
บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้)
ถ้าหยิบจับเอาความตลก หรือความไม่ตลกแต่สามารถทำให้ตลกได้อีกแบบ (อย่าเพิ่งงง-เพราะมุกแป้ก บางครั้งก็ทำให้ขำได้) มาบ่งชี้ถึงคุณลักษณะของหนัง บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) คงจะไม่สามารถสื่อความหมายได้ต้องตรงกับสิ่งที่หนังเป็นอยู่นัก และดูเหมือนว่าความตลก
หนังเล่นกับมุกแป้กไปเรื่อยๆ ขำบ้าง ไม่ขำบ้าง จนกระทั่งมีตัวละครหมอ ‘น้ำแข็ง’ เข้ามาข้องเกี่ยวในชีวิตของ ‘ล้อต๊อก’ โดยบังเอิญ และด้วยวัย 12 ขวบ (เด็กก็ไม่ใช่ - จะเติบใหญ่เป็นวัยรุ่นก็ไม่เชิง) เด็ก(เริ่ม) หนุ่มคนนี้พบกับรักแรกในชีวิต แม้จะเป็นเพียงแค่การแอบรักข้างเดียวก็ตาม
จากที่เริ่มต้นด้วยการเป็นหนังตลก แต่เมื่อเดินทางมาถึงครึ่งเรื่องหลัง “บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้)” ก็ให้น้ำหนักไปที่อารมณ์ดราม่า หลังจากเจ้าหนู ‘ล้อต๊อก’ เกิดไปรู้ความจริงบางอย่างของ ‘หมอน้ำแข็ง’ เข้า และที่สำคัญเจ้าหนูก็อาสาขอแก้ปัญหาหัวใจให้คนที่ตัวเองแอบรัก โดยที่เจ้าตัวไม่ระแคะระคายสักนิด ช่วงเวลาที่เหลือ หนังจึงว่าด้วยการออกผจญภัยประสาเด็ก เพื่อตามหาคนที่ (แอบ) รัก และพยายามช่วยแก้ปัญหาหัวใจให้เธอจนตัวเองเกือบไปสร้างปัญหาให้คนในครอบครัว ก่อนจะพบว่า สุดท้ายปลายทางของปัญหา มีหัวหน้าครอบครัวนี่แหละ ที่คอยช่วยหาทางออกให้ในที่สุด
นอกจากความสำคัญของสถาบันครอบครัวที่หนังพยายามเชื่อมโยงให้เห็นความใกล้ชิดผูกพัน อันนำไปสู่หนทางในการแก้ปัญหาได้ทั้งมวลแล้ว ประเด็นหลักอีกประการที่นำมาบอกเล่าคู่ขนานกันไปตลอดทั้งเรื่อง คือการค้นพบแก่นแท้แห่งความหมายของคำว่า ‘ความสุข’…ครึ่งหลังของหนัง แม้จะเปลี่ยนอารมณ์จากครึ่งแรกชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ “บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้)” กลับพาเราเดินทางไปพบกับ เนื้อหาสาระได้อย่างตรงเป้า เข้าประเด็น ไม่อ้อมค้อม พร้อมนัยสำคัญที่พยายามสื่อสารว่า บางทีการทำให้ผู้คนมีความสุข อาจไม่ได้อยู่ที่การสร้างเสียงหัวเราะก็ได้ และหากคณะตลกในเรื่องคิดว่า เสียงหัวเราะของผู้ชมคือความสุข คือเป้าหมายแห่งความสำเร็จของการเป็นตลก ซึ่งเจ้าหนู ‘ล้อต๊อก’ ไม่เคยทำได้สำเร็จเลยนั้น
ในเวลาต่อมาเขากลับพบว่า ความสุขที่แท้จริงของคนเรา อาจไม่ใช่แค่เพียงเสียงหัวเราะ หากแต่เป็นมิตรไมตรี และการช่วยเหลืออย่างจริงใจโดยไม่หวังผลตอบแทน กลับช่วยสร้างความสุขให้ใครบางคนได้ยิ่งใหญ่ และสุขจริงยิ่งกว่าเสียงหัวเราะเสียอีก
จตุรงค์ มกจ๊ก และ ‘น้องเฟม’ ด.ช.ชวิน ลิขิตเจริญพงษ์ รับหน้าที่ถ่ายทอดประเด็นเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำ เข้าใจและเข้าถึงความรู้สึกของผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม บท ‘พ่อ’ เจ้าของคณะตลกพาเพลินที่นักแสดงตลกรุ่นใหญ่ฝากฝีมือเอาไว้ ทั้งมุกตลก หรือมุมมองที่ดูจริงจัง เขาทำได้ไม่ขัดเขิน ทุกฉากบนโต๊ะอาหารที่นอกจากโชว์แก๊ก ปล่อยมุกอย่างสนุกสนานแล้ว ยังสามารถร้อยเรียงเรื่องราวเข้าไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน และพอมาถึงฉากที่ต้องโชว์ความสามารถด้านการแสดงอารมณ์ โดยเฉพาะกับการขับเน้นความรักที่มีต่อลูก เก็บงำความโกรธขึ้งภายใน จตุรงค์ทำให้เราเห็นความรักที่พ่อมีต่อลูกนั้น ช่างพอกพูนและงดงามในฉากถือไม้เรียวรอทำโทษลูกชายหลังกลับจากผจญภัยในเมืองใหญ่
ครั้งหนึ่งวัยเยาว์ของแจ็ค แน็ค และโฟกัส ด้วยธรรมชาติความเป็นเด็ก สามารถสอดผสานกับการแสดงได้อย่างกลมกลืนลงตัว จนทำให้ผู้ชมหลงรักจากหนัง “แฟนฉัน” มาแล้ว ลองมาดูการแสดงของน้องเฟม ในบท ‘ล้อต๊อก’ และ น้องจีน่า ณิชาพัชร์ จารุรัตนวารี ในบท ‘แซลมอน’ น้องสาวคนเก่งผู้กำลังจะมาแทนที่หัวหน้าคณะตลกคนต่อไปของครอบครัว อาจจะเห็นพ้องต้องกันว่าอนาคตทางการแสดงของทั้งคู่ ดูจะไปได้ไกลไม่แพ้รุ่นพี่ ‘แฟนฉัน’ อย่างแน่นอน
“บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้)” นอกจากภาพลักษณ์เป็นหนังตลกเบาสมองแล้ว นี่ยังเป็นหนังที่สะอาดที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบหลายปี สะอาดที่ว่าคือในแง่ของการสร้างตัวละคร ผู้ร้ายเพียงคนเดียวในเรื่องคือความตั้งใจดีของเด็กคนหนึ่ง ที่บังเอิญความมุ่งมั่นอันซุกซนของเขาเกิดไปสร้างความกังวลเป็นห่วงเป็นใยให้แก่คนในครอบครัว (ซึ่งสุดท้ายเจ้าหนูก็เอาตัวรอดได้อยู่ดี)
ส่วนตัวละครที่เหลือ ล้วนมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิตด้วยกันทั้งสิ้น ขณะที่พล็อตเรื่อง แม้จะเริ่มต้นด้วยการพยายามเดินตามความสำเร็จการเป็นตลก ที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก แต่เมื่อตัวละครหลักเริ่มพบเจอผู้คน มีมูลเหตุที่ทำให้เด็กน้อยออกเดินทางหาคำตอบ หนังก็ค่อยๆ ขยับปมนำไปสู่การเติบโตทางวุฒิภาวะของเด็กคนหนึ่ง ผ่านการเรียนรู้ชีวิตในช่วงเวลาสั้นๆ ค้นพบและเข้าใจความหมายของความรักในมิติที่แตกต่าง โชคดีที่รักครั้งนี้ของ ‘ล้อต๊อก’ ด้วยวัยเพียง 12 ปีนั้น อาจจะเดียงสาเกินกว่า ที่ความห่ามห้าวของวัยรุ่นจะเข้าครองฉุดรั้งสติ คิดตัดสินใจโดยปราศจากความยั้งคิด ขณะเดียวกัน ในวัยขนาดนี้ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของจิตใต้สำนึก และการดูแลของครอบครัวทำให้ด้าน ‘ใฝ่ดี’ ของเขา ชูช่อเบ่งบาน เป็นพลังในความมุ่งมั่นทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่น
เรต น. 13+ ของหนังอาจจะยังน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจุดหมายปลายทางที่พาคนดูไปสู่บทสรุปอันยิ่งใหญ่บางอย่าง ที่เกิดขึ้นกับเด็กตัวเล็กๆ หนังอย่าง “บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้)” น่าจะได้เรต ท. ที่เหมาะสมกับคนดูทุกเพศทุกวัยมากกว่า
ชื่อเรื่อง : บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้)
ผู้เขียนบท : วิทยา ทองอยู่ยง, เมษ ธราธร, อมราพร แผ่นดินทอง
ผู้กำกับ : วิทยา ทองอยู่ยง, เมษ ธราธร
นักแสดง : จตุรงค์ มกจ๊ก, ด.ช. ชวิน ลิขิตเจริญพงษ์, ด.ญ.ณิชาพัชร์ จารุรัตนวารี, อรอนงค์ ปัญญาวงค์, พอลล่า เทเลอร์, ขวัญจิตร ศรีประจัน
เรตติ้ง : น.13+ ภาพยนตร์ที่เหมาะกับผู้ชมอายุ 13 ปีขึ้นไป
วันที่เข้าฉาย : 11 มีนาคม 2553
"ณัฐพงษ์ โอฆะพนม"