"เบสท์ รักษ์วนีย์" ยังไม่เลิก "ตงตง" ลงรูปหวานน้อยลง เพราะเครียด โดนด่า

ก่อนหน้านี้ "เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์" เกิดอุบัติเหตุ ล้มหัวฟาดในห้องน้ำ ท่ามกลางกระแสข่าวลือ เป็นเพราะเครียดหนัก ถูกสงสัย เลิกกับแฟนหนุ่ม "ตงตง กฤษกร กนกธร" ซึ่งเธอเปิดใจว่า "หนูไม่รู้เลยว่าหนูเป็นอะไร หนูแค่รู้สึกปวดปัสสาวะ แล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็ล้มลงไปเลย จำอะไรไม่ได้เลย รู้ตัวเพราะว่าเจ็บหน้า พอตื่นขึ้นมาหน้าแนบกับพื้น อ้าว นี่เราล้มเหรอ ล้มนานไหม จำไม่ได้เลยค่ะ เพราะมันวูบไปเลย 

ปกติหนูก็นอนดึกค่ะ แต่ไม่เคยเป็น อันนี้เป็นครั้งแรกที่เป็นอย่างนี้ หลักๆ เจ็บแก้ม เพราะเหมือนกระดูกมันลงไป มันปูดขึ้นมาเลย ก็เลยต้องรีบประคบ ก็มีปรึกษาหมอ เขาก็บอกว่าเราเลือดจาง ผู้หญิงเป็นเยอะ จะหน้ามืดเป็นลมง่าย หมอก็บอกว่าให้กินธาตุเหล็กเพื่อเสริมเลือด เขาตรวจเลือด เหมือนเม็ดมันน้อยกว่าอีกเม็ดเลือดหนึ่ง แต่สมองยังปกติค่ะ เขาบอกให้บำรุงเลือดเยอะๆ กินวิตามิน

ถูกสงสัยว่า มีเรื่องเครียด เกี่ยวกับ "ตงตง" ไม่มีค่ะ ไม่เกี่ยวกับข่าว หนูไม่รู้ว่าเกี่ยวไหม แต่คิดว่าไม่น่าเกี่ยวนะ เพราะเมื่อก่อนเครียดก็ไม่ได้ล้ม อันนี้น่าจะเป็นสุขภาพมากกว่า หนูจำไม่ได้ว่าตอนนั้นเครียดเรื่องอะไรมันมีมาตลอด เรื่องข่าวอันนั้นไม่ได้เครียด น่าจะเป็นคอมเมนต์หรือเปล่า

ยังคบกันอยู่ค่ะ พี่เขาตอบว่าอะไรคะ แล้วทำไมให้หนูตอบก่อน หนูเห็นเขาไปออกงานล่าสุด พี่ๆ ไม่เห็นถามพี่ตงเลย แล้วมาถามหนู หลักๆ คือหนูไม่อยากให้ทุกคนมารุมถามหนู เพราะสุดท้ายถ้าหนูตอบไปคนก็ว่าหนู ก็เลยบอกพี่ตงเสมอว่าถ้าเป็นไปได้ก็ให้พี่ตงพูดดีกว่า เพราะว่าหนูโดนตลอด เป็นผู้หญิงก็โดนตลอด 

หนูยังคบกันอยู่ค่ะ หนูเคยมองในมุมกลับกัน จากที่เราเคยลงรูปกัน แล้ววันนึงรูปหายไปหรือสตอรี่หายไป ก็เป็นธรรมดาที่คนจะคิดว่า เอ๊ะยังไง ความหวานไม่ได้หายไป ถ้าใครที่ดูคลิปยูทูปหนูก็ยังถ่ายกับพี่เขา แต่แค่ในไอจีไม่ได้ลงเฉยๆ คือพี่เขามีละครก็ให้เขาทำงานตรงนั้น เรายังเจอกันปกติ แต่การถ่ายรูปไม่ค่อยลง เพราะถ้าลงแล้วมีปัญหาหนูก็ไม่ลงดีกว่า ก็คบกัน 2 คน ก็สบายใจ ก่อนหน้านี้เวลาลงรูปมีกระแสทั้งบวกและลบค่ะ แต่หลักๆ ก็เกิดจากการคุยกัน พี่เขาก็ทำงานด้วย ซึ่งงานพี่เขามันก็ไม่ได้ลงได้ขนาดนั้น ก็เลยโอเค งั้นเราก็ไม่ลง

ถูกผู้ใหญ่ขอให้ลดความหวาน อันนี้ไม่รู้ค่ะ ต้องไปถามพี่เขา แต่สำหรับหนูลงได้ แต่ถ้าหนูไม่ได้ลงเยอะ เดี๋ยวก็ด่าหนูอีกว่าลงเยอะ ก็เลยแบบว่า รอเขาก่อนละกัน ที่ผ่านมาเราไม่ได้ปรับกันหรอกค่ะ เพราะเราสองคนค่อนข้างคลิกกันมากๆ เลยนะคะ ไม่ได้ทะเลาะกันอะไรกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากรอบตัวเราทั้งนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากภายนอกทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์ต่างๆ กระแสต่างๆ การพาดหัวข่าว ก็ทำให้เราร้องไห้กันทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำอะไรหรือทำผิดต่อกัน ถามว่าคอมเมนต์กระทบความสัมพันธ์ไหม มันเป็นช่วงๆ ค่ะ บางช่วงก็เยอะ บางช่วงก็ไม่เยอะ ฝ่ายที่คิดมากก็น่าจะเป็นฝ่ายหนู คือเราเป็นผู้หญิง เวลาเราโดนด่ามันก็เจ็บ

มีช่วงหนึ่งเครียด เคยจะไปหาหมอ แต่สุดท้ายเราค้นพบว่า การใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน ใช้ชีวิตบ้าๆ บอๆ กับเพื่อนมันก็ทำให้ลืมได้เหมือนกัน ก็เลยอยู่กับเพื่อน ถามว่าถึงขั้นจะไม่ไปต่อไหม ต้องขอบคุณพี่ตง เพราะเขาไม่เคยแว๊บเลย ก็ยืนยันว่าเข้าใจกันดี ปัญหาไม่ได้กระทบความสัมพันธ์ค่ะ ต้องขอบคุณเขาที่ยังหนักแน่น ที่จะจับมือกับหนูต่อ เพราะว่าทุกครั้งที่เกิดดรามา เหมือนเราถาม สมมติมันเกิดข่าวนี้ แต่พี่ไม่ได้ตอบ แต่พาดหัวข่าวแบบนี้แล้วคนด่าหนู แล้วเราจะไปยังไงต่อดี คนด่าหนู เขาก็ยืนยันว่าเขาจะไปต่อ เรามั่นใจกับเขา แต่เราห้ามคอมเมนต์คนอื่นไม่ได้ ห้ามคนภายนอกไม่ได้ คือหนูกับพี่เขาปกติ มันเหมือนเดิม แต่ว่าปัจจัยภายนอกมันมีปัญหาเข้ามา เราก็คุยกัน พี่เขาก็บอกว่าเดินไปด้วยกัน ต้องจับมือกัน ความสัมพันธ์เราไม่มีอะไร แต่คนคิดว่ามี หนูก็อยากให้พี่ไปถามเขาบ้าง เพราะหนูตอบเดี๋ยวหนูก็โดนด่า

ถามว่าเกี่ยวไหมที่บอกว่าไม่อยากโพสต์ข้อความอะไรแบบนี้แล้ว คือตอนนั้นหนูไปเที่ยวกับเพื่อน หนูก็ลงแล้วเป็นข่าว อย่างล่าสุด หนูชอบพี่แจ็คสัน พอลงก็เป็นข่าว ก็เลยไม่โพสต์อะไรแล้วดีกว่า นอยด์ไหมหนูก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วตอนนี้ ถ้ามีปัญหาหนูก็ลบโพสต์แล้วใช้ชีวิตต่อ บางทีหนูรู้สึกว่าหนูไม่ได้ทำอะไรผิดมาก ไม่ได้ผิดร้ายแรง แต่สิ่งที่โดนด่าเหมือนเราทำผิดขนาดนั้น เมื่อก่อนหนูผ่านได้นะ แต่ทุกวันนี้พอโดนเยอะๆ มันก็ไม่ได้ คนเราพอสุดท้ายโดนเยอะก็ต้องยอมรับว่าเราก็ไม่ไหว พี่ตงก็ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ หนูว่าเขาก็อ่านเหมือนกัน"