บันเทิง

โดนขู่ ? "บุญถาวร" เลิกเล่านิทานทั้งที่เหลืออีก 5 ตอนแถมไม่พูดคดี "แตงโม" อีก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ "บุญถาวร" ปัญญาสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ "ส.ส.เต้" มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีของ "แตงโม" อยู่เป็นประจำล่าสุดเจ้าตัวไม่ขอยุ่งเกี่ยวแล้ว

โดย "บุญถาวร" เริ่มจากการเล่านิทานเรื่องหนึ่ง ซึ่งพล็อตคล้ายชีวิตจริงของ "แตงโม" เจ้าตัวเล่ามาเรื่อยๆ สลับกับออกความคิดเห็นในคดีของสาวแตงโมอยู่ตลอด จนกระทั่งเล่านิทานมาถึงตอนที่ 5 "บุญถาวร" ก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไปแบบกะทันหัน ทำเอาคนที่ติดตามมาตลอดถึงกับตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตัวหรือไม่ เนื่องจากปกติจะเดินชนเต็มที่ แต่ตอนนี้กลับขอยุติบทบาทและไม่ขอเอ่ยถึงคดีนี้แม้แต่นิดเดียว

โดนขู่ ? "บุญถาวร" เลิกเล่านิทานทั้งที่เหลืออีก 5 ตอนแถมไม่พูดคดี "แตงโม" อีก

โดย "บุญถาวร" เขียนข้อความไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ชีวิตผมเกิดมาและเป็นแค่เด็กบ้านนอกและผมเป็นเพียงเด็กเลี้ยงควายและปัจจุบันก็ทำนาและเลี้ยงควายไปวันๆเท่านั้นเอง นิทานเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ผมเขียนจากเรื่องที่ผมจินตนาการขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ใดๆและเป็นนิทานที่ผมแต่งขึ้นของผมเองคนเดียวไม่มีใครเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ผมไม่ใช่คณะทำงานฝ่ายกฏหมายในคดีที่ต้องการหิวแสงและกระหายเงินทองจากคดีแตงโมหรือได้รับประโยชน์ส่วนตนเองและหลายๆคนไม่สบายใจและบอกว่าไม่เหมาะสมที่เขียนและเล่านิทานที่เขียนต่อไปและประการสำคัญอย่างยิ่ง&ผมไม่ควรจะเล่านิทานต่อ ณ วันนี้ ผมจึงจะขอยุติการเล่านิทานและให้ความจริงของนิทาน เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด มันยุติที่เขียนไว้อีก5ตอน และให้มันตายไปกับผมชีวิตนะครับ คนเล่านิทาน&ทนายบุญไขข่าวคลายปัญหา

 

ผมไม่ต้องการแสงหรือหิวแสงอะไร ดังนั้นเพื่อความสง่างามผมขอถอนตัวจากคดีแม่แตงโม ผมจะจะไม่ทำหน้าที่ที่ปรึกษาคดีแม่แตงโมอีกต่อไป ขอยุติบทบาทตัวเอง ณ วันและเวลานี้ ผมมันแค่เด็กเลี้ยงควายไม่มีความรู้และมีความเชี่ยวชาญด้านกฏหมายแต่อย่างไร ผมขอให้พี่น้องประชาชนหยุดติดตามผม และผมจะไม่คุยคดีแตงโมอีกนับแต่วันและเวลานี้ รักเคารพและศรัทรากระบวนการยุติธรรม ขออนุญาตเอาเวลาไปเลี้ยงควายและทำนาเลี้ยงปลาดีกว่าครับ ผมยืนยันจะทำหน้าที่ทางการเมืองต่อไป ปัจจุบันยังทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.พีระวิทย์ เรื่องลืดลภาค)และประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมายพรรคการเมืองและอื่นๆหากถูกปลดจากตำแหน่งต่างๆที่มีก็จะไปทำนาและเลี้ยงควาย(ไม่แคร์)"

โดนขู่ ? "บุญถาวร" เลิกเล่านิทานทั้งที่เหลืออีก 5 ตอนแถมไม่พูดคดี "แตงโม" อีก

สำหรับนิทานตอนสุดท้ายที่ "บุญถาวร" ได้เล่าไว้มีใจความดังนี้

ผมมีนิทานเรื่อง "ฆาตกรรมอำพราง" จะเล่าให้พี่น้องประชาชนฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจเรื่องหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นจริงในชีวิตจริงของคนบางคนอยู่ ณ ประเทศแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐนิทานตอนที่ 5 ผู้เล่านิทานขอเล่าซึ่งเป็นเรื่องแต่งขึ้นเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้หญิงที่มีเพื่อนสนิทเพื่อไม่ให้ตนเองต้องถูกทำร้ายเท่านั้นมิได้เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด

 

เมื่อความจริงใจของนักแสดงสาวที่มีต่อเพื่อนสาวคนสนิทถูกทำลายลงด้วยความโลภและนำมาซึ่งความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ทำให้ตนเองตกอยู่ในชะตากรรมอันแสนโหดร้ายด้วยความเสียใจและความแค้นในการกระทำความอาฆาตมาดร้ายของนักแสดงสาวผู้น่าสงสารก็เกิดขึ้นและมีความคิดในขณะนั้นโดยคิดได้เพียงแค่ว่าทำอย่างไรตัวเองจึงจะรอดพ้นจากอันตรายที่เกิดขึ้นและมีหนทางวิธีการให้คนอื่นมาช่วยเหลือตนดังนั้นตลอดเวลาที่อยู่ในห้องก็ส่งเสียงร้องว่า ..กูไม่อยากอยู่กูไม่อยากอยู่,ช่วยด้วย..อยู่ตลอดเวลาที่ถูกขังไว้ในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง เผอิญในวันเกิดเหตุ ณ ที่โรงแรมแห่งนั้นแม้จะเป็นโรงแรมขนาดเล็กๆแต่ก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวและกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติและอดีตข้าราชการคนหนึ่งของประเทศนั้นเข้ามาใช้บริการและเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบางขณะและได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของหญิงสาวคนหนึ่ง ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตข้าราชการจึงเดินเข้าไปสอบถามกลุ่มชายฉกรรจ์และเสี่ยคนดังว่ามีเหตุทะเลาะหรือมีเหตุผิดปกติหรือไม่อย่างไร เสี่ยคนดังบอกว่า..ไม่มีอะไรพอดีภรรยาเจ้านายเมาและเอะอะโวยวายผมกำลังจะพากลับไปบ้านพักเจ้านายครับ..

 

เสี่ยคนดังโมโหอย่างสุดขีดและควบคุมอารมณ์โกรธไม่ได้จึงเข้าไปทำร้ายนักแสดงสาวอีกครั้งและประกอบกับคำสั่งนายชายสูงวัยบอกให้จัดการให้เรียบร้อยภายในค่ำคืนนี้ จึงสั่งให้ทีมงานจัดการกับนักแสดงสาวด้วยวิธีอันโหดร้ายบีบคอนักแสดงสาวผู้น่าสงสารเพื่อไม่ให้หายใจและต่อยบริเวณท้องหายครั้งจนทำให้นักแสดงสาวถึงกับสลบไปชั่วขณะและหยุดส่งเสียงร้องและการร้องขอความช่วยเหลือหรือเสียงเอะอะเพื่อให้คนมาช่วยก็ยุติลงด้วยความโศกเศร้ายิ่งนัก

 

อีกฟากฝั่งคนบนเรือเคลียดอย่างหนัก ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเพื่อนสาวคนสนิทก็ดังขึ้นพอรับสายเสี่ยคนดังก็พูดว่า เรื่องนี้ชักไปกันใหญ่แล้ว ไม่ต้องติดต่อไปหาแม่เพื่อนมึงหรอก มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วมีคนเห็นเหตุการณ์อีกด้วยตอนนี้กูกำลังเอาเพื่อนมึงหนีออกจากโรงแรมและจะหาวิธีจัดการเพื่อนตัวร้ายของมึงและจัดการยังไงก็จะแจ้งให้ทราบ.. ค่ำคืนอันแสนโหดร้ายและเวลาเดินไปอย่างรวดเร็วและประกอบความหวาดระแวงในความผิดที่เกิดขึ้นและเกรงว่าตัวเองกับพวกจะมีความผิดร่วมกันด้วยกับเสี่ยคนดังและยิ่งทำให้เพื่อนคนสนิทกับเพื่อนเกิดความหวาดกลัวยิ่งนัก

 

ในขณะเดียวกันเสี่ยคนดังได้ออกคำสั่งให้ลูกน้องของตนไปขับเอารถยนต์มาจอดที่บริเวณด้านหลังข้างโรงแรมแห่งหนึ่งและต้องรีบเคลื่อนย้ายตัวนักแสดงสาวไปยังสถานที่อื่นอย่างเร่งด่วนเพราะเกรงว่าจะมีคนรู้จักรู้และเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสี่ยคนดังสั่งให้ลูกน้องพยุงร่างอันไร้สติของหญิงสาวนักแสดงผู้น่าสงสารไปขึ้นรถยนต์และขับออกไปจากโรงแรมแห่งนั้นอย่างรวดเร็วและมุ่งหน้าไปยังโกดังแห่งหนึ่งซึ่งมีที่ตั้งติดอยู่กับแม่น้ำที่กลุ่มนักแสดงสาวกับเพื่อนคนสนิทได้พากันไปล่องเรือกันในช่วงหัวค่ำ ก่อนที่จะพานักแสดงสาวมาที่โรงแรม เมื่อไปถึงโกดังดังกล่าวเสี่ยคนดังได้สั่งให้ลูกน้องใช้ผ้ามัดแขนมัดขาของนักแสดงสาวตรึงไว้กับเสาไม้ภายในโกดังและยังสั่งให้ลูกน้องเอาผ้ามัดปากนักแสดงสาวไว้ด้วยเพราะเกรงว่านักแสดงสาวฟื้นตัวขึ้นมาและมีสติจะส่งเสียงร้องออกมาทำให้ผู้คนได้ยินเสียงร้องอีก

 

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วโศกนาฏกรรมกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ในความเงียบสงัดและความเกรงกลัวความผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งตัวหรือคิดวางแผนมาก่อนกับเหตุการณ์ที่เกิดอันรวดเร็วเพียงไม่กี่ชั่วโมงทำให้เสี่ยคนดังครุ่นคิดว่าจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรเพื่อให้ตนเองและพวกไม่ต้องมีความผิดต่อกฏหมาย หากจะต้องลงมือทำการปิดปากเพื่อมิให้นักแสดงสาวมีโอกาสได้พูดและแฉความเลวร้ายของเพื่อนคนสนิทจากความผิดพลาดที่จะไม่ไปถึงตัวเจ้านายชายสูงวัยคนหน้าเหลี่ยม ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเสี่ยก็ดังขึ้นปลายทางที่พูดสายก็เป็นเสียงของเจ้านายชาวสูงวัยพูดว่า เอ็งจัดการอียายตัวเรียบร้อยหรือยัง.. เสี่ยคนดังเกรงว่าเจ้านายจะดุด่าและโมโหให้ตนเองจึงได้พูดโกหกเจ้านายชายสูงวัยไปว่า..เรียบร้อยครับนายท่านสบายใจได้ทุกอย่างเป็นตามที่ท่านสั่งครับผม..เจ้านายก็วางสายโทรศัพท์ไปแต่ความกลัดกลุ้มกลับมาตกอยู่กับเสี่ยคนดังว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดีในเวลาที่เหลืออยู่อันน้อยนิดจะวางแผนอย่างไรให้ตนและเพื่อนคนสนิทของนักแสดงสาวและทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในโศกนาฏกรรมนี้พ้นความผิดและโยนความผิดหรือตราบาปให้กับนักแสดงสาวผู้น่าสงสารเป็นคนผิดและรับเคราะห์ไปเพียงลำพัง..!

 

นิทานอีสปหรือนิทานชาดกหรือนิทานที่แต่งเรื่องขึ้นจะเป็นความจริงหรือความเท็จก็ไม่มีใครรู้ สมมุติฐานว่าถ้าในตัวละครท่านผู้ฟังนิทานเรื่องนี้คือหรือเป็นเสี่ยคนดังกล่าวแล้วเสี่ยคนดังจะวางแผนฆาตกรรมนักแสดงสาวอย่างไรเพื่อให้ตนและเจ้านายชายสูงวัยพ้นจากความผิดและกลุ่มบุคคลใดมารับหน้าที่เป็นนักแสดงละครหลอกลวงคนทั้งประเทศและทั้งโลก(ท่านผู้ฟังนิทานลองคิดสิว่าผมคนเล่านิทานจะแต่งและเล่าไปในทิศทางใด) ผู้ฟังนิทานใจเย็นๆอยากฟังนิทานและอยากให้ผู้เล่านิทานเล่าจบเร็วๆมันก็ไม่สนุกสิครับ วันนี้พอดีผมคนเล่านิทานมีภารกิจวันนี้และวันหยุดราชการ มีงานเร่งด่วนต้องไปหว่านข้าวคนเล่านิทานมีอาชีพทำนา จึงมิอาจเล่านิทานให้จบได้ในวันนี้ (รอติดตามนิทานตอนต่อไป)

 

พี่น้องประชาชนครับ..นิทานเรื่องนี้ถ้าสมมุติฐานเป็นความจริงในชีวิตจริงของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกจับมัดแขนมัดขาและพันธนาการด้วยผ้าผูกติดไว้กับเสาไม้ในสภาพที่ไร้สติ(สลบ)ไม่มีใครช่วยเหลือเธอได้และอยู่ในระหว่างที่กลุ่มฆาตกรใจโหดเหี้ยมกำลังคิดแผนอันชั่วร้าย คิดดูโดยหารู้ไม่ว่าตนเองจะต้องเจอกับอะไรและไม่รู้ชะตากรรมชีวิตที่แสนโหดร้ายกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอนับต่อจากนั้นไป..!มันช่างเป็นเรื่องที่แสนโหดร้ายเหลือเกิน.. ในความเป็นจริงสังคมโลกปัจจุบันคงยังมีพวกนักการเมืองและนักธุรกิจที่บ้าตัณหากามราคะ นิทานเรื่องนี้จะสอนให้ผู้หญิงและผู้คนอีกมากมายอย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคนง่ายๆ การที่ตนมีเพื่อนสาวคนสนิทก็อย่าไปเชื่อใจเพื่อนจนเกินไปโดยที่ตนเองไม่เคยหวาดระแวงและสงสัยในการกระทำของเพื่อนหญิงสนิทคนดังกล่าวซึ่งเป็นคนโกหกและตอแหลกับสังคมเพื่อให้ตนเองพ้นผิด

 

นิทานเรื่องเล่าขานเรื่องนี้ยังไม่จบผมจะเล่าให้ฟังในตอนต่อไป นิทานไม่ใช่เรื่องจริงหรืออาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้เพราะว่าเป็นการแต่งนิทานจากชีวิตจริงของคนใดคนหนึ่งหรือไม่มีมูลความจริงใดๆแต่แต่งขึ้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับบุคคลในสังคมให้รู้จักระมัดระวังภัยใกล้ตัวของสังคมปัจจุบัน


ปล.นิทานเรื่องเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดยังไม่จบยังมีอีกหลายตอนผมจะเล่าให้ฟังจนจบ และยังมีเหตุการณ์และความมันส์และความจริงและความเท็จและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นการตีแผ่กระบวนการยุติธรรมของประเทศแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลทะเลโพ้น แต่ยืนยันว่านิทานเรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนหนึ่งส่วนใดเกิดขึ้นที่ประเทศไทยแต่อย่างใดนะครับ ผมกราบเรียนว่าผมไม่ได้นำเรื่องจริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของประเทศไทยซึ่งเป็นผืนแผ่นดินเกิดผมมาเล่าหรือแต่งเติมอันเป็นการใส่ร้ายป้ายสีบุคคลใดในสังคมไทยนะครับ(ย้ำเป็นเพียงแค่นิทานเท่านั้นเอง)

โดนขู่ ? "บุญถาวร" เลิกเล่านิทานทั้งที่เหลืออีก 5 ตอนแถมไม่พูดคดี "แตงโม" อีก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ