ขนลุกมาก "ทีมกู้ภัย" เล่านาทีหาหลักฐานคดี "แตงโม" เจออาถรรพ์น่าตกใจ?

ก่อนหน้านี้ "อัจฉริยะ" หรือ "อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์" ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมกัปตันเรือและทีมกู้ภัย ได้ลงพื้นที่ ล่องเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อตามหาหลักฐานคดี "แตงโม" แต่กลับเจอเหตุการณ์แปลกๆ เครื่องยนต์เรือดับ ทำให้ "กัปตันเรือ" และ "อัจฉริยะ" ถึงขั้นพนมมือท่องบทสวดทั้งศาสนาพุทธและคริสต์ เพื่อขอให้ปฏิบัติการสำเร็จ เนื่องจากถูกโยงว่าเป็นอาถรรพ์คดี "แตงโม" กรณี "กู้ภัยเจอไหและเหรียญโบราณ"

ซึ่งเมื่อวานนี้ (8 มิถุนายน 65) ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำ ภาค 7 ในฐานะหัวหน้าชุดนำทีมในการค้นหาใต้น้ำ ในวันที่ "อัจฉริยะ" ลงพื้นที่หาหลักฐานคดี "แตงโม" ครั้งล่าสุดโดยพุ่งเป้าหามีดที่คาดว่าเป็นของกลางหรือวัตถุที่ใช้ในการก่อเหตุ แต่ในการค้นหากลับมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แล้วพบว่าเรือเครื่องยนต์ขัดข้อง ลอยลำจากจุดที่พบศพ ไปหยุดอยู่ที่ใกล้กับโป๊ะทราย ใกล้กับสะพานพระราม 7 แล้วปรากฏว่าหลังจากที่มีการค้นหาบริเวณจุดที่เรือขัดข้อง พบกับไหโบราณและเหรียญเก่าโบราณจำนวน 5 เหรียญ

 

โดย ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำ ภาค 7 ในฐานะหัวหน้าชุดนำทีมในการค้นหาใต้น้ำ ในวันที่ "อัจฉริยะ" ลงพื้นที่หาหลักฐานคดี "แตงโม" ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับรายการ "ทุบโต๊ะข่าว" ว่า "เหตุการณ์ในวันที่ตนเองได้รับประสานงานจากอัจฉริยะให้ไปช่วยค้นหาหลักฐานที่คาดว่าจะเชื่อมโยงในคดีของแตงโม วันนั้นปฏิบัติการก็เป็นไปอย่างปกติ แต่ไม่ได้มีการจุดธูปและเทียนบอกกล่าวเหมือนเช่นครั้งก่อน ที่มีการลงน้ำเพราะเข้าใจว่าในขณะนั้นตัวของ ส.ส.เต้ ได้มีการจุดธูปและเทียนบอกกล่าวไปแล้ว ทำให้ตนเองและทีมงานไม่ได้มีการจุดซ้ำ โดยการค้นหาได้เริ่มปฏิบัติการจากวัดค้างคาว ซึ่งใช้เวลาอยู่นานพอสมควร แต่ก็ไม่เจอสิ่งผิดปกติ 

มีการนำทุ่นและเชือกลงไปวางบริเวณจุดที่มีการพบศพแตงโม ได้มีการลงทำการเก็บตัวอย่างทราย ก่อนที่จะมีการใช้เครื่องตรวจหาวัตถุโลหะ ทำการตรวจสแกนบริเวณผิวดินและทรายจุดที่มีการพบศพ แต่บริเวณจุดดังกล่าวนั้นก็ไม่พบความผิดปกติ ในขณะที่ทีมอาสากู้ภัยลงดำน้ำประมาณ 4-5 คน เรือจะมีลักษณะจอดรออยู่ด้านบน 3 ลำ ปรากฏว่ามีเรือลำที่อัจฉริยะ และทีมผู้เชี่ยวชาญบางส่วนนั่งรออยู่บนเรือ เกิดอาการขัดข้อง และในระหว่างที่ทีมของตัวเองกำลังค้นหาใต้น้ำ เรือมีลักษณะสตาร์ตไม่ติด และค่อยๆ ลอยลำมุ่งหน้าไปที่โป๊ะทราย ใกล้กับสะพานพระราม 7 

 

ระหว่างที่กำลังมีการถอดเชือกของทุ่นที่ติดเอาไว้ โดยมีการติดตั้งจำนวน 3 ทุ่น ซึ่งมีการถอดออกได้แล้ว 2 ทุ่น แต่ในช่วงที่กำลังจะถอดทุ่นสุดท้าย มีเรือลากจูงผ่านมา แล้วทำการเกี่ยวเอาทุ่นใบที่ 3 ติดไป แล้วเชือกดันไปเกี่ยวคอของอาสากู้ภัยที่กำลังขึ้นไปบนผิวน้ำ ซึ่งอีก 4 เมตรก็จะถึงผิวน้ำ ตนเองก็กำลังขึ้นมาจากน้ำตามหลัง ปรากฏว่าเห็นเชือกกำลังเกี่ยวคออาสากู้ภัยคนดังกล่าว ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนสีช้ำเขียว โชคดีที่ตนเองไปปลดเชือกได้ทัน ไม่เช่นนั้นก็คงจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ตอนนั้นตนเองคิดว่าถ้าตามหลักของวิทยาศาสตร์แล้ว เป็นเรื่องของอุบัติเหตุที่มีเชือกไปเกี่ยวโดนคอของอาสากู้ภัยแล้วมีเรือลากจูงผ่านมา แต่ในมุมของความเชื่อส่วนบุคคลเป็นเพราะในวันนั้นไม่ได้มีการจุดธูปบอกกล่าว ประกอบกับที่ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดีของแตงโม เพราะเชื่อว่าเป็นจุดที่เจอศพ รวมทั้งก้นแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะใกล้กับสะพานพระราม 7 ก็มีคนเคยมาก่อเหตุกระโดดฆ่าตัวตาย จึงเรียกได้ว่าเป็นสุสานใต้น้ำอย่างดี อาจมีความเป็นไปได้ว่าดวงวิญญาณบางตนต้องการตัวตายตัวแทนหรือไม่

 

หลังจากที่เรือสตาร์ตยังไม่ติด แล้วลอยลำไปใกล้กับโป๊ะทราย ทีมของตนก็ได้มีการลงงมค้นหาที่ความลึกไม่เกิน 7 เมตร บริเวณที่เรือกำลังลอยลำอยู่ เชื่อว่าอาจจะเป็นดวงวิญญาณของแตงโมที่ดลใจ ทำให้เรือไปหยุดอยู่ที่บริเวณจุดดังกล่าว จึงได้มีการลงค้นหาอย่างละเอียด เมื่อมีการลงไปค้นหาแล้วใช้เครื่องตรวจหาวัตถุโลหะ กลับพบเหรียญเก่าโบราณ 5 เหรียญ และไหโบราณ ที่คาดว่าเป็นของยุคเก่าสมัยอยุธยา แต่ไม่พบหลักฐานที่เกี่ยวข้องทางคดี"

ขอบคุณรายการ ทุบโต๊ะข่าว