ในขณะที่ตอนนี้หลายคนกำลังโฟกัสไปที่ประเด็นใครคือแม่ที่แท้จริงของ "แตงโม" หลังจากที่ "อัจฉริยะ" ออกมาเปิดประเด็นกลางวงสื่อว่า ไม่เชื่อว่า คุณแม่ภนิดา จะเป็น "แม่แตงโม"
แต่ตอนนี้ในโลกออนไลน์รวมถึงนักสืบโซเชียลต่างกำลังโฟกัสไปที่ประเด็นเรื่องที่ว่าเท้าของสาว "แตงโม" เหมือนมีตะปูทิ่มอยู่ ซึ่งเรื่องนี้เคยถกเถียงกันไปแล้วเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 โดยในโลกทวิตเตอร์ก็มีการแชร์ภาพๆหนึ่งของสาวแตงโม พร้อมบอกว่าเห็นเหมือนมีตะปูตำเท้าอยู่ ซึ่งรอยแผลนี้ไม่เคยมีการพูดถึงมาก่อน ทำเอาชาวเน็ตช่วยกันวิเคราะห์ว่าใช่หรือไม่ เพราะหากใช่ก็จะเชื่อมโยงกับที่มือของแตงโมกำทรายไว้ รวมถึงคนบนเรือมีการเคาะทรายในรองเท้า เนื่องจากที่ไหนมีทรายเยอะๆก็ย่อมมีจะปู
แต่ในที่สุดประเด็นนี้ก็ถูกปัดตกไป เพราะเมื่อดูหลายๆภาพในมุมเดียวกันก็พบว่าน่าจะเป็นรอยคลื่นของน้ำในแม่น้ำมากกว่า อีกทั้งหากอิงตามผลสรุปสำนวนคดีของสาว "แตงโม" ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เผยไว้อย่างละเอียดว่า สภาพบาดแผลภายนอกร่างกายรวม 26 บาดแผล แบ่งเป็นบาดแผล 10 กลุ่ม คือ
บาดแผลที่ 1 เป็นแผลขนาดใหญ่ที่สุดที่ต้นขาขวาด้านใน ฉีกขาด ขอบค่อนข้างเรียบลึกถึงขั้นกล้ามเนื้อและบางส่วนถึงกับฉีกขาด และบาดแผลกลุ่มนี้ จะใช้ในการงอขา
กลุ่มที่ 2 บาดแผลฉีกขาดค่อนข้างเรียบ เป็นแผล ข้อพับเข่าขวา 3 แผล
กลุ่มที่ 3 บาดแผลถลอกแนวยาวน่องขวา และแผลขนานกัน 5 แผล
กลุ่มที่ 4 แนวแผลถลอกแนวยาวต้นขาซ้ายด้านในแนวเฉียงขนานกัน 3 แผล
กลุ่มที่ 5 บาดแผลฉีกขาดข้อพับเข่าซ้าย 2 แผล
กลุ่มที่ 6 บาดแผลถลอกเป็นแนวยาวจากข้อพับเข่าซ้ายถึงน่องซ้ายด้านใน 7 แผล
กลุ่มที่ 7 บาดแผลถลอกที่เข่าซ้ายด้านอกและด้านนอก
กลุ่มที่ 8 บาดแผลฟกซ้ำบริเวณด้านนอก
กลุ่มที่ 9 บาดแผลฟกช้ำเข่าซ้าย
กลุ่มที่ 10 บาดแผลฟกช้ำบริเวณแข้งซ้าย
โดยบาดแผลทั้ง 10 กลุ่ม มีการเก็บ นำเนื้อเยื่อไปตรวจสอบพบว่าเม็ดเลือดแดงในเนื้อเยื่อแสดงว่า 26 บาดแผลบนศพเกิดก่อนการเสียชีวิตทั้งหมด เท่ากับไม่ปรากฏบาดแผลที่เท้า
แต่ล่าสุดชาวเน็ตไปขุดผลชันสูตรของนิติเวชและนิติวิทยาศาสตร์ ที่อ้างอิงโดย พ.อ.นพ. ธวัชชัย กาญจนรินทร์ "อดีตศัลยแพทย์" โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยปรากฏว่า ผลตรวจบาดแผลของทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่าที่ส้นเท้าข้างขวาของสาวแตงโม พบรอยแผลฉีกขาดแบบขอบเรียบยาวถึง 2 เซนติเมตร หลายคนก็เลยแห่คาดเดากันว่า หรือที่มีข้อสังเกตก่อนหน้าเรื่องตะปูทิ่มเท้าของแตงโมอยู่จะเป็นเรื่องจริง อย่างไรก็ตามคงต้องรอความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาอธิบายเรื่องนี้อีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง