บันเทิง

"อัจฉริยะ" ฉะแรงถึง "ส.ส.เต้" ลั่นไม่มีวันกลับไปทำงานด้วยแต่กับ "แม๊" โอเค

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราววุ่นๆในคดี "แตงโม" กับการแตกหักของคนที่เคยร่วมมือเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับดาราสาว ระหว่าง "ส.ส.เต้" และ "อัจฉริยะ"

โดยเรื่องเริ่มจากที่เมื่อวานนี้ (14 มิถุนายน 2565) "อัจฉริยะ" เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญกรรม เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ หรือ "ส.ส.เต้" หลังได้รับมอบอำนาจจากนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ "แตงโม" นิดา กรณีมีการใช้เอกสารโดยไม่มีลายเซ็นของคุณแม่เข้าข่ายเอกสารเท็จ

"อัจฉริยะ" ฉะแรงถึง "ส.ส.เต้" ลั่นไม่มีวันกลับไปทำงานด้วยแต่กับ "แม๊" โอเค

ต่อมา ส.ส.เต้ ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ โดยออกมาระบุกรณีที่นายอัจฉริยะ ไปชิงยื่นฟ้องตนก่อน แต่ทางตนและแม่แตงโม ต้องการจะฟ้องแค่มาตรา 290 ก่อน จึงทำหนังสือยกเลิกมอบอำนาจแต่งตั้งนายอัจฉริยะ และทนายวินัย ชุมสวัสดิ์ ในคดีนี้ และมอบหมายให้ทีมทนายชนบทร่างคำฟ้องในฐานะทนายความ เริ่มต้นที่การฟ้องมาตรา 290 ฐานทำร้ายร่างกายก่อน ซึ่งหากนำสืบได้ว่ามีหลักฐานที่บ่งบอกว่าไปในทางฆาตกรรมจึงจะฟ้องในมาตราอื่น ๆ ต่อไป

"อัจฉริยะ" ฉะแรงถึง "ส.ส.เต้" ลั่นไม่มีวันกลับไปทำงานด้วยแต่กับ "แม๊" โอเค

ล่าสุดวันนี้ (15 มิถุนายน 2565) "อัจฉริยะ" ได้มาออกรายการ โหนกระแส เพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวบอกว่า คุณแม่ได้เห็นสิ่งที่ตนเปิดให้ดูจนเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมแน่นอน จึงเซ็นเอกสารมอบอำนาจให้ตนดำเนินการ หลังจากนั้นเมื่อร่างคำฟ้องเสร็จ ตนก็ไม่ได้เปิดให้ใครดู เพราะกำลังสู้กับคนที่มีอำนาจจึงต้องเซฟทุกทาง หลังจากนั้นตนก็พาทุกคนในทีมไปเซฟเฮ้าท์ตนเพื่อทดลองบางอย่างเรื่องการฉี่ท้ายเรือ ซึ่งมีกล้องวงจรปิดที่สามารถเก็บภาพและเสียงไว้หมด ตนจึงได้ยินคนกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันไม่ค่อยจะดีนัก สำหรับคนที่ไปวันนั้นคือ ส.ส.เต้ และทีม ทนายชนบท หมอธวัชชัย อดีตศัลยแพทย์ 

"อัจฉริยะ" ฉะแรงถึง "ส.ส.เต้" ลั่นไม่มีวันกลับไปทำงานด้วยแต่กับ "แม๊" โอเค

สำหรับคำฟ้องที่ตนร่างไว้ตนฟ้องทั้งหมด 8 มาตราคือ 59 , 83 , 90 , 91 , 184 , 288 , 290 , 295 และที่บังแจ็คบอกว่า ตนไม่มีอะไรสู้ในคดีนี้เลย ตนมีพยานทั้งหมด 10 ปาก อาทิ ไทด์ เอกพัน และยังมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอโดยไม่เคยเปิดที่ไหนมาก่อน แต่จะไปเปิดที่ศาลที่เดียว

 

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาตนคุยกับ ส.ส.เต้ ตลอด จนคิดว่าสักวันตนต้องเป็นเหมือน ทนายเดชา และ ทนายกฤษณะแน่นอน หลังจากนั้น อัจฉริยะ ก็ได้งัดแชทที่คุยกับ ส.ส.เต้ และสลิปโอนเงินคืน 2 แสนกว่าบาท โดยเป็นการคุยกันถึงเรื่อง บังแจ็ค เนื่องจาก ส.ส.เต้ ไม่ให้แตะบังแจ็คเลย ห้ามเรียก 18 มงกุฏ ห้ามฟ้อง และยังบอกอีกว่าได้มาทำคดีนี้ได้เพราะบังแจ็คแนะนำกับแม่แตงโม อัจฉริยะเลยคิดว่าทำไมตนจะต้องอยู่ใต้อุ้งเท้าบังแจ็ค

"อัจฉริยะ" ฉะแรงถึง "ส.ส.เต้" ลั่นไม่มีวันกลับไปทำงานด้วยแต่กับ "แม๊" โอเค

นอกจากนี้ อัจฉริยะ ยังเล่าต่อว่า แม่บอกกับตนว่า บังแจ็คหลอกเอารหัสจากแม่ไป จึงเปิดเฟซบุ๊กแตงโมได้ ก่อนจะส่งโทรศัพท์ไปให้ ส่วนที่ บังแจ็ค บอกว่าตนเรียกเงิน แซน ยืนยันว่าตนไม่เคยคุยกับคนบนเรือเลยสักคน ท้าให้เอาหลักฐานมาเลย อีกเรื่องที่ บังแจ็ค พูดว่าตนร่วมมือกันกับทนายเดชาเพื่อขูดเงินคนบนเรือ ตนบอกเลยว่าจะไปเอาทำไม มีแต่จะเอาให้ตาย เพราะคดีนี้เป็นคดีที่ใช้ไม่ได้เลยในกระบวนการยุติธรรม และอยากทวงความยุติธรรมให้กับแตงโมด้วย ตนก็เลยอยากทำมาก ส่วนกับเดชาก็ไม่ได้เจอนานแล้ว

"อัจฉริยะ" ฉะแรงถึง "ส.ส.เต้" ลั่นไม่มีวันกลับไปทำงานด้วยแต่กับ "แม๊" โอเค

สำหรับเรื่องที่มีการเปลี่ยนชื่อทนายความที่ทำคดี "แตงโม" แม่บอกว่าส่งเอกสารไป 2-3 วันแล้วแต่ไม่ยอมรับเอกสาร ความจริงไม่ใช่ แม่เพิ่งส่งแฟกซ์ไปที่ศาลเมื่อวานนี้ตอน 17.00 น. พร้อมเปิดหลักฐานให้ดู ซึ่งโชคดีที่ตนวางหมากไว้แล้ว เพราะคิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ทำให้หากถอนทนายความต้องไปขึ้นศาลเพื่อตอบว่าทำไมถึงอยากเปลี่ยนในวันที่ 20 กรกฏาคม ซึ่งมันไม่ทันกันกับการที่อัยการจะยื่นฟ้องในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ เพราะฉะนั้นหากอยากฟ้องให้ทันก็ต้องไม่เปลี่ยนทนาย

"อัจฉริยะ" ฉะแรงถึง "ส.ส.เต้" ลั่นไม่มีวันกลับไปทำงานด้วยแต่กับ "แม๊" โอเค

และหากแม่อยากให้ตนทำคดีให้ตนก็พร้อมกลับไปทำงานด้วยกันอีก แต่กับ ส.ส.เต้ ตนขอคิดดูก่อน เพราะตนมองว่าการทำแบบนี้เป็นการหักหลังเพื่อน อย่างน้อยควรโทรบอกกันหน่อย ไม่ใช่ส่งแฟกซ์มาแบบนี้ มันหยามกัน ทำให้ตนรู้สึกว่าเชื่อถืออะไรไม่ได้แล้วกับนักการเมือง ดิ้นเป็นปลาไหล ต่อให้มาขอโทษไม่หวนกลับ จะช่วยแค่แม่แตงโมคนเดียว 

"อัจฉริยะ" ฉะแรงถึง "ส.ส.เต้" ลั่นไม่มีวันกลับไปทำงานด้วยแต่กับ "แม๊" โอเค

ระหว่างพูดคุย หนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการบอกว่า ทนายบุญถาวร และ บังแจ็ค อยากจะโฟนอินเข้ามาคุยด้วย แต่อัจฉริยะบอกว่าไม่คุย เพราะเหตุผลที่ว่า "บังแจ็ค แน่จริงก็ลองมาเมืองไทยสิ่ ถ้าสื่อยังให้ค่าคนแบบนี้ประเทศไทยวิบัติแน่ คนๆนี้ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือ ถ้ามีหลักฐานทำไมไม่เปิด แบบนี้ ไม่ให้ราคา" 

logoline