"ซันนี่ ยูโฟร์" ก่อน เสียชีวิต มีเรื่องผิดปกติ หลายอย่าง ที่น่าสงสัย ?

ข่าวเศร้าของวงการบันเทิง หลังสูญเสีย อดีตนักร้องดัง "ซันนี่ ยูโฟร์" หรือ "ญาณวรุตม์ สุทธิวาส" เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 เวลาโดยประมาณ 15.36 น. ที่ห้องพัก ย่านทาวน์อินทาวน์ ด้วยโรคประจำตัว ไทรอยด์กำเริบ โดยแพทย์ นิติเวช แจ้งว่า ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว 

 

ล่าสุด "นิติคอนโด" ที่ "ซันนี่" อยู่ เปิดใจในรายการ โหนกระแส เล่าเรื่องราวก่อน เสียชีวิต ให้ฟังว่า "ซันนี่ อยู่ที่คอนโดนี้ 7-8 ปีได้แล้ว ส่วนตัวแกค่อนข้างเก็บตัว เงียบๆ จะรู้จักทางรปภ. สนิทกัน ผมกับเขาอยู่ห้องเยื้องๆ กันเลย จะเจอกันบ้าง บางทีถือขยะมาทิ้งก็ร้องเพลง แซวกันบ้าง แต่ส่วนตัวไม่ได้สนิทอะไร 

ก่อนหน้านี้แข็งแรง แต่ประเด็นที่เกิดขึ้น คือนิติได้รับแจ้งว่าชั้น 4 มีกลิ่นสุนัขแรงมาก ก็ต้องแจ้งตรงๆ ว่าปกติแล้ว ผมจะทราบดี เพราะอยู่ใกล้กัน รู้ว่าห้องพี่ซันนี่ มีกลิ่นเป็นปกติ แต่ก็สังเกตว่ากลิ่นแรงจริง ก็อยากเข้าไปตรวจสอบดู ประกอบกับ เมื่อตอนช่วงนั้น เป็นช่วงที่ต้องจ่ายค่าไฟ ก็เห็นว่าค่าไฟพี่ซันนี่ 40 บาทเอง ซึ่งผิดปกติมาก ปกติต้อง 700-800 นิติมีบันทึกการใช้ไฟของลูกบ้าน 40 บาท แค่เดือนนี้เท่านั้น หนึ่งเดือนไม่ได้ใช้ไฟเลย ก็อยู่ในเคสที่ต้องเฝ้าระวัง ผมก็ให้รปภ.คอยดูแลว่าเขายังไง แจ้งทางนิติด้วย

 

ในช่วง 1 เดือน ไม่เห็น ออกไปไหน อย่างที่บอก แกค่อนข้างเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร ปกติสั่งอาหารขึ้นไปส่ง หรือให้รปภ. ซื้ออาหารขึ้นไปส่งให้ เท่านั้นเอง ถามว่ารู้ว่าเขาป่วยไหม ไม่ทราบครับ ไม่เคยรู้ครับ นานๆ จะเจอจะคุยสักที 

 

อีกวันหนึ่ง รปภ. แจ้งว่าพี่ซันนี่ สั่งอาหารจากเซเว่นไปส่ง ก็โอเค เราโล่งใจว่าไม่ได้เกิดเหตุ เลยบอก รปภ. ว่าช่วยไปสำรวจให้หน่อย ว่าสภาพห้องเขาเป็นยังไง เพราะมีกลิ่น เขาสั่งอาหารไปส่งวันเสาร์ แต่ทีนี้พนักงานเซเว่นจะทราบทันทีว่า ห้องพี่ซันนี่กลิ่นค่อนข้างแรง เหมือนเกี่ยงกันว่าให้ใครไปส่ง เราก็ให้รปภ.ไปสำรวจ รปภ. ก็วิ่งมาแจ้งว่า วิ่งไปดูหน่อย เราก็ไปดู เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไปดูสภาพพี่ซันนี่คือนอนอยู่บนเตียง ยังโต้ตอบได้ปกติ คุยได้ 

ตอนผมไป พนักงานเซเว่น รปภ. ก็ยืนเปิดประตูอยู่แล้ว ผมก็เข้าไปตรวจสอบด้วยส่วนหนึ่ง เข้าไปคุยกับพี่ซันนี่ด้วย พอเห็นสภาพก็เป็นที่ค่อนข้างสกปรก มีมูลสัตว์ พื้นเหนียวไปหมด ก็ไปคุยกับแก แกนอนอยู่ มีอาการไม่มีแรง ผมพยายามคุยกับเขา พยายามกระตุ้นให้เขาโต้ตอบ ถามเขาว่าพี่ๆ กินยาไหม เป็นยังไง เขาก็ตอบว่าไม่ได้กินยาอะไรเลย ถามหมดว่าไอไหม มีไข้ไหม อยากให้ผมช่วยไหม เขาก็บอกว่าโอ๊ย ถามอะไรเยอะแยะ ฉันต้องการแค่ให้มาเทน้ำ เราพยายามถาม เพื่อส่วนหนึ่ง เราจะทำอะไรเพื่อเขาได้บ้าง เขาบอกว่าอย่าให้ต้องอะไรมาก ขี้เกียจ ก็ยังเถียง 

 

ผมก็ประเมินแล้วว่าไม่โอเค แต่สติสัมปชัญญะยังดีอยู่ ก็พยายามถามเขาว่า อยากให้เราช่วยดูแลอะไรไหม เขาบอกว่าไม่ต้อง ขอแค่เอาของมาส่ง เอาข้าวขึ้นมาให้ เอาน้ำมาวางใกล้ๆ เทน้ำให้หมาเขา แค่นี้พอ แต่โดยสภาพโดยรวม ผมก็บอกว่าพี่ควรไปรักษา พี่ซันนี่ก็คุย ประเด็นสำคัญคือเขากลัวเรื่องเป็นข่าว ซึ่งผมระวังมาก อีกส่วนคือแม่เขา เขาบอกว่าไม่อยากไปรักษากลัวแม่รู้ แม่เป็นโรคหัวใจ แม่ป่วยอยู่นะ แล้วก็เรื่องสุนัขเขาอีกสองตัว เขาห่วงสุนัขเขามาก ตอนแรกถามว่ามีหมากี่ตัว เขาบอกว่ามีสองตัว สองอย่างที่เขากังวลมาก ผมช่วยได้คือพยายามถามว่าพี่ยินยอมไหม ผมอยากพาพี่ไปรักษา 

 

พยายามคุยกับเขา จนเขาโอเค เราจะจัดการตรงส่วนนี้ให้ ส่วนที่พี่กังวลใจเรื่องแม่ ผมก็บอกว่าผมจะพยายามไม่ให้เป็นข่าว จะไม่แจ้งสื่อ ส่วนเรื่องหมาจะดูแลให้ และขอร้องให้แกไปรักษา หลังจากนั้นพยายามประสาน ส่งข้อความไปทางเพจ หรือมูลนิธิต่างๆ ที่พอเข้ามาได้ ก็ยังเงียบอยู่ แต่เรายังโทรคุย ให้ผู้จัดการนิติโทรถาม แกก็ยังตอบ แกยังรับ บอกว่าไม่เป็นไร นอนพักอยู่ พอวันอาทิตย์ช่วงเย็นโทรหาพี่ซันนี่ ไม่รับโทรศัพท์ ก็โทรถามผู้จัดการ ว่าพี่ซันนี่พิมพ์ไลน์มาหรือยังว่ายินยอมไปรักษา ระหว่างนั้นพยายามติดต่อหาอย่างหนัก เพื่อหาหน่วยงานเข้ามาดูแล พอเริ่มรู้สึกไม่โอเค เพราะเขาไม่รับโทรศัพท์ ก็ติดต่อประสานเขต เจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาดูแลได้ 

 

ตอนเช้าอีกวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ก็มากัน มีสำนักงานเขตเข้ามา เขตเข้ามาก่อน พอเข้ามาก็ติดต่อพี่ซันนี่ไม่ได้ รถพยาบาลก็ยังไม่เข้ามา ก็แจ้งสายตรวจให้เข้ามา เพื่อไปเปิดห้องพร้อมกัน ไปเคาะห้องพี่ซันนี่ก็ไม่ตอบ แต่ได้ยินเสียงสุนัข ก็บอกว่าแกไม่ได้ล็อกห้อง ลุยเลย เพราะท่าจะไม่ดี ก็เปิดประตูเข้าไป แกก็ยังมีการตอบรับ ตอบโต้มา ก็คุยกันว่าจะพาไปหาหมอ ยังแซว แกก็ยังคุยได้ แต่พฤติกรรมเปลี่ยน เริ่มเหนื่อย เริ่มเพลีย โทรศัพท์ก็อยู่ที่แก ถามว่าผมโทรมาทำไมไม่รับ แกก็บอกว่าโทรมาทำไม อันนี้คือเมื่อวาน เสียงเริ่มอ่อนแล้ว ยังแซวกันอยู่ว่าจะพาไปหาหมอ ตร.หล่อนะ แกก็ยังแซวว่าหยิบแว่นให้หน่อย จะดูคนหล่อ (หัวเราะ) 

 

พยายามกระตุ้นให้เขาตื่นตัว เพราะแกเพลีย ในเมื่อไม่ใช่เคสเสียชีวิต ก็ประสานรถพยาบาลมานำส่ง ทุกอย่างก็มารอข้างล่าง รอรถพยาบาลมาขึ้นไปนำตัวแกลงมา เนื่องจากตัวแกค่อนข้างเลอะ ก็อาบน้ำสระผมอยู่ข้างล่าง (ตอนนั้นแกรู้ตัวอยู่ไหม?) เริ่มอ่อนแรง หลังจากนั้นพอเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่กู้ชีพ นิติก็ถอยออกมา ตอนล้างตัวแกกู้ชีพมาแล้ว เป็นศูนย์เอราวัณ กู้ชีพเอราวัณเป็นคนล้างให้ แกก็นั่งรถเข็น เริ่มมีอาการอ่อนแรง

 

ทางกู้ชีพก็เอาเปลมารับ เพื่อนำตัวส่งรพ. พอเข็นไป ขึ้นรถ ได้รับแจ้งว่าพี่ซันนี่ชีพจรหาย ต้องทำซีพีอาร์ หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที รถยังไม่เคลื่อนตัว ปั้มหัวใจอยู่ในพื้นที่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าพี่ซันนี่เสียชีวิตแล้ว เราก็ช่วยกันประสานญาติ ตั้งแต่กู้ชีพเข้าไปในพื้นที่ ก็เอาโทรศัพท์มาประสานญาติตลอด โทรหาพี่มัม พี่มัมก็ให้โทรหาพี่กุ้ง"

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w