
"โจนัส แอนเดอร์สัน" ยกมือไหว้ ตอบข่าวเม้าท์ ซุกเมีย เป็นเกย์ ชอบซื้อกิน
ไม่ปล่อยให้สงสัยนาน "โจนัส แอนเดอร์สัน" นักร้องหนุ่มต่างชาติ ใจลูกทุ่ง ยกมือไหว้ ตอบข่าวเม้าท์ ซุกเมีย เป็นเกย์ ชอบซื้อกิน
ทำเอาหลายคนอึ้ง หลังนักร้องหนุ่มต่างชาติ ใจลูกทุ่ง "โจนัส แอนเดอร์สัน" ออกมาเปิดใจครั้งแรก หลังมีข่าวซุบซิบว่า เป็นนักร้องตกอับ ปิดบังเรื่องครอบครัว แถมถูกเม้าท์เป็นเกย์ ชอบซื้อกิน ในรายการคุยแซ่บโชว์ ช่องวัน 31
เพลงกวางขาวอยู่กลางเขา ทำให้กลับมา ?
จริงๆ เพลงนี้อยู่ประมาณ 6 ปี ตอนนั้นดังมากในโซเชียล ก็ไม่ได้คิดอะไร เอาไปลงติ๊กต็อกขำๆ ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่มีผู้ติดตาม อยู่ๆคนก็คัฟเวอร์ และมีกระแส คนก็เลยเรียกร้อง ภาค 2 ด้วยกระแสที่เกิดขึ้น แต่อยากกว่าเดิม ด้วยความที่มีภาษาอีสาน ในติ๊กต็อกตอนนี้มีคนตาม 3.5 แสน ก็ถือเป็นอะไรที่เกินคาดมาก เพราะเพิ่งเล่นติ๊กต็อกได้ปีนิดๆ แต่คนตามมากว่าช่องทางอื่น
3 ปีที่ผ่านมา ชีวิตค่อนข้างลำบาก ?
การเป็นศิลปินคืออาชีพเรา พอเจอโควิดไป ก็หายไปเลย จากวันนึงที่มีงาน เคยคาดการณ์ได้ หายไปหมดเลย เราก็ค่อนข้างเจอหนักมาก เพราะเราไม่ได้วางแผนเลย เงินเก็บหมดเลย ตอนนั้นคิดอะไรไม่ได้ ต้องกินเงินเก็บอย่างเดียว พยายามประคอง แต่มันก็ต่อไปเรื่อยๆ จนเงินเก็บเราหายไปหมดเลย ติดลบด้วย เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมต้องขอความช่วยเหลือจากคนสนิท ที่เรารัก
หมดเป็นหลักล้านเลยเหรอ ?
ใช่ครับ อยู่วงการมา 20 กว่าปี อุตส่าห์เก็บเงินไว้ พยายามวางแผนให้ดี คือถ้าคิดบวก เรามีเงินใช้ตอนที่วิกฤต แต่ทางด้านจิตใจมันหดหู่มาก มันเป็นอะไรที่เรารู้สึกเฟล น้อยใจตัวเอง ทำไมไม่เก่งกว่านี้ ตอนนั้นมีภาวะซึมเศร้าเกิดขึ้น บอกแบบไม่อาย หลายครั้งก็มีหลั่งน้ำตา ตอนที่ถึงทางตัน ไปไม่ได้ แต่คิดบวกว่า ถ้าเรายังมีครบ มีพลัง เราก็ต้องหาอะไรทำ พัฒนาตัวเอง ก็เลยหันมาทำงานโปรดักชั่น สร้างแบรนด์
บางครั้งอยากกลับสวีเดน ?
เป็นบางครั้ง 3 ปีที่ผ่านมา ทำใจ คงต้องถึงเวลาแล้ว ไปต่อไม่ไหว อย่างน้อยประชาชนชาวสวีเดน จะมีสิทธิ สวัสดิการ เราก็อาศัยรัฐบาล ก็วัดดวงอยู่ เพราะไปไม่เป็นจริงๆ แต่ก็คิดว่าเราไม่ได้เป็นแค่ศิลปิน แต่ทุกอย่างเราฝากไว้กับประเทศไทยแล้ว ทั้งเพื่อน คอนเนคชั่น จนในที่สุด ก็หาทางไปได้ ก็ภูมิใจว่าเราไปต่อได้ ไม่ทิ้งประเทศที่เรารัก
คำว่าศิลปินตกอับ ?
เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เราก็รู้สึกเต็มๆว่าเราเป็นศิลปินตกอับ ผิดหวัง เสียใจ รู้สึกว่าอะไรที่สร้างไว้ มันหายต่อหน้าเลย แต่ล้มยังไง เราก็ต้องล้มไปข้างหน้า พยายามลุกขึ้น อย่าปล่อยให้ซึมเศร้า เป็นบทเรียนที่ฝังใจ ขอบคุณโควิดที่ให้บทเรียนเรา ชีวิตมันไม่แน่นอน อย่าย้อมแพ้
มีภรรยาไหม ?
ผมปฏิเสธเรื่องนี้มาโดยตลอด และไม่เปิดเผยเพราะว่า เป็นศิลปิน ชีวิตมันเปิดเผยในทุกจุด แน่นอนว่า มีโอกาสสูงมากที่คนจะจำได้ บางครั้งผมรู้สึกว่าผมพีคสูง ทุกคนจำได้ ตกต่ำสุดก็มีคนจำได้ เพราะฉะนั้นจึงของสงวนในจุดบางทีเล็กๆ ไว้เป็นความส่วนตัว เพื่อความเป็นส่วนตัว และสุขภาพจิต
จะมีหรือไม่มี ไม่พูด ?
ขออนุญาตจริงๆ (ยกมือไหว้)
ที่ไม่เปิดเผย เพราะชอบซื้อกิน ?
ปัดโธ่ คนอย่างเราต้องหาซื้อด้วยเหรอ (หัวเราะ) เรามั่นใจในตัวเองเพียงพอ
เป็นเกย์ ไม่แมน ไม่ชอบผู้หญิง ?
อันนี้เข้าใจที่มาที่ไปนะ ไม่ได้เป็น (หัวเราะ) ผมคิดว่าน่าจะดูออกนะ เราเป็นคนที่ชอบผู้หญิงนั่นแหละ เราไม่ได้เป็นเกย์ แค่ขอเป็นเรื่องส่วนตัวเฉยๆ แมนทั้งแท่ง ทั้งตัวเลย
ทำไมถึงรักเมืองไทย ?
เราคิดว่าเราโชคดี ทุกอย่างคือความบังเอิญ ผมตามพ่อแม่มาตอนยังเด็ก ได้ไปสัมผัสวิถีชาวบ้านจริงๆ เราก็ได้เห็นความเป็นไทยที่แท้จริง นั่งปูเสื่อกินข้าว คนไม่รู้จักกันก็เรียกกินข้าว มันคือบรรยากาศที่จริงใจ เปิดรับ และที่ท่องเที่ยว อาหาร สมบูรณ์แบบ
เคยป่วยเกือบตายที่นี่ด้วย ?
ตอนนั้นอายุแค่ 20 แล้วไปจิตอาสา ช่วยเหลือชาวเขา ใกล้ชายแดนเมียนมาร์ เราก็ล่องแม่น้ำไป ตอนนั้นสนุก ไม่ได้คิดอะไร แต่กลับมากรุงเทพฯ ได้เดือนหนึ่ง ก็เป็นไข้พุ่งสูง 40 แล้วก็กินพาราให้ลด ก็ลดไปสั้นๆ แล้วพุ่งขึ้นอีกถ่ายเป็นเลือด ร่างกายอ่อนแอ อาเจียน แล้วดื้อไม่อยากไปหาหมอ คิดว่าเดี๋ยวหายเอง แต่ไม่ไหวจริงๆ ไปตรวจปรากฏว่าเป็นไข้มาลาเรีย 20 ปีที่แล้วคือหนักมา สามารถตายได้เลย ตอนนั้นเสียเลือดไปพอสมควร ต้องรับบริจาคเลือด นอนเตียงเกือบเดือน พอจะลุกก็ไม่มีแรง เป็นบทเรียนเลย
เห็นว่าเคยมีอุบัติเหตุชนคนตาย ?
ผมไม่ได้เป็นคนขับ ตอนนั้นผมอายุ 14 เบียดอยู่ในรถกระบะหลายคน 10 กว่าคน แถวโคราช ทุกวันนี้ไม่ขี่มอไซต์เลย กลัวฝังใจ เพราะสมัยนั้นมีแค่ 2 เลนสวน วันนั้นวันศุกร์หลายคนรีบกลับบ้านเลยแซง ตู้มเลย หมุนลงข้างทาง ทุกคนในรถก็สลบ แล้วที่น่าเสียใจคือมอไซต์คันนั้นเสียชีวิต ผมในระหว่างนั้น ช็อก เป็นลม ตื่นมามือของมอไซต์คันนั้นอยู่ที่ข้างผม มือขาดเลย เป็นบทเรียนให้ระวังบนท้องถนน แม้ว่าวันนั้นคนในรถปลอดภัย แต่ก็มีชีวิตคนหนึ่งต้องจบลง
มีแฟนคลับขู่ฆ่าตัวตาย ?
ผมใจดีตลอดกับแฟนเพลง จะพิมพ์ตอบด้วยตัวเอง แต่บางคนตื้อมาก ไม่เพียงพอ ถึงพูดขู่ย้ำว่า งั้นเราไม่อยู่ดีกว่า ชีวิตนี้ไม่ต้องอยู่ต่อไป เราก็ตกใจ ใจเสีย ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้กับแฟนคลับ ก็คิดว่าพูดซอฟต์ไม่ได้เราต้องพูดแรงๆ เลยบอกน้องพูดแบบนี้ไม่ได้ พูดแบบนี้พี่บล็อกเลยนะ เขาก็เลยหายเลย คิดว่าเขาน้อยใจ คงไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ