
ตอบแล้ว "ต่อ ธนภพ" หลังเกิดดราม่าถูกไล่ออกจากเฟรม สู่ #ไล่ศิลปินคนอื่นทําไม
ชัดเจนเสมอสำหรับ"ต่อ ธนภพ" กับการตอบคำถามประเด็นร้อนที่ เกิดแฮชแท็ก #ไล่ศิลปินคนอื่นทําไม ขึ้นมาในทวิตเตอร์ กรณีมีแฟนคลับบางคนทั้งกวักมือและตะโกนบอก "ต่อ"และ"บลู" ให้ออกจากเฟรม เพราะต้องการที่จะเก็บภาพคู่และโมเมนต์สุดหวานของ "ซี-นุนิว"
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดราม่า เกิดขึ้นเมื่อ 4 ศิลปิน อย่างคู่จิ้นสุดฮอต "ซี พฤกษ์ -นุนิว ชวรินทร์" , พระเอกหนุ่ม "ต่อ ธนภพ" และ "บลู พงศ์ทิวัตถ์" เดินทางไปร่วมงานอีเวนท์ของแบรนด์ดัง ต่อมาในจังหวะที่ศิลปินรวมตัวถ่ายภาพโดยมีท้ัง 4 คน ยืนถ่ายภาพรวมกันหน้าแบคดรอป ก็มีแฟนคลับบางคนทั้งกวักมือและตะโกนบอก "ต่อ"และ"บลู" ให้ออกจากเฟรม เพราะต้องการที่จะเก็บภาพคู่และโมเมนต์สุดหวานของ "ซี-นุนิว" ทำให้เกิดแฮชแท็ก #ไล่ศิลปินคนอื่นทําไม
ล่าสุดนักแสดงหนุ่ม "ต่อ ธนภพ" ได้ออกมาเปิดใจกับดราม่าที่เกิดอย่างชัดเจน ชี้ว่าพยายามทำความเข้าใจ และไม่ได้โกรธอะไรเลย 2 นักแสดงคู่จิ้นก็มีโทรมาหาแล้วเหมือนกัน "ต่อ ธนภพ"เล่าว่า "จริงๆ ผมไม่เห็นทั้งหมดเลยครับ ผมรู้เท่าที่คนดูแล คนรอบๆ ตัวผมส่งมา ตอนนั้นคือผมรู้สึกว่า ผมพยายามทำความเข้าใจพี่ๆ เขาอยู่ เอาตรงๆ เลย คือเราไม่ได้โกรธเลยนะ คือเราไม่ชอบทะเลาะกับใคร แล้ววันนั้น ผมกำลังเล่นกับแฟนคลับอยู่ แล้ววันนั้นมันเป็นงานรวม ผมหาไม่เจอหรอก ว่าใครอยู่ตรงไหนบ้าง ผมก็จะพยายามเล่นรวมๆ
แล้วเหมือนกับว่า ผมได้ยินเสียงไม่ดังมาก มันมีเสียงแบบแง่วๆ เข้ามา ก็เลยแบบห๊ะ อะไรนะ แต่ว่าภาพตอนที่เราโดนเขาพูดว่าให้เขยิบอะไรแบบนี้ คือเราก็ไม่ได้ได้ยินชัดขนาดนั้น ว่าเขาพูดมาว่าอะไร คือเหมือนกับผมก็อยู่กับบลู แล้วบลูก็คอยกระซิบว่า…พี่ผมได้ยิน คือผมมัวแต่ให้ความสนใจกับแฟนๆ ที่อยู่ข้างหลังก่อน เพราะเขาไม่เห็นเรา นั่นแหละผมก็เลยเขยิบ
แล้วผมก็พยายามเข้าใจกับเขา เพราะเราไม่อยากโกรธกัน ผมเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์รักศิลปินของตัวเอง ขนาดเราเรายังอยากถูกรักเลย ก็เลยพยายามเข้าใจเขามั้งครับ เพราะตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะดรามา"
- จริงๆ แค่เป็นห่วงผม ผมก็ขอบคุณแล้ว ผมก็พยายามคิดหลายๆ มุม ผมไม่อยากคิดด้านเดียว ไม่อยากรู้สึกแบบ เขาเรียกว่าอะไรใจแคบเหรอ พูดตรงๆ ผมไม่ได้อยากใจแคบ บอกแล้วว่าเราไม่ได้ชอบปะทะ ไม่ได้ชอบมานั่งมีปัญหากับใคร
ที่ได้ยินวันนั้นก็เป็นคำที่มีฟีลลิ่ง แต่ไม่ได้รู้สึกเนกาทีฟขนาดนั้น
- ก็มีฟีลลิ่งล่ะครับ คือความรู้สึกที่เราได้รับมันไม่ได้เนกาทีฟขนาดนั้น มันไม่ใช่ว่าแบบเขาว่าเราอยู่ มันไม่ใช่แบบนั้น เอาจริงๆ เวลาผมอยู่ต่อหน้าแฟนคลับผมโดนคนน่ารักใส่ ผมจะไม่ค่อยคิดหรอก เพราะว่ามวลรวมตอนนั้นมันน่ารักอยู่
ตั้งแต่เกิดประเด็นมีการพูดคุยกับบ้างไหม ทั้งซี-นุนิว , บลู?
- จริงๆ ยังไม่ได้คุยกับบลูเลยครับ แต่ว่ามีโอกาสได้โทรศัพท์คุยกับพี่ซีและนุนิว ก็ดีครับ จริงๆ วันนั้นผมพูดกับพี่กับน้องเขาว่า จริงๆ แค่นึกถึงผมก็ดีใจแล้ว ผมพยายามไม่ได้ไปคิดเล็กคิดน้อย เราก็เหมือนเพื่อนร่วมอาชีพกัน แล้วอย่างผมกับพี่ซีผมไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นคนไม่รู้จักกัน คือผมก็เคยรู้จักจากพี่ๆ ที่เขาเคยแต่งหน้าให้เรามาก่อน
ตอนที่โทร.คุยกัน เขาพูดยังไงบ้าง ขอโทษเราเลยไหม?
- พี่เขาไม่สบายใจเท่าที่ผมเข้าใจนะ เพราะว่าวันนั้นเขาโทร.มา แล้วผมอยู่ใต้ดินพอดี แต่ผมก็พยายามฟัง เท่าที่โอเคก็รับความรู้สึกเขาจริงๆ คือวันนั้นตอนที่เราเจอกัน เขาก็น่ารักกับผม
- มันงงมากกว่า ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็เป็นประสบการณ์แล้วกัน มันก็สอนให้เรารู้ว่าไม่ใช่แค่เข้าใจ เราจะได้ทำตัวถูก”
ผุดแฮชแท็ก #ไล่ศิลปินคนอื่นทำไม จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์
- คือผมไม่ได้อ่าน แต่ว่าผมได้ยิน เพราะพูดกันตรงๆ มันก็ไม่ใช่น้อย มันก็มีปริมาณหนึ่งเลย คือผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ใครที่รู้สึกดีกับผม ผมขอบคุณหมดเลยเพราะผมไม่ได้มานั่งคิดไม่ดีกับคนอื่น เพราะฉะนั้นผมก็เลยเลือกมากกว่าว่า ผมเลือกเก็บแต่พวกความรู้สึกที่ดี พลังงานที่ดี เพราะผมก็ยังต้องมีวันพรุ่งนี้ต่อๆ ไป
- จริงๆ แล้วเรื่องนี้ผมยิ่งไม่คิดมากเลย ดูอย่างเรื่องใต้หล้า ไทร์อินเลยแล้วกัน คือทุกคนผิดได้ มันไม่มีใครถูกตลอดเวลาหรอก แม้แต่ตัวผมเองผมก็ผิด ผมก็ผิดอยู่ทุกวัน
- ผมไม่เคย ก็เลยไม่รู้ สำหรับผมแฟนคลับเขาเป็นครอบครัวเรา ผมทรีตเขาเป็นอย่างนั้นเลยมากกว่า ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันเรียกว่าเซอร์วิสหรือยัง แต่เราก็แค่พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ พยายามไม่ให้เขารู้สึกว่า เขามาทำไม"