บันเทิง

"อัจฉริยะ" เสียน้ำตา ให้ "แม่แตงโม" ทนถูกด่า เสีย 5 แสน เครียดจนน้ำหนักลด 7 โล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อัจฉริยะ" เสียน้ำตา 2 ครั้ง ให้ "แม่แตงโม" ทนถูกด่าเสียดสี เสียเงิน 5 แสน แถมต้องมาทนแม่แบบนี้ เครียดจนน้ำหนักลดลง 7 กิโลกรัม ถามกลับ ทำไมถึงไม่รักลูก ? มัวเห็นแก่เงิน กลัวถูกฟ้องร้อง

จากกรณี เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 "แม่แตงโม" เดินทางมาที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อยื่นต่อผู้พิพากษาหัวหน้าคณะ ในศาลจังหวัดนนทบุรี ยกเลิกหนังสือมอบอำนาจในการฟ้องคดี "แตงโม" ของ "อัจฉริยะ" ที่ยื่นฟ้องตาม ป.อาญา ม. 288 , 289 , 290 ไปแล้วเมื่อวันก่อน ทั้งเมื่อวานนี้ออกมาบอกว่า โมโห อัจฉริยะ ที่ฉกฉวย นำเอกสารมอบอำนาจ ไปฟ้องคนบนเรือ โดยไม่ขออนุญาต

"อัจฉริยะ" เสียน้ำตา ให้ "แม่แตงโม" ทนถูกด่า เสีย 5 แสน เครียดจนน้ำหนักลด 7 โล

ในขณะเดียวกันพบว่า "อัจฉริยะ" เคยไลฟ์สด ทางช่องโคนันเมืองไทย  ซึ่งบางช่วงบางตอนของการไลฟ์สดนั้น อัจฉริยะ ได้พูดถึง "แม่แตงโม" ว่า "เสียน้ำตาให้คุณไป 2 ครั้ง วันที่ผมเสียความรู้สึก ก็คือวันที่คุณทำกับผมหลายแบบ ผมอยากบอกพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ผมไม่เคยเจอแม่แบบนี้ ทำไมถึงไม่รักลูก คุณบอกสู้ลูก ผมไม่เคยเห็นคุณสู้เพื่อลูกจริงจัง คุณมองแต่ปัจจัยอย่างอื่น คือพ็อกเก็ตมันนี่ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ถามว่าผมท้อไหม ผมบอกตรงๆนะ บางทีน้ำตาที่ผมไหล 2 ครั้ง ผมบอกเลยว่า เสียความรู้สึกกับแม่แตงโมอย่างมาก ร้องไห้ ไม่ใช่ร้องเพราะอะไร แต่ร้องไห้ว่า ถ้าวันนี้พ่อแตงโมอยู่ เราเชื่อว่า เราไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ 

"อัจฉริยะ" เสียน้ำตา ให้ "แม่แตงโม" ทนถูกด่า เสีย 5 แสน เครียดจนน้ำหนักลด 7 โล

ผมทำคดีแตงโมไป น้ำหนักลดไป 7 กิโลกรัม จากเดิมผม 64 กิโลกรัม ปัจจุบันเหลือ 50 กว่ากิโลกรัม ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ในการทำงาน 3 เดือนกว่า แล้วก็เสียน้ำตาให้แม่แตงโม 2 ครั้ง ถูกเสียดสี เหยียดหยาม ด่าทอ เราทนได้ เพราะเราเป็นบุคคลสาธารณะ แต่วันนี้สิ่งที่ผมอยากพูดกับพี่น้องประชาชน ความเจ็บปวดที่แม่ทำกับผมหลายครั้ง เดี๋ยวลูกรัก เดี๋ยวใช้ไม่ได้ คุณแม่ไม่รู้หรอกว่าผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึก เจ็บนะครับ ไม่ใช่ไม่เจ็บ หมดเงินไปกว่า 5 แสน ทำคดีแตงโม แล้วต้องมาทนคุณแม่ ไม่อยู่กับไม่อยู่กับร่องกับรอย 

"อัจฉริยะ" เสียน้ำตา ให้ "แม่แตงโม" ทนถูกด่า เสีย 5 แสน เครียดจนน้ำหนักลด 7 โล

ผมก็เป็นลูกผู้ชายที่เจ็บปวด ถามว่าวันนี้ผมท้อไหม ผมบอกเลยผมท้อ ถามว่าอยากหยุดไหม ผมยังอยากพิสูจน์ว่า น้องแตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือตาย น้องแตงโมไม่ใช่เกิดจากความประมาทของคนบนเรือ น้องแตงโมถูกฆาตกรรมอำพราง แต่บางครั้งสิ่งที่คุณแม่ทำมัน ทำให้ผมเสียใจมาก และเสียความรู้สึกมาก ผมไม่รู้คุณเป็นแม่จริงหรือเปล่า ในฐานะที่คุณเป็นแม่ของน้องแตงโม ผมตั้งคำถามตัวเองว่า คุณเป็นแม่จริงหรือเปล่า คุณทิ้งแตงโมตั้งแต่อายุ 3 ปีกว่า 30 กว่าปีคุณไม่เคยดูแลลูกคนนี้ มีแต่พ่อโสเป็นคนดูแล ถามผมคิดยังไง พ่อแม่ทุกคนต้องรักลูก ต่อให้ลูกทำผิดทำถูก พ่อแม่ก็ต้องมีความห่วงใย ต้องสู้เพื่อลูก ไม่ใช่กลัวเขาจะมาฟ้องร้อง ไม่ใช่มัวแต่เจรจาแต่เรื่องเงินทอง

 

ถามว่าผมรู้ไหมว่าคุณเจรจาเรื่องเงินทอง ผมรู้หมดแหละ เรามีการดูดโทรศัพท์ของคุณที่ สอท. แล้วทราบแล้วว่าคุณคุยอะไรบ้าง เพราะในนั้นมีการบันทึกเสียงไว้ บางครั้งคุณอย่าเห็นแก่เงินเกินไป พวกผมเป็นคนนอกแท้ๆ ยังเสียสละที่จะต้องถูกฟ้องร้อง ต้องเสี่ยงคุก เสียเงินทองไปมากมาย ต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม ต่อสู้กับคนบนเรือ ต้องหาพยานหลักฐาน ที่ถูกทำลายหลักฐานไปแล้ว ทั้งโดยอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม ทั้งมือที่มองไม่เห็น ทั้งเสี่ยงอันตรายทุกอย่าง แต่พวกผมก็ยอมเสียสละเพื่อน้อง เพื่อสังคมไทยที่จะมีการปฏิรูปในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการยุติธรรมเสียที ให้เกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า ที่เราคิดว่าต่อไปคดีน้องแตงโม จะต้องเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่จะมีการปฏิรูประบบกระบวนการยุติธรรมเสียที"

"อัจฉริยะ" เสียน้ำตา ให้ "แม่แตงโม" ทนถูกด่า เสีย 5 แสน เครียดจนน้ำหนักลด 7 โล

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ