บันเทิง

เพิ่มดีกรีความหวาน'สเตฟาน-พิงค์กี้'โชว์เมนูเด็ด

เพิ่มดีกรีความหวาน'สเตฟาน-พิงค์กี้'โชว์เมนูเด็ด

14 มี.ค. 2553

กำลังดำเนินเรื่องอย่างเข้มข้น สำหรับละครเรื่อง "รักซ่อนรส" พักยกสัปดาห์นี้ เลยขออาสาพาพระ-นาง "สเตฟาน" ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ ที่รับบทเป็นเจ้าของร้านอาหาร ส่วนสาวตาคม "พิงค์กี้" สาวิกา ไชยเดช รับบทเป็นเชฟฝีมือดี มาประลองฝีมือทำอาหารกันซะเลย ฮั่นแน่...อยากร

 ว่าแล้วทั้งคู่ก็ไม่รอช้า นัดแนะกันมาที่ร้านอาหาร เทอเรซ 61 ย่านรามอินทรา กันซะเลย พร้อมกับเปิบเมนู เอ้ย! เปิดเมนู ขนมเบื้องญวน อาหารเวียดนาม ที่จะโชว์ในวันนี้ให้ทุกคนได้ชิมกัน

 อ๊ะ...อ๊ะ ขอบอกว่าทั้งสเตฟานกับพิงค์กี้ คุยโวว่าพวกเขาไม่ธรรมดาในเรื่องทำอาหาร เพราะชีวิตจริงของทั้งคู่ทำอาหารไม่ค่อยเป็นสักเท่าไหร่ (อ้าว...เป็นงั้นไป) แต่มาวันนี้หนุ่มสเตฟานกับสาวพิงค์กี้จะมาฝึกปรือทำ ขนมเบื้องญวน กับแม่ครัว "หมาย" แม่ครัวประจำร้านนั่นเอง

 แหม...เมนูน่ากิ๊น...น่ากินซะขนาดนี้ พิงค์กี้ถึงกับอดใจไม่ไหว เพราะขนมเบื้องญวน เป็นของโปรดของเธอเลยทีเดียว ในขณะที่หนุ่มสเตฟาน ถึงกับเอ่ยปากว่าอยากลงมือทำเมนูซะแล้ว

 "เรามาทำขั้นตอนแรกกันเลยดีกว่า" สเตฟานเชื้อเชิญ พร้อมหันไปพูดกับพิงค์กี้อย่างจริงจัง ก่อนจะลงมือปฏิบัติตามขั้นตอนของแม่ครัว โดยเริ่มจากขั้นตอนการทำไส้ขนมเบื้องญวน

 โดยมีส่วนผสมดังนี้ กุ้งสด หมูยอ เนื้อหมูสับ แครอท หอมใหญ่ กระเทียม รากผักชี พริกไทย ซีอิ๊วขาว น้ำตาล น้ำปลา นำส่วนผสมทุกอย่างมาผัดปรุงรสให้อร่อย (เหอะๆ อร่อยหรือไม่อร่อยขึ้นอยู่กับการปรุงของพิงค์กี้กับสเตฟานแล้วล่ะ)

 และแล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันลงมือผัดไส้ทันที แต่แหม...เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก สักพักกลิ่นหอมของส่วนผสมต่างๆ ก็โชยเตะจมูก ชวนให้น้ำลายสอ เมื่อผัดได้ที่ ชิมรสชาติเรียบร้อย เป็นอันเสร็จพิธี เอ้ย! เป็นอันเสร็จขั้นตอนผัดไส้ขนมเบื้อง

 เสร็จจากขั้นตอนผัดไส้แล้ว คราวนี้สเตฟานก็ชวนพิงค์กี้มาผัดถั่วงอกกับน้ำมัน เมื่อผัดถั่วงอกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไส้ขนมเบื้องญวน สุกกำลังดี ก็เป็นอันเสร็จ

 "เป็นไงล่ะ ไส้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คราวนี้มาทำอะไรกันต่อล่ะ" สเตฟานกล่าวพร้อมยืนเต๊ะท่า ก่อนจะหันไปสอบถามข้อมูลต่อจากแม่ครัว

 งานนี้แม่ครัวก็รีบบอกเล่าถึงขั้นตอนการทำอาจาด (เครื่องเคียง) ซึ่งประกอบไปด้วย แตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้า แครอท หัวไชเท้าดอง นำมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นมาปรุงรสน้ำจิ้ม โดยนำน้ำส้มสายชูมาเคี่ยวกับน้ำตาลทรายเมื่อเคี่ยวได้ที่แล้ว ปล่อยให้เย็น ก็นำผักต่างๆ ที่ซอยเสร็จแล้ว มาใส่ในน้ำจิ้ม เป็นอันเสร็จการทำอาจาด

 ยัง...ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะพิงค์กี้กับสเตฟาน ยังต้องปรุงน้ำจิ้มอีกรสชาติหนึ่ง โดยมีส่วนผสมดังนี้ น้ำตาลทราย เกลือ น้ำสมสายชู น้ำเปล่า ถั่วลิสงป่น พริกชี้ฟ้า เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมก็นำมาเคี่ยวให้เข้ากัน ชิมรสชาติ เปรี้ยว หวาน เค็ม เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

 "ขั้นตอนเยอะเหมือนกันเนอะ" พิงค์กี้กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พลางหันไปเตรียมส่วนผสมของการทำแป้งกรอบที่จะนำมาห่อไส้นั่นเอง

 โดยมีส่วนผสมที่ประกอบไปด้วย แป้งข้าวเจ้า ขมิ้น น้ำกะทิ ไข่ไก่ น้ำปูนใส เกลือ นำทุกอย่างมาผสมกัน และเมื่อทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ก็นำกระทะมาตั้งไฟ พร้อมกับใส่น้ำมันเล็กน้อย

 เมื่อกระทะร้อนดีแล้ว จึงนำน้ำมันเทออก พร้อมกับใช้กระดาษทิชชูเช็ดน้ำมันให้หมด จากนั้นจึงเทแป้งที่ผสมเสร็จแล้วลงไปในกระทะ แล้วค่อยๆ ให้แป้งกระจายเต็มกระทะ และเปิดไฟอ่อนๆ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็ได้แผ่นแป้งอันแสนกรอบเพื่อนำไส้มาวาง จากนั้นก็ห่อให้สวยงาม

 "โห...น่าสนใจ เดี๋ยวกี้ขอลองทำบ้างได้ไหม" พิงค์กี้ตั้งอกตั้งใจดูขั้นตอนตามที่แม่ครัวแนะนำ พร้อมกับทดลองทำกับสเตฟานอย่างขมีขมัน

 งานนี้พิงค์กี้ดูจะตั้งใจทำเป็นพิเศษ เพราะอยากประลองฝีมือในการทำแป้ง แต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจกับการกระทำไม่ไปด้วยกัน ทำให้แผ่นขนมเบื้องของสาวพิงค์กี้ดูจะหนากว่าที่คิด แต่เจ้าตัวก็ออกตัวว่าแหม...ก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้นะ (คริ คริ) 

 "ดูจากพิงค์กี้แล้ว ผมเชื่อเลยว่าพิงค์กี้ไม่เคยทำอาหาร แต่ผมพอทำได้" สเตฟานฟุ้งบนใบหน้าเปื้อนยิ้ม พร้อมกับนำแผ่นขนมเบื้องที่ทำเสร็จแล้ว มาวางในจาน และนำไส้ที่ผัดเสร็จแล้วมาตักใส่ในแผ่นขนมเบื้อง จากนั้นก็ห่อ แล้วตกแต่งด้วยถ้วยน้ำจิ้ม และอาจาด

 คราวนี้มาถึงขั้นตอนในการชิม ดูเหมือนพิงค์กี้ไม่รีรอ รีบหยิบซ้อนมาหม่ำฝีมือตัวเองทันที ส่วนพระเอกหนุ่มก็ได้ทีแย่งนักแสดงรุ่นน้องชิมซะหน้าตาเฉย 

 "อร่อยนะเนี่ย จริงๆ ผมน่ะไม่ชอบขนมเบื้องญวนหรอก แต่มาลองฝีมือตัวเองก็อร่อยดี ก็ยากนะ ฝึกตั้งนาน วันนี้เราสองคนมาทำอาหารกัน ซึ่งในละครเป็นเรื่องอาหารด้วย ยังไงก็ฝากให้ติดตามด้วยนะ เพราะไม่ค่อยมีละครทำอาหารให้ได้ชมกัน" สเตฟานกล่าวอย่างอารมณ์ดี 

 ด้าน "พิงค์กี้" สาวิกา ไชยเดช กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ว่าปกติเป็นคนไม่ค่อยทำอาหาร แต่ชอบกินอาหารเวียดนาม

 "ปกติกี้ไม่ทำอาหารเท่าไหร่ แต่วันนี้มาทำเอง ก็อร่อยดีนะฝีมือตัวเอง (หัวเราะ) แต่ละครเรื่องนี้ก็ทำอาหารหนักมาก (หัวเราะ) เดี๋ยวนี้ก็รู้สึก ว่าตัวเองเป็นกุลสตรีมากขึ้น ต้องทำอาหารให้เป็น คือพอเป็น กี้ได้ความรู้จากเรื่องนี้เยอะ แล้วก็ได้รู้จักเมนูที่เราไม่เคยรู้" พิงค์กี้กล่าว
             เพ็ญนภา ดำเล็ก / เรื่อง
             อุทร ศรีพันธ์        / ภาพ