"หมอพรทิพย์" หรือ แพทย์หญิงคุณหญิง "พรทิพย์ โรจนสุนันท์" สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ล่าสุดได้ออกมาเคลื่อนไหวโพสต์ถึงคดี "แตงโม" อีกครั้ง หลังกระทรวงยุติธรรม ได้แถลงเปิดผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เผยถึงหลักฐานคดี "แตงโม"
ต้องบอกว่าคดีการเสียชีวิตปริศนาของ "แตงโม" นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวชื่อดัง ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ท จมกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ (24 กุมภาพันธ์ 65) ที่ผ่านมา ยังคงเป็นคดีที่สังคมทั้งประเทศให้ความสนใจว่าผลสรุปของคดีนี้จะจบลงอย่างไร? แม้ว่า "แตงโม" จะจากโลกนี้ไปแล้วนานกว่า 4 เดือน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีคนดัง เพื่อนๆในวงการบันเทิง รวมถึงแฟนๆ ออกมาทวงความยุติธรรม ให้กับ "แตงโม" อย่างมากมาย และหนึ่งในนั้นต้องยกให้กับ "หมอพรทิพย์" หนึ่งในผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรศพ "แตงโม" ครั้งที่ 2 และไม่เชื่อว่า "แตงโม" จะตกท้ายเรือ
และจากกรณีเมื่อวานนี้ (11 กรกฎาคม 65) กระทรวงยุติธรรม ได้แถลงผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ หลักฐานคดี "แตงโม" โดยมีการเปิดเผยว่า กรณีชุดสืบสวนได้รับผ้าขาวที่มีคราบเลือด จากผลการสืบสวนได้ทำมาหลายอย่าง ทั้งการสอบสวนพยานบุคคล เกือบ 20 ปาก และการส่งตรวจพิสูจน์ต่างๆ ยืนยันว่า "ยังไม่มีพยานหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้หรือยืนยันข้อเท็จจริงว่าเป็นการฆาตรกรรม รวมถึงประเด็นเรื่องผ้าขาว ที่ตรวจพิสูจน์แล้วว่าเป็นเลือดมนุษย์ แต่ผลออกมาไม่ใช่ของแตงโม ส่วนเส้นผมและเส้นขน เศษดินเศษทรายที่อยู่ในซอง ก็พบว่าไม่ใช่ของแตงโม ในเรื่องคดีความของแตงโม คงต้องรอติดตามกันอีกครั้ง หลังอัยการกำหนดวันนัด 6 ผู้ต้องหา เป็นครั้งที่ 3 ฟังคำสั่งฟ้องอีกครั้ง ในวันที่ 3 สิงหาคม 2565 นี้"
ล่าสุดวันนี้ (12 กรกฎาคม 65) "หมอพรทิพย์" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเขียนถึงคดี "แตงโม" ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Porntip Rojanasunan อีกครั้ง โดยระบุว่า....
"อีกความชัดเจนว่าคดีนี้มีเบื้องหลังมากมาย อย่าเพิ่งใช้อารมณ์ฟาดฟันกันจนไม่มุ่งสู่ความจริงและความยุติธรรม ผ้าชิ้นนี้เป็นหลักฐานที่มาในระหว่างทางถ้าไม่พิสูจน์ทราบก็จะไม่ทราบว่าเป็นหลักฐานเท็จ ที่สำคัญน่าสนใจว่าใครจงใจทำขึ้น
ในคดีนี้ยังมีพยานหลักฐานที่เป็นข่าวที่ถูกสังคมมองว่าไม่น่าใช่หลักฐานจริงอีกหลายอย่าง หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่รักษาระบบให้น่าเชื่อถือ อย่าเพิ่งด่วนจัดการเฉพาะเรื่องผ้าชิ้นนี้
นโยบายฟ้องเอาคืนจากผู้สร้างหลักฐานเท็จควรขยายไปถึงการยัดเยียดข้อหาด้วยหลักฐานเท็จของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ที่บังคับใช้กฎหมาย ค่าเสียหายจากค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์ไม่สามารถเทียบกับค่าเสียหายจากความไม่เป็นธรรม ยามนี้ต้องมององค์รวมจึงจะแก้ปัญหาได้
เทียบกับการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรอัยการจากคดีนี้แล้ว อัยการกลับสร้างกระบวนการอำนวยความยุติธรรมเชิงรุกแทนที่จะตอบโต้คนที่ตำหนิว่าทำไมอัยการไม่ทำอะไรเลย ผู้สร้างประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรมย่อมต้องได้รับการยกย่อง
หยุดสาดอารมณ์ใส่กันไปมา หยุดเติมความวุ่นวาย มาช่วยกันหาทางป้องกัน หาทางแก้ไขดีที่สุด ธรรมะแห่งพุทธบอกไว้ชัดเจนว่าใครทำอะไรย่อมได้รับผลในสิ่งที่ทำ ทุกคนมีหน้าทีทำความดี #ชีวิตมีธรรม"
ขอบคุณเฟซบุ๊ก Porntip Rojanasunan
ติดตามข่าวสาร คมชัดลึก อื่นๆ ได้ที่
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057
Instagram - https://www.instagram.com/komchadluek_online/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง