ายเพลงชวดเงิน ล่าสุด เงินเข้า 5000 ล้านวอน

เรื่องราวชวนช็อก แห่งวงการบันเทิงฟากเกาหลี เป็นที่รู้ว่า การทำงานในวงการ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความสามารถ ฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย จวนจนเมื่อช่วงเดือน พ.ย. 2565 สำนักข่าว Dispatch ของประเทศเกาหลีใต้ ได้รายงานข่าวสุดช็อก นักแสดงหนุ่ม แนวหน้าของเกาหลี "อีซึงกิ" (Lee Seung Gi) ตลอด 18 ปีในวงการบันเทิง ไม่เคยได้รับคาตอบแทนในการทำเพลง จากต้นสังกัด ค่าย Hook Entertainment 
 

ย้อนไปเมื่อช่วงปี 2004 "อีซึงกิ" เริ่มจากการเดบิวต์เป็น นักร้อง และทำสัญญากับทางค่าย Hook Entertainment ว่าจะได้รับรายได้ 60 เปอร์เซนต์จากยอดขายเพลง ซึ่งเพลงของเขาได้รับความนิยม โดยมีผู้นำไปใช้เป็นเสียงเรียกเข้า เสียงรอสาย และทางแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วยผลงานเพลงกว่า 137 เพลง 27 อัลบั้ม ซึ่งรายได้ตั้งแต่ตอนนั้นจนถคงตอนนี้ สูงถึง 256 ล้านบาท แต่สาเหตุที่ไม่ได้รับเงิน เกิดจากการที่ค่ายต้นสังกัดกล่าวว่า เป็นนักร้องที่ไม่ทำเงิน 

ความคืบหน้าล่าสุด "อีซึงกิ" ได้เปิดใจผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า "นานแล้วที่ไม่ได้ทักทาย สวัสดี ครับ ผม "อีซึงกิ" คงพูดไม่ได้ว่า ผมสบายดี ผมรู้สึกผิดหวัง และถูกหักหลัง ในหนึ่งวันผมใช้เวลาไปกับการเคียดแค้น และกล่าวโทษตัวเอง จนเมื่อเช้านี้ มียอดเงินเข้ามา 5000 ล้านวอน ค่าย Hook Entertainment อาจจคิดว่า ผมดําเนินการทางกฎหมาย เพียงเพราะต้องการเงิน แต่ผมไม่เคยรับบิลค่าเพลงเลยด้วยซ้ำ และพวกเขายังพยายามที่จะปิดคดีนี้โดยการจ่ายเงินที่ค้าชำระ นถึงตอนนี้ผมไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเพลงผมมีรายได้

ตลอด 18 ปีที่ผ่านมา ผมทนฟังคำว่า "นักร้องติดลบ" (นักร้องที่ไม่สามารถสร้างรายได้) ทั้งที่คุณค่า หยาดเหงื่อของใครบางคน ไม่ควรถูกใช้อย่างอยุติธรรม เพราะความโลภของใครบางคน ตอนนี้ ผมได้รับเงิน 5000 ล้านวอน โดยไม่รู้ว่า ทางค่ายคำนวณจากอะไร

หลังจากนี้ คงเป็นกระบวนการที่ต้องเจรจากันทางศาลต่อไป ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ ผมอยากจะขอโทษสาธารณชนที่จะต้องมารับรู้ในเรื่องนี้ ผมสัญญาว่า จะบริจาคเงินทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ที่ขัดสน ช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ผมจะเริ่มวางแผนการบริจาคเงิน ซึ่งไม่มากพอที่จะช่วยทุกคน แต่ผู้คนจำนวนมากที่ให้ความสนับสนุนผมคอยปลอบโยน และนี่มีพลังต่อผมมาก ขอบคุณที่ทำให้ผมได้รับความรักอีกครั้ง ผมจะตอบแทนความรักทุกคน" อย่างไรก็ตาม เรื่องราวนี้ยังอยู่ในกระบวนการตัดสินทางศาล ซึ่งจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวต่อไป