ลูกชาย สะอื้น เล่านาที "โป๊งเหน่ง" สั่งเสีย ด้าน "เมีย" ทรุด ร่ำไห้ ทำใจไม่ได้

"เฮงเฮง เชิญยิ้ม" ลูกชาย "โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม" เปิดใจเล่า หลังสูญเสียพ่อ ที่ศาลาสามัคคีธรรม วัดช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา (11 ก.ค.2565) ว่า "2-3 ปีที่ผ่านมา พ่อสู้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคไตวาย ไตเหลือไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ รักษามาตลอด ฟอกไตวันเว้นวัน แต่ไม่ได้มีแค่เรื่องไตอย่างเดียว มันมีอีกหลายๆอย่างมารวมกัน ทั้งความดัน เบาหวาน พอมาทำการรักษาไต เหมือนร่างกายมันถูกใช้งานหนักมากๆ เส้นเลือดที่จะไปเลี้ยงหัวใจมันเลยตีบ 3 เส้น มันไม่ไหลลงไปเลี้ยงร่างกาย อย่าง ขา เส้นเลือดมันไม่ไหลลงไปเลี้ยงแล้ว ทำให้พ่อไม่มีแรงที่ขา 

แล้วพ่อไปโดนอะไรมาก็ไม่รู้ โดยที่ไม่รู้ตัว ทำให้เป็นแผลที่ขา คนเป็นเบาหวาน แล้วเลือดไม่เดินไปอีก มันทำให้แผลเกิดเป็นเนื้อตาย หมอเห็นว่าต้องตัดขา แต่พ่อมีหลายโรครวมกัน จะผ่าตัดขาก็ไม่ได้ เพราะกลัวจะไปสะเทือนหัวใจ พอจะทำบายพาสหัวใจ ก็ทำไม่ได้ เพราะกลัวจะทนพิษบาดแผลผ่าตัดครั้งใหญ่ไม่ได้ มันเลยทำอะไรไม่ได้เลย เพราะมันจะกระทบกันไปหมด

หมอ บอกมาประมาณ 2-3 เดือนแล้ว ว่าพ่ออาจจะหยุดหายใจ หรือไปได้ตลอดเวลานะ แต่อาการพ่อมา 2-3 เดือน ก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ มองว่ามันยังโอเคอยู่นะ จนช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ค. แม่พิมพ์มาบอกว่า รีบกลับมานะ เหมือนพ่อหายใจไม่ออก เหมือนพ่อจะไปแล้ว แต่พ่อบอกว่าไหวอยู่ ยังไม่เป็นอะไร ทั้งที่ ลูกตาพ่อเขาลอยแล้ว พอรถใกล้จะถึง เขาก็เฮือกๆ กระสับกระส่าย ตาเหลือง ก็บอกเขาทุกคนอยู่ตรงนี้นะ จนเข้าห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลบอกน้ำตาลต่ำ ก็ให้น้ำตาล แล้วเขาบอกว่าพ่ออาจจะเจ็บแผล เราอาจจะต้องฉีดมอร์ฟีนให้พ่อทุก 6 ชั่วโมง พอออกมาจากห้องฉุกเฉิน คุณพ่อก็เหมือนคนนอนหลับ จนวันที่ 10 ช่วงเช้า พ่อลืมตาแล้วนะ แล้วพ่อก็พยักหน้าตอบ รู้สึกตัวแล้ว ตอบเป็นคำ ช่วงบ่าย อาการแกก็ดีขึ้นจริงๆ ลืมตาเห็น พยักหน้าตอบ พูดไม่ค่อยได้ เพราะเหนื่อย 

ปกติแม่จะไม่มาเยี่ยมพ่ออยู่แล้ว เขารับไม่ได้ที่พ่อนอนใส่สาย พ่อกับแม่รักกันมาก แต่ก็ไม่รู้ยังไงพี่สาวดันแวะไปบ้าน พูดยังไงก็ไม่รู้ แม่ยอมมา พ่อมีความสุข ยิ้ม น้ำตาไหล ดีใจที่แม่มาเยี่ยม แม่ก็จากที่ไม่เคยพูดอะไร บอกรักพ่อ เขาก็บอกรัก พูดไปว่า 19 ก.ค.นี้ รีบหายนะ เพราะเป็นวันเกิดพ่อ เขาก็คุยกันสองคนว่า ถ้าหายจะได้ไปกินข้าวกัน คือวันเกิด วาเลนไทน์ เขาก็จะไปกินข้าวด้วยกัน ก็ปกติดีจนแม่กลับ ประมาณช่วง 3 ทุ่มกว่า พอกลับไปถึงบ้านไม่ถึง 10 นาที น้องโทร.มาบอกว่า ให้ทุกคนรีบมาที่โรงพยาบาลด่วน ชีพจรพ่อต่ำมาก หัวใจเต้นจาก 60 ครั้ง / นาที เหลือประมาณ 36 ครั้ง / นาที ซึ่งมันเต้นช้ามาก แล้วก็มีหยุดหายใจเป็นพักๆ หยุดหายใจไปนาทีหนึ่งแล้วก็กลับมา ประมาณ 4 ทุ่ม โรงพยาบาลบอกให้สั่งเสียคุณพ่อได้เลย 

สิ่งที่พ่อห่วงที่สุดคือแม่ เพราะไม่ว่าเขาป่วยหนักขนาดไหน คำแรกที่เขาเจอหน้า คำแรกที่ต้องถามคือ แม่กินข้าวหรือยัง (ร้องไห้) ทั้งๆ ที่สภาพเขาหนักมาก เขาไม่ค่อยห่วงตัวเอง เขาจะต้องห่วงแม่ตลอด ว่าซื้อข้าวให้แม่กินหรือยัง ผมก็บอกว่าไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวดูแม่เอง และบอกพ่อก็เป็นกำลังใจให้ด้วยนะ ถ้าได้เป็นตลกจะได้ดังแบบพ่อ พ่อคอยส่งพลังตลกมาให้เฮงนะ จะได้มีคนจ้าง จะได้มีเงินมาดูแลแม่นะ เพราะในบรรดาลูกทั้งหมด คนที่อยู่ในวงการคือผมคนเดียว ผมเป็น เฮงเอง เชิญยิ้ม ตลกรุ่นสุดท้ายที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เชิญยิ้ม 

ตั้งแต่เมื่อวานไม่ให้แม่เล่นมือถือเลย ก็ใช้เป็นคำพูดแล้วบอกเอา กอดเขา ตอนที่ตัดสินใจไปบอกแม่ "แม่..พ่อไปแล้วนะ" สงสารแม่มาก แม่เขากอดผมไว้แน่น เหมือนตอนเขารดน้ำพ่อ เขาบอกว่าไม่อยากได้คำนี้เลย แม่ทำใจไม่ได้ แล้วแม่จะอยู่ยังไง ไม่มีพ่อแล้วใครจะดูแม่ เขาก็ร้องไห้กอดผมตลอดเหมือนจะเป็นลม ก็บอกให้แม่ใจเย็นๆ พ่อเขาไปสบาย เขาไม่ทรมานอะไรเลย"

ในขณะที่ "หมู สมญา" เมียตลกดัง เห็นร่าง "โป๊งเหน่ง" ถึงกับทรุดตัว และร้องไห้เหมือนจะขาดใจ บอกว่า "โป๊งเหน่ง ฝากให้ดูแลครอบครัว และอยากให้ลูกชายเจริญรอยตามตัวเอง จะได้มีรายได้มาดูแลครอบครัว"

ติดตามข่าวสาร คมชัดลึก อื่นๆ ได้ที่
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057