บันเทิง

เปิดใจ "หมอพรทิพย์" ลั่น ควรทำแบบนี้ในคดี "แตงโม"? หลังมีเงื่อนงำกว่า 3 เดือน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก สำหรับกรณีการเสียชีวิตของ "แตงโม" นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ท ในแม่น้ำเจ้าพระยาคืนวันที่ (24 กุมภาพันธ์ 65) ผ่านมา 3 เดือนคดียังมีเงื่อนงำ?!

ต้องบอกว่าการเสียชีวิตของ "แตงโม" แม้จนถึงขณะนี้กว่า 3 เดือนแล้ว คดียังคงมีเงื่อนงำสร้างความสงสัยในสังคมแม้จะมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีบุคคลบนเรือ 5 คน และผู้เกี่ยวข้อง(กุนซือ) อีก 1 คนและ อัยการสั่งฟ้อง ทั้ง 6 ผู้ต้องหา ตามข้อหาที่คณะพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาไว้ รวมถึงข้อหาตามที่อัยการจังหวัดให้แจ้งข้อหาเพิ่มอีก 2 คน

 

และจากกรณีที่ "แม่แตงโม" หรือ  "ภนิดา ศิระยุทธโยธิน" ได้มอบหมายให้ "อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์" ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และทีมทนายฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยศรีวิไลย์ เข้าดูแลคดี "แตงโม" ดังกล่าวแทน "ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" โดยมองว่า "ลูกสาวถูกฆาตกรรมอำพราง ไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ" พร้อมเอ่ยถึงชื่อ "หมอพรทิพย์" หรือ แพทย์หญิงคุณหญิง "พรทิพย์ โรจนสุนันท์"  คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ซึ่ง "หมอพรทิพย์" ก็ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กทิ้งท้ายข้อความสำคัญว่า "เดินตามเส้นทางเขาเพื่ออุดมการณ์เรา" จะหมายถึงอะไร?

เปิดใจ "หมอพรทิพย์" ลั่น ควรทำแบบนี้ในคดี "แตงโม"? หลังมีเงื่อนงำกว่า 3 เดือน

ล่าสุดวันนี้ (31 พฤษภาคม 65) "หมอพรทิพย์" ได้มาเปิดใจพูดถึงคดี "แตงโม" อีกครั้ง กับพิธีกร นักแสดงดัง "หนุ่ม กรรชัย" ในรายการ "โหนกระแส" พูดตอบทุกคำถามแบบชัดเจน 

 

"หนุ่ม กรรชัย" : คำว่าเดินตามเส้นทางเขาเพื่ออุดมการณ์ของเรา คืออะไร?


"หมอพรทิพย์" : จริงๆ ตั้งแต่เริ่มต้นแล้วนะคดีน้องแตงโม สิ่งที่เราเห็นว่าผิดปกติ เราบอกเสมอกระดุมเม็ดแรก คือไม่เก็บเลือด ไม่ตรวจร่างกาย ไม่ตรวจเรือในทันที เสร็จแล้วเราก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอจังหวะ พอ 22 จู่ๆ คุณแม่เปลี่ยนใจให้เราไปดูศพ คุยก็ไม่ได้คุยเท่าไหร่ ได้คุยแป๊บเดียว อย่างนี้คือเส้นทางคนอื่น การเข้าไปครั้งนี้ทำให้เราเห็นบาดแผล ที่บอกคุณหนุ่มว่าเป็นก้างปลา แต่ ณ เวลานั้นพูดไม่ได้ด้วยหน้าที่ ด้วยจังหวะ ตร.ยังไม่สรุป แถมพอได้มีโอกาสไปคุย ได้สอบถามนิดๆ ว่าเอาใบพัดไปจำลองหรือยัง มันก็เกิดความโกรธมหัศจรรย์ ตร.ออกมาด่าเราก็ต้องถอย นี่ก็ไม่ใช่เส้นทางอีกแล้ว จนกระทั่งคุณอัจฉริยะโผล่ แต่พอแกออกมาปั๊บแกก็ไปเรื่องฆาตกรรมเลยนะ ซึ่งถามเรา เรายังไม่ถึง เราไม่ได้มองว่าฆาตกรรม แต่เรามองว่าอะไรจะพลิกคดีได้ จังหวะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคุณอัจฉริยะมา ได้มีโอกาสเจอกันครั้งแรก ก็มีโอกาสอธิบายให้เขาฟังว่าถ้าคุณจะคิดว่าเป็นฆาตกรรม แผลนี้เกิดจากการถูกกระทำบนบก สิ่งที่คุณจะพบได้คือคราบเลือดที่เสื้อ ของทั้งเหยื่อและผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คน ก็บอกให้เขารู้ว่าต้องไปตามอะไรบ้าง แค่พูดเฉยๆ นี่คือเส้นทางคนอื่น คือการรอ

เปิดใจ "หมอพรทิพย์" ลั่น ควรทำแบบนี้ในคดี "แตงโม"? หลังมีเงื่อนงำกว่า 3 เดือน

"หนุ่ม กรรชัย" :  ต้องไปดูคราบเลือดของแต่ละคน แม้กระทั่งรองเท้าต่างๆ นานา?


"หมอพรทิพย์" :  ใช่ เพราะถ้าติดตอนแห้ง ต่อให้ซักน้ำยังไงมันก็ยังอยู่ มันมีวิธีตรวจ 1 2 3 อันสุดท้ายคือคุณแม่เปลี่ยนใจ เพราะอะไรก็ไม่รู้ เกิดใจไม่เชื่อ เนื่องจากตอนที่บังแจ็คโผล่ออกมา เราจับได้เลยว่าเขาไม่เชื่อว่าเป็นการตายโดยอุบัติเหตุ เรารู้แล้วว่าเส้นทางนี้เปิดแล้วนะ เพียงแต่จังหวะยังไม่เจอ ส.ส.เต้ก็เหมือนคนนึงที่เคยมาปรึกษาเอาความรู้ เขาก็นำคุณแม่มาเจอ มาหารือ เราเลยพูดเรื่องบังแจ็ค บังแจ็คเหมือนเส้นทางนึงเหมือนกัน ทุกคนในประเทศไทย ไม่ไว้ใจใครก็จะให้หมอพรทิพย์ เราก็บอกว่าเราทำไม่ได้ เขาเลยไปไว้ที่กรรมาธิการ เมื่อคุณแม่เปลี่ยนใจ จริงๆ มันอยู่มา 1 เดือนแล้วนะคะ 

 

"หนุ่ม กรรชัย" : หมายถึงผ้า คุณหญิงมีการแจ้งไปว่าผ้าผืนนึงส่งมา?


"หมอพรทิพย์" :  ข้อมูลเป็นผ้า แต่มันเป็นห่อยังไม่ได้เปิด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเลยนัดกัน เพื่อที่ว่าเขาคือคนเดียวเท่านั้นที่จะมีความชอบธรรมร้องขอความเป็นธรรมให้แตงโม แล้วผ้านี้จะตอบโจทย์ว่าเป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นบนบกหรือในน้ำ

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   ถ้าเป็นผ้าจริง ผ้าผืนนั้นส่งมาเรียบร้อยอยู่ที่กรรมาธิการ?


"หมอพรทิพย์" :  ใช่ค่ะ ด้วยเราทำตามระบบ ต้องไปที่ตร. ตร.ปฏิเสธเรียบร้อย สองอาทิตย์ทำหนังสือมาว่าปิดสำนวนแล้ว ไม่ทำ อัยการยังไม่ตอบ แต่เมื่อวานเหมือนได้ยินโฆษกอัยการตอบแล้ว เราก็ต้องทำให้โปร่งใสที่สุด ไม่สับเปลี่ยน เราไม่ตั้งสมมติฐานเท็จหรือจริง ถ้าเป็นผ้าเท็จก็ไม่ควรมีเลือดแตงโม ถ้าเป็นผ้าในวันเกิดเหตุ และบาดแผลเป็นไปตามที่คุณอัจฉริยะสงสัย มันต้องมีเลือด พรทิพย์ไม่ได้มีธง แต่ทำยังไงจะได้พิสูจน์ ไม่พูดให้ฟุ้งไปหมดในสังคม แล้วทำให้เร็วที่สุด เพราะเวลาเขาเหลือน้อยมาก

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   คุณหญิงมองว่าวันนี้ยังไปไม่ถึงฆาตกรรม?


"หมอพรทิพย์" :  ไม่เลยค่ะ เพราะเราเชื่อตามวิทยาศาสตร์หรือสิ่งที่เราได้เห็น สิ่งหนึ่งที่บอกได้แน่ๆ เมื่อจุดตกเป็นวิทยาศาสตร์เป็นหัวเรือ ความน่าเชื่อถือของวิทยาศาสตร์น่าเชื่อถือกว่าคำให้การที่เขาบอกว่าไปฉี่ท้ายเรือ เพียงแต่พนักงานสอบสวนไม่เลือกที่จะฟังตัวนี้ ไม่เลือกที่จะไปสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญเรือ เราเลยทำให้มันเปิดไม่ได้ ถ้าเปิดได้เดี๋ยวมันก็ต่อได้ค่ะ

เปิดใจ "หมอพรทิพย์" ลั่น ควรทำแบบนี้ในคดี "แตงโม"? หลังมีเงื่อนงำกว่า 3 เดือน

"หนุ่ม กรรชัย" :   แล้วมองว่าทำไมถึงบอกว่าตกท้ายเรือ?


"หมอพรทิพย์" :   เนื่องจากโดยหลักเขาจะเอาพยานบุคคลกับพยานวิทยาศาสตร์ แต่เคสนี้เขาเอาพยานบุคคล บอกว่าตกท้ายเรือ เราก็ไม่ว่าอะไร แต่เราไม่เชื่อ พอไม่เชื่อก็ต้องหาวิธีพิสูจน์ด้วยความตรงไปตรงมาบาดแผลก้างปลาไปถามคนเล่นคนไหนก็ตอบได้เลยว่าตกหัวเรือ ฉะนั้นพอตกหัวเรือ ไม่ใช่หมอพรทิพย์บอก แต่ลักษณะแผลมันบอก พอเราไปคุยกับผู้เชี่ยวชาญเรือ วิศวะ ถามว่าตกหัวเรือกับท้ายเรือ อะไรน่าเชื่อถือกว่ากัน

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   ถ้าตกหัวเรือ มันมีเจตนาฆ่ามั้ย?


"หมอพรทิพย์" :  ยังค่ะ มันก็แค่บอกว่าที่คุณตั้งออกมาว่านั่งท้ายเรือก็ผิด ที่บอกว่านั่งอยู่หัวเรือไม่รู้เรื่องอะไรก็ไม่จริง เท่านั้นเอง มันก็จะได้เปิดปาก เหมือนเอาเข้าเครื่องจับเท็จ เอาวิทยาศาสตร์มาง้างปาก


"หนุ่ม กรรชัย" :   ส.ส.เต้ บังแจ็ค อัจฉริยะ คุณแม่มองว่าเป็นฆาตกรรม แต่อาจารย์ยังมองไม่ถึงฆาตกรรม?


"หมอพรทิพย์" :   คดีนี้เหมือนรถที่กำลังแล่นและไปผิดป้าย เราจะทำยังไง เราคิดว่าตัวที่จะหยุดได้ชะงักที่สุดก็คือว่าเขาไม่ได้ตกท้ายเรือ เขาตกที่หัวเรือด้วยวิทยาศาสตร์ แล้วถึงค่อยต่อเข้าสู่หลักฐานอื่น

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   คุณหญิงกำลังบอกว่าต้องหาจุดตกให้ได้ซะก่อนว่าตกตรงไหน แล้วค่อยมาขยาย สมมติตกหัวเรือตกเพราะอะไร ต้องเจอป้ายก่อนแล้วถึงจะบอกได้ว่าจะไปสถานีไหนต่อ?


"หมอพรทิพย์" :  ใช่ค่ะ แล้วเวลาจำกัด 

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   ผ้าผื่นที่ส่งมา มีทนายหลายท่านโพสต์กัน?


"หมอพรทิพย์" :  เห็นแล้วและตอบได้เลย ข้อแรกก่อนที่จะพูดอะไรขอให้รู้ข้อมูลจริง ผ้านี้มาเดือนนึงแล้วค่ะ โทรศัพท์มันเพิ่งไป สิ่งที่เรามองหาคือคราบเลือด และดีเอ็นเอแตงโม เราบอกว่าเราไม่ได้หาดีเอ็นเอแตงโม เราหาคราบเลือด มันจึงไม่มีปัญหาใดๆ เลยทั้งสิ้น ประเด็นใหญ่ที่สุดที่อยากจะฝาก ทำไมคนเราชอบมาตรวจสอบหลักฐานแบบนี้อย่างเดียว หาว่าคนไม่ดีก็ต้องให้หลักฐานไม่ดี ไอ้คนดีนี่แหละให้หลักฐานเท็จมาเยอะแล้ว แล้วเกิดแพะไม่รู้เท่าไหร่ ประชาชน ทนายมีหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ใช่มานั่งตรวจสอบคนอื่น โดยหลักเขาก็พูดไปได้แต่เป็นความรู้เฉพาะเขาไม่รู้ แต่เรื่องตรวจสอบถ้าจริงตรวจมาตั้งแต่ต้นทางเลยว่าอันไหนเท็จบ้าง ซึ่งมันทำไม่ได้ การตั้งคำถามกับหลักฐานบังแจ็ค ต้องตั้งคำถามกับหลักฐานในสำนวนด้วย เวลาคุณไปซักพยานศาลจะได้รู้ว่าหลักฐานนี่เท็จหรือจริง มุมมองที่พูดคือเลือกใช้ให้สม่ำเสมอ อย่าใช้กับคนไม่ดีเท่านั้น 

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   อาจารย์มองว่าเข้าท่ามั้ย?


"หมอพรทิพย์" :   ไม่ใช่เข้าท่า ดีมากๆ เลย

เปิดใจ "หมอพรทิพย์" ลั่น ควรทำแบบนี้ในคดี "แตงโม"? หลังมีเงื่อนงำกว่า 3 เดือน

"หนุ่ม กรรชัย" :   กรณีที่ก่อนหน้านี้อัจฉริยะได้ไปร้องกับทางอัยการสูงสุด แกบอกว่าขอ 8 ข้อเพื่อให้มีการสอบเพิ่มและส่งให้อัยการต่างๆนานาเพื่อให้เข้าไปอยู่ในสำนวน หนึ่งในนั้นมีชื่อคุณหญิงหมออยู่ด้วย เขามีการคุยกับคุณหญิงหรือยัง?


"หมอพรทิพย์" :   คุยกันค่ะ คุยกันตอนมาเจอที่กรรมาธิการ เราก็ได้บอกคุณอัจฉริยะว่าป้ายแรกไม่ใช่ป้ายฆาตกรรม ป้ายแรกเอาจุดตก เพราะมันมีความชัดเจนทางวิทยาศาสตร์มากกว่าบาดแผลว่าถูกกระทำหรือเปล่า พออธิบายให้เขาฟังว่าต้องดูแผลและไปถามผู้เชี่ยวชาญเรือ คงเป็นข้อนี้แหละมั้งคะ แต่ไม่ใช่ทีมเขานะคะ เหมือนเวลาเขามาร้องกรรมาธิการก็มีการพูดคุยกัน แนะนำในเรื่องแรกคือเรื่องจุดตกค่ะ เรื่องที่สองคือเรื่องบาดแผล คุณจะต้องไปหาเสื้อ 

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   ข้อ 7 ให้ยึดเสื้อผ้าที่ใส่วันเกิดเหตุบนเรือมาตรวจสอบคราบเลือด ซึ่งตนทราบมาว่าตร.ไม่เคยดำเนินการ อันนี้คุณหญิงเป็นคนแนะนำ?


"หมอพรทิพย์" :  ใช่ค่ะ การกระทำใดๆ จะมีการแลกเปลี่ยน ถ้าทฤษฎีของคุณบาดแผลเกิดจากการกระทำก่อนตกน้ำ แผลเบ้อเริ่มขนาดนี้เลือดต้องเยอะ เลือดก็ต้องติดในเรือที่เกิดเหตุ เสื้อผ้าผู้ตายและคนที่เกี่ยวข้อง
เลยแนะนำให้ตรวจสอบตรงนั้นค่ะ

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   เรื่องการตรวจสอบคราบเลือดบนเรือ คุณหญิงคิดยังไง?


"หมอพรทิพย์" :   อันนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำ และตร.บอกว่าทำแล้ว แต่ว่าข้อมูลในสังคมก็จะสงสัยว่าเป็นเรือลำนั้นจริงหรือเปล่า มันมืดสนิทจริงมั้ย เพราะสิ่งที่ตรวจต้องมืดสนิทจริงๆ ค่ะ ทีนี้เขาไม่เชื่อ ก็อยากให้หน่วยงานตรวจ ซึ่งถ้าหน่วยงานใหม่ตรวจยังไงก็ต้องขึ้นค่ะ

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   ไม่ให้พิสูจน์หลักฐานตรวจเพราะไม่ใว้ใจ?


"หมอพรทิพย์" :  เขาเขียนว่าไม่ไว้ใจ แต่จริงๆ เราบอกว่าหลักการทางสากล ตรวจสอบครั้งที่สองหรือสามได้สบายมาก เพราะการตรวจบนกระบวนการยุติธรรม ต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ 

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   เคยตั้งคำถามไปเหมือนกัน ว่าข้อที่ 6 เป็นข้อที่ประชาชนกังขากันมาก ตร.เองบอกว่าพิสูจน์หลักฐานเก็บไว้หมดแล้ว แต่เมื่อสังคมสงสัย เป็นไปได้มั้ย คดีนี้ถือเป็นปรากฎการณ์ไม่เหมือนคดีอื่นทั่วไป เพื่อความสบายใจของสังคม เอาเรือมาเลย แล้วจะเอาฝั่งไหนเข้าไปตรวจสอบอีกที มันน่าจะกระทำได้ อย่างน้อยพิสูจน์ตร.ด้วย แต่พอไม่ทำก็เกิดความสงสัยทันที?


"หมอพรทิพย์" :  แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนสงสัย ไม่ใช่เฉพาะอัจฉริยะ เพราะคำตอบเขาคือตรวจสอบคราบเรือในอู่เรือ แล้วอู่เรือมันไม่มืดสนิทค่ะ มันจะเปิดได้ยังไง เรารู้อยู่แล้วว่ามันต้องห้องปิดอย่างนี้ ไม่มีแสงสักนิดเลย ก็เลยทำให้ทุกคนไม่เชื่อ เรื่องนี้ก็เป็นความท้าทายในระบบมาตรฐาน ต้องทำยังไงก็ได้ให้เขาเชื่อให้ได้ว่าตรวจจริง ตรวจตามมาตรฐาน

เปิดใจ "หมอพรทิพย์" ลั่น ควรทำแบบนี้ในคดี "แตงโม"? หลังมีเงื่อนงำกว่า 3 เดือน

"หนุ่ม กรรชัย" :  ที่พูดไม่ได้ต้องการยืนยันว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ถ้าพิสูจน์ต่อหน้าสาธารณชน ตร.ก็หลุดเลยเรื่องหมกเม็ด สองคืนความเป็นธรรมให้แตงโมได้ สามถ้าไม่เจอคราบเลือด ก็คืนความเป็นธรรมให้ทั้ง 5 คนบนเรือได้ด้วยเหมือนกัน ถ้ามีคราบเลือดจริงๆ ก็ต้องย้อนกลับไปว่าทำไมถึงมีคราบเลือดบนเรือ ก็คืนความเป็นธรรมให้แตงโมด้วย ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก?


"หมอพรทิพย์" :  ใช่ค่ะ พอดีตอนแรกไปกับท่านประธานได้พูดคุยกันไม่ถึงกับแนะนำเต็มๆ ทำไมไปกระตุ้นต่อมโกรธเกลียดขึ้นมาหรือยังไงก็ไม่รู้ เราเลยพูดต่อไม่ได้ 

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   ต่อมเกลียดโกรธใคร?


"หมอพรทิพย์" :   ตัวผู้การค่ะ วันนั้นไม่ได้เจอผู้บัญชาการภาคนะ แต่หลังจากนั้นเขาให้สัมภาษณ์ออกทีวีพร้อมทนายเดชา โอ้โห ด่าสาดเสียเทเสีย เราก็เลยขำว่าทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ฟังเขาถ่ายทอดไงมาให้รู้สึกว่าเรากำลังจะไปจี้เขา แต่จริงๆ เราคิดแบบคุณหนุ่ม มีคือมี ไม่มีคือไม่มี จบ

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   ผมก็มองอย่างนั้นจริงๆ ว่ามันได้ประโยชน์ การตรวจต่อหน้าสาธารณชน คดีนี้เป็นปรากฎการณ์ ถ้าเคลียร์ปุ๊บข้อกังขาตร.หลุดเลย?


"หมอพรทิพย์" :  ที่สำคัญที่สุดคือฝึกไว้ค่ะ เราทำอะไรต้องยอม มีคนมาตรวจสอบต้องให้ตรวจสอบ ตลอดเวลา ทุกคน ไม่ใช่ว่าไม่ได้ เสียหน้าไม่ได้ ต้องพร้อมตรวจสอบ

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   คุณหญิงหมอแค่อยากให้ลงป้ายให้ถูกต้อง ว่าจะไปสถานีไหนต่อ ถ้าลงป้ายผิดก็หลงทางทันที?


"หมอพรทิพย์" :  ใช่ค่ะ

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   คุณหญิงมองไปถึงมุมนั้นได้มั้ย?


"หมอพรทิพย์" :   ยังค่ะ 

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   คุณหญิงมองป้ายแรกก่อน?


"หมอพรทิพย์" :   มันไม่ทันแล้วเพราะว่ามันมีสองทาง ทางนึงตร.บอกว่าอัยการฟ้องมายังไงก็ต้องไปอย่างนั้น อีกทางนึงบอกว่าอัยการเปลี่ยนได้ ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง แต่ป้ายแรกไปแล้วคือตกท้ายเรือและประมาท

เปิดใจ "หมอพรทิพย์" ลั่น ควรทำแบบนี้ในคดี "แตงโม"? หลังมีเงื่อนงำกว่า 3 เดือน

"หนุ่ม กรรชัย" :   คุณหญิงน่าเป็นที่ปรึกษาให้คุณแม่?


"หมอพรทิพย์" :  อย่างที่ว่าเนอะ จังหวะมันไม่ใช่ และคุณแม่ไปอยู่กับทางเดชา เดชาก็ซัดทุกวันๆ ใครจะกล้าเข้าไปคุย บวกกับตร.ก็ปิดประตู แต่ไปถามคนอื่นไม่ถามเราก็ธรรมดา 

 

"หนุ่ม กรรชัย" :   ณ วันนี้กังวลใจมั้ยเรื่องสองมุมมองแตกออกไป มุมนึงมองเรื่องประมาททันที อีกมุมมองเรื่องฆาตกรรมทันที?


"หมอพรทิพย์" :   ไม่กังวลค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้เอาใจไปทุ่มที่คดีนี้คดีเดียว แต่เรามองว่าคดีนี้จะเป็นจุดเปลี่ยน ไม่ว่าจบอย่างไรจะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน ถ้าฟ้องแบบนี้ศาลยกจะเกิดอะไรขึ้น มันจะตอบมาหมดเรื่องพยานหลักฐานทั้งหลาย 

เปิดใจ "หมอพรทิพย์" ลั่น ควรทำแบบนี้ในคดี "แตงโม"? หลังมีเงื่อนงำกว่า 3 เดือน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ