"แม่แตงโม" พูดเต็มปากกลัว "ปอ ตนุภัทร" แก๊งบนเรือ "แตงโม" โกรธเรื่องนี้?

โดยล่าสุดวันนี้ (18 มิถุนายน 65) "แม่แตงโม" เปิดใจให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรายการ "เรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์"  หลัง "อัจฉริยะ" ฉกฉวยนำเอกสารมอบอำนาจไปฟ้องคนบนเรือ คดี "แตงโม" โดยไม่ขออนุญาต รับกลัว "ปอ ตนุภัทร" โกรธ ที่ไปฟ้องโดยไม่บอก "ปอ ตนุภัทร" ก่อน พร้อมย้ำ "แม่" มีสมอง ไม่ใช่คนกินหญ้า เห็นเป็นผู้หญิงแล้วหลอกล่อทำอะไรได้ตามใจ

ซึ่งเรื่องราวทั้งหมด "แม่แตงโม" ได้เปิดใจเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคดี "แตงโม" ว่า "ตอนนี้คุณแม่มีทนายความคนใหม่แล้ว คือทนายชนบท ศุภศรี จะเข้ามาทำคดีนี้ต่อ กับ ส.ส.เต้ ไม่ได้โกรธหรือมีปัญหากัน ส.ส.เต้ ดูแลคุณแม่อย่างดี พอ ส.ส.เต้ ถอนตัวก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ จบแยกย้ายกันไป โดย ส.ส.เต้ บอกว่าเหนื่อย แต่ยังห่วงคุณแม่เหมือนเดิม ดูแลห่างๆ แม่ก็ไม่ได้โกรธเป็นสิทธิ์ของเขา ก็อยากให้ ส.ส.เต้ พักเพราะจะเปลี่ยนทนาย ไม่ได้เลิกคบกัน แม่มีทนายคนใหม่ก็ต้องปรึกษาทนายคนใหม่มากกว่า  ก่อนหน้าที่ ส.ส.เต้ จะถอนตัวเป็นตัวกลางช่วยแนะนำเรื่องต่างๆ และเป็นตัวกลางระหว่างคุณแม่กับอัจฉริยะ โดยเมื่อ 8 โมงเช้า วันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา อัจฉริยะ โทรมาแจ้งกับ ส.ส.เต้ เพื่อขอถอนตัวโดยไม่บอกเหตุผล คุณแม่เชื่อว่าเหตุผลของอัจฉริยะ คือไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรมาแสดง เพราะในวันเดียวกันมีการประชุมกันเรื่องดคีแตงโม ซึ่งอัจฉริยะจะต้องนำเอกสารหลักฐานทางดดีมาแสดง  ซึ่งคุณแม่ก็หวังจะได้เห็นหลักฐาน แต่อัจฉริยะไม่มา แต่กลับฉกฉวยเอกสารของคุณแม่ไปทำเรื่องฟ้องร้องกับศาลจังหวัดนนทบุรีเอง เอาผิดกับ 5 คนบนเรือในข้อหาฆาตกรรมอำพราง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณแม่" 

นอกจากนี้ "แม่แตงโม" ยังพูดต่อว่า "อัจฉริยะ ทำให้คุณแม่โกรธ กลัว ปอ ตนุภัทร โกรธไปฟ้องเขาโดยไม่บอกเขา เพราะคุณแม่ยังคุยกับปอปกติดี ยอมรับว่าคุณแม่มอบหมายอำนาจให้อัจฉริยะ แต่ไม่เคยยอมรับว่าอัจฉริยะ เป็นทนายความ ซึ่ง ส.ส.เต้ แต่งตั้งให้เป็นตัวแทนมาช่วยดูคดี แต่คุณแม่ไม่ได้ว่าอะไร คุณแม่ก็มีสมอง ทำแบบนี้กับเรา เราก็ต้องปกป้องตัวเอง ถ้าไปยอมรับเรื่องคดีก็จะเสียหาย อัจฉริยะ เที่ยวด่าคนนั้นคนนี้ออกทีวี ด่าอัยการดาว จะให้คุณแม่ยอมรับได้ยังไง คุณแม่คิดเสมอจะต้องเปลี่ยนทนายใหม่ ไม่คิดว่าจะต้องเจอเหตุการณ์ที่จะต้องเปลี่ยนทนาย คนเป็นโจทย์สามารถเปลี่ยนทนายเมื่อไหร่ก็ได้ กี่คนก็ได้จะจ้างใครใหม่ก็เรื่องของเรา

มั่นใจในตัวทนายชนบท น่าจะจ้างตั้งนานแล้ว ไม่ควรไปยอมรับอัจฉริยะด้วยซ้ำ ด่าคนก็เก่ง แม่ไม่ชอบอัจฉริยะ ไปไหนด้วยกันก็ไปด่าเขา แม่ไม่ชอบคนหยาบคายแบบนี้ จะให้คุณแม่ไปยอมรับได้ยังไง ไม่มีใครเทคุณแม่ และคุณแม่ก็ไม่ได้เทใคร มันเป็นสิทธิ์ของคุณแม่ที่จะเปลี่ยนทนาย ถ้าเราจะโง่ไปจ้างให้เขาว่าความซึ่งไม่ได้เป็นทนาย ก็ต้องแพ้ คุณแม่ก็ต้องหาทางออกด้วยตัวเอง คุณแม่มองทนายชนบท ไว้ตั้งแต่วันแรกที่แตงโมตกน้ำแล้ว โดยท่านถามว่า "คุณแม่จ้างผมมั้ยครับ ถ้าคุณแม่จ้างผมคิดแค่ 100 เดียว" คุณแม่จ้างไม่เกี่ยวกับค่าจ้าง 100 บาท แต่ความสามารถของทนายชนบทมีพร้อม มั่นใจที่จะให้เป็นทนายความให้คุณแม่ ตอนนี้ไม่ใช้คำว่าฆาตกรรม ภาษากฎหมายเรียกว่าทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ถ้าฆาตกรรมต้องมีหลักฐาน ทุกเรื่องต้องมีหลักฐานใช้ทนายความเก่งๆ คุณแม่เป็นโจทย์ไม่ใช่จำเลยสามารถเปลี่ยนทนายได้ ทนายที่คุณแม่เปลี่ยนมีความชำนาญการเก่งมากๆ คุณแม่รู้สึกหลงทาง หลงผิด คุณแม่ไม่ใช่คนกินหญ้า ไม่ใช่ว่าเห็นคุณแม่เป็นผู้หญิงแล้วจะมาหลอกล่อทำอะไรได้ตามใจ แต่คุณแม่ไม่โกรธ ส.ส.เต้ เพราะดูแลอย่างดีจ้างบอดี้การ์ดให้ พาไปทานข้าวคุยเรื่องคดีให้กำลังใจ ก็ดีใจมีคนปกป้องดูแลคุณแม่

คุณแม่รู้จัก ปอกับโรเบิร์ต ทำบุญให้ แตงโม ตลอด กราบขมาต่อหน้าสื่อ ส่วน กระติก จนถึงวันนี้ไม่เคยขอโทษคุณแม่เลย ส่วนที่ว่าคุณแม่ ไม่ได้ต่อสู้คดีเพื่อความยุติธรรมให้ แตงโม หวังเป็นเรื่องอื่น คุณแม่ไม่เคยคุยเรื่องเงินเยียวยาเลย ปอ ตนุภัทร โทรมาคุยถามสารทุกข์สุขดิบ ไม่เคยไปบอกว่าอยากได้เงิน 30 ล้านบาท จากปอ เขาบอกเพียงจะรับผิดชอบจะดูแลคุณแม่อย่างดี ตอนนี้ยังเสียใจอยู่ จะไปเรียกเงินเลยเหรอเขามีเงินให้อยู่แล้วถ้าคุณแม่จะเรียก แต่มันยังไม่ถึงเวลา เพราะยังไม่พร้อมเรื่องทนายความที่จะไปเจรจาด้วย คุณแม่ต้องการให้มีการฟ้องในมาตรา 290 เขาเป็นคนเรียบร้อยพูดเพราะมีมารยาท ฉะนั้นคุณแม่จะไปทำลาย จะให้ติดคุก 20 ปี หรือประหารชีวิตเพื่ออะไร เป็นบาปต่อตัวเราด้วย จะให้จองเวรจองกรรมกันเหรอ คุณแม่คุยกับปอแล้วจะไม่ทำร้ายใคร เอาเท่าที่เยียวยาคุณแม่ได้ เขาจะได้กลับไปทำมาหากิน"

ขอบคุณรายการ เรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์ / ขอบคุณเพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว