บันเทิง

"กฤษณะ" เตรียมเปิดตัวทนายแม๊ ชุดใหม่ "บังแจ็ค" โต้ CSI

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันที่ 26 พ.ค. 65 ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย คณะทำงานด้านกฏหมาย ติดตามคดีแตงโมของ ส.ส. มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ใจความว่า

เมื่อเช้านี้ พอรู้ข่าวก็ตกใจพอสมควร จึงอยากจะพูดคุยกับทีมงานอีกครั้งหนึ่งว่าแนวทางหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อส่วนแนวทางเดิมที่เคยดำเนินไปแล้วก็ยังคงยึดมั่นในจุดยืนต่อไปอยู่ ด้านของ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็ให้เขาดำเนินการในส่วนของเขาไป ให้เขาเป็นที่ปรึกษาของ พนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม ส่วนตนเป็นหัวหน้าทีมกฎหมายของพรรคไทยศรีวิไลย์ จะเดินหน้าในส่วนนี้มากกว่า ทั้งนี้เราเห็นตรงกันเรื่องจุดตกของคุณแตงโม 

ตอนจบกับคุณแม่ครั้งแรก ตอนนั้นก็น้อยใจนิดหน่อย แต่ตนจะพยายามมองบวก และจะนำประสบการณ์ที่เจอมา นำมาแก้ไข และตนจะไม่โกรธคุณแม่ เพราะนับถือเหมือนแม่คนที่สอง ตนเข้าใจความรู้สึกของคุณแม่ว่าท่านขาดอะไร ตนมองว่าการที่คุณแม่ปลดมันเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ตนกลับมาพิจารณาตนเอง


ก่อนเข้ารายการได้คุยกับคุณแม่แล้ว คุณแม่ไม่ได้โกรธตน ตั้งแต่คลุกคลีกับคุณแม่ จึงให้ส.ส. เต้ - มงคลกิตติ์ ดำเนินการด้านกฎหมาย ทั้งนี้ไม่เคยทราบเรื่องที่คุณแม่นำโทรศัพท์ให้บังแจ็คเลย รู้เพียงว่าคุณแม่นำโทรศัพท์ให้กับพนักงานสอบสวนเท่านั้น

 

กรณีของบังแจ็คนั้น เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 65 บังแจ็คเคยโทรหาตน โดยบอกว่าได้คุยกับ โม อมีนา เพื่อนสนิทของแตงโมและได้อธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ทางโม อมีนา ก็เข้าใจ เลยโทรมาแจ้งตน ส่วนเรื่องโพสต์ต่าง ๆ เขาก็ยอมรับกับตนว่าเป็นคนทำ และเขาบอกว่าจุดประสงค์ของเขา ทำเพื่อต้องการช่วยคุณแตงโม ส่วนเรื่องเสียหายของบังแจ็ค ตนขอไม่แสดงความคิดเห็น เพราะข้อมูลตอนนี้ออกมาแค่ฝ่ายเดียว ในฐานะทนายจึงขอให้อยู่ในดุลยพินิจก่อน

 

"กฤษณะ" เตรียมเปิดตัวทนายแม๊ ชุดใหม่ "บังแจ็ค" โต้ CSI

 

 

ด้าน บัญชา สุชญา เจ้าของเพจ "ทนายอู๋สู้คดีเคียงข้างคุณ" เผยเรื่องการจัดตั้งทนายชุดใหม่ของคุณแม่ว่า จะมีการแถลงข่าวอย่างแน่นอน ในส่วนของการฟอร์มทีมนั้นขอแยกทีละส่วน ส่วนแรกคือ ที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ออกมาเปิดเผยว่าถอนตัวจากการเป็นทนายความของคุณแม่แล้ว ท้ายที่สุด การตัดสินใจต้องขึ้นอยู่กับคุณแม่ ซึ่งตอนนี้คุณแม่ยังไม่ได้ออกมาพูดอะไร เพียงแต่ทนายเดชาออกมาพูดเองก่อน หลังจากนั้นค่อยมาดูกันว่าพรรคไทยศรีวิไลย์จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งต้องมีการแต่งตั้งอย่างเป็นกิจจะลักษณะ เมื่อถึงจุดนั้นจะทำให้เรื่องนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ยังมีทีมของอัจฉริยะอยู่ ที่จะทำงานร่วมกัน โดยมีทนายความที่จัดตั้งเข้าไปในสำนวนเป็นทนายความหลัก

 

บัญชา ให้ความเห็นต่อไปว่า คดีนี้เป็นคดีที่ใหญ่และมีความซับซ้อน หากฟ้องเองโดยตรงไปยังศาล จะต้องมีทีมรวบรวมพยานหลักฐาน เสมือนเป็นพนักงานสอบสวน และทนายที่จะฟ้องไปในชั้นศาล เสมือนเป็นพนักงานอัยการ ซึ่งทนายจะทำหน้าที่ฟ้องเองทั้งหมด แต่ไม่ได้หมายความว่าศาลจะรับฟ้อง จะต้องมีการไต่สวน หากวันนี้จะกล่าวว่าคุณแม่จะให้ใครเป็นผู้ดูแลคดีนั้นยังตอบไม่ได้ จะต้องได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นกิจจะลักษณะเสียก่อน

 

สมมติมีการแต่งตั้งอย่างเป็นกิจจะลักษณะแล้ว คำถามที่ว่าจะเดินหน้าฟ้องเองหรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ จะต้องดูหลักฐานที่อัจฉริยะรวบรวมมาทั้งหมดก่อน เพราะวันนี้ทุกคนมีความเชื่อร่วมกันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน ซึ่งการเดินหน้าต่อนั้นหลักฐานตรงนี้จึงสำคัญ ซึ่งจะเป็นส่วนหลักในการตั้งสำนวนขึ้นมาใหม่ว่าเป็นฆาตกรรมอำพราง แต่การจะบอกว่าเป็นฆาตกรรมอำพรางเลยนั้นก็ยังเร็วไป จะต้องรวมข้อมูลจากหลายองค์ประกอบทั้งจากอัจฉริยะ จาก พ.อ.นพ. ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จาก พญ. คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ และอาจต้องมีนักกฎหมาย ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ โดยทางพรรคตั้งใจว่าอาจเป็น ชนบท ศุภศรี อดีตผู้พิพากษา ดังนั้นตอนนี้หากสรุปว่าทนายเดชา จะไม่เป็นทนายของคุณแม่แล้ว และทางทีมของตนจะเข้าไปแทนนั้นอาจจะยังสรุปไม่ได้ จนกว่าคุณแม่จะออกแถลง และจัดตั้งอย่างเป็นทางการ

 

บัญชา กล่าวขอบคุณ ทนายเกิดผล ในความห่วงใย และอธิบายว่ากรณีของบังแจ็คนั้นยังไม่ได้พูดชัดทีเดียวว่าจะมาเป็นทีม แต่ตนกำลังพยายามจะจั่วหลักฐานจากบังแจ็ค เพราะขนาดมือถือส่วนตัวของคุณแตงโมยังตกไปอยู่ในมือบังแจ็คได้ และก่อนหน้านี้มีกรณีผ้าสีขาว ซึ่งหากว่าผ้าผืนนั้นเป็นของคุณแตงโมจริง ๆ เช่นเดียวกันกับมือถือแล้ว จะทำให้กลายเป็นประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองอีกครั้ง นอกจากนั้น บังแจ็คยังมีข้อมูลการติดต่อกับตัวละครสำคัญหลายตัวที่น่าสนใจ ซึ่งเราพยายามที่จะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ มาปะติดปะต่อให้เกิดหลักฐานในการตั้งสำนวนขึ้นมาใหม่อย่างที่เคยเอ่ยไปเท่านั้น

 

ท้ายสุดมีคำถามชวนให้คิดไว้ว่า ระหว่างหลักฐานบังแจ็ค กับ คำพูดจากปากของ 5 คนบนเรือนั้น จะเลือกเชื่อใคร? ตอนนี้มือถือของคุณแตงโมไปอยู่ที่บังแจ็คแล้ว ซึ่งอาจจะยังมีข้อมูลที่ยังไม่เผยออกมาก็ได้ ส่วนตัวแล้วมองว่าอย่างน้อยก็เป็นหลักฐานชุดประจักษ์ที่น่าเชื่อถือได้มากกว่าเพียงแค่คำพูด

 

ขณะเดียวกัน เกิดผล แก้วเกิด ทนายความ มองประเด็นนี้ว่า บังแจ็ค เท่าที่ทราบ มีประวัติไม่ดีเท่าไหร่ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ถามว่าวันนี้ หวังดีจริงหรือเปล่า หาผลประโยชน์หรือเปล่า ที่ผ่านมาคำพูดของบังแจ็ค อาทิ เรื่องผ้าสีขาว ถามว่าทุกวันนี้ ส.ส. เต้ ได้รับผ้าสีขาวไว้พิสูจน์หรือยัง และสิ่งที่บังแจ็คได้เป็นหลักฐานนั้นชัดเจนแค่ไหน ดังนั้น พรรคไทยศรีวิไลย์และทีมกฎหมายต้องกลั่นกรอง มิใช่ว่าบังแจ็คพูดอะไรแล้วจะต้องเชื่อเสมอไป ส่วนตัวแล้วตนไม่เชื่อบังแจ็คเลยและไม่เชื่อเลยว่าภาพและวิดีโอต่าง ๆ ที่บังแจ็คนั้นได้มาอย่างสุจริต เพราะถ้าได้มาโดยสุจริตจริง สิ่งที่เผยออกไปจนเกิดผลเสียกับคุณแตงโมนั้น บังแจ็คทำไปเพื่ออะไร

 

ประเด็นเรื่องโพสต์ส่วนตัว “มึงต้องเกลียดลูกขนาดไหน มึงถึงทำร้านลูกได้ขนาดนี้” ตนยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์เอง และยอมรับว่าเป็นคำพูดที่ไม่สุภาพ เพราะตนไม่นับถือ เนื่องจากคนรักลูกจริง คนเป็นแม่ต้องปกป้องศักดิ์ศรีของลูก ลูกตายไปแล้วต้องรักลูกจนวันตาย ให้สมกับพูดที่ว่าอยากให้ลูกเกิดมาในชาติหน้าเป็นลูกแม่อีก อยากถามว่าถ้าลูกรู้เช่นนี้เขาจะอยากเกิดใหม่หรือไม่ และเท่าที่ทราบมา ล่าสุดบังแจ็คเผยว่า ทุกภาพ ทุกรูป คุณแม่อนุญาต ตนจึงสงสัยว่ารวบทั้งคลิปวิดีโอที่ไม่เหมาะสมด้วยหรือไม่ ซึ่งหากอนุญาตจริงก็ไม่ทราบจริง ๆ ว่าคุณแม่รักลูกแบบไหนถึงให้คนอื่นนำรูปส่วนตัวของลูกไปเผยแพร่เช่นนี้ หากบังแจ็คเป็นมิจฉาชีพก็คือร่วมมือกับมิจฉาชีพ ส่วนตัวแล้ว ตั้งข้อสังเกตว่าที่ทางพรรคไทยศรีวิไลย์ร่วมมือกับคนแบบนี้อยากให้ลองชั่งน้ำหนักดูว่าควรหรือไม่ควร

 

ทนายเกิดผล ให้ความเห็นว่าส่วนตัวแล้วตนไม่ได้เชื่อคำพูดของ 5 คนบนเรือตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แล้วก็ยังไม่เชื่อบังแจ็คเช่นกัน จนกว่าจะเห็นหลักฐาน แต่ต่อให้มีหลักฐานอยู่ในมือบังแจ็คยังไง จะเชื่อได้อย่างไรว่าบังแจ็คไม่ได้ต่อเติม ตัดแต่งมา สิ่งที่ได้มาจากต่างประเทศอาจเป็นหลักฐานเท็จก็ได้ 

 

ด้าน เดวิด (David) ผู้ก่อตั้งและแอดมินเพจ CSI LA ได้โทรศัพท์เข้ามาให้ข้อมูลกลางรายการ เผยว่า ตนคิดว่า คุณแม่กับทนาย กำลังติดต่อกับมิจฉาชีพ เพราะบังแจ็คเขาไม่มีหลักแหล่ง ไม่มีตัวตน ทั้งนี้ จากเมื่อวานที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าอยู่ “รัฐแคลิฟอร์เนีย” ตนสังเกตได้ว่าสภาพแวดล้อมนั้น มีทะเบียนรถของ “รัฐอิลินอยส์” ในส่วนของเวลา ตอนที่เขาไลฟ์สดเวลานั้น หากเป็นที่แคลิฟอร์เนียจะต้องมืดอยู่ แต่จากภาพนั้นสว่างแล้ว อีกจุดที่สังเกตได้คือ หัวดับเพลิงเนื่องจาก ในแต่ละรัฐจะใช้หัวดับเพลิงคนละสีกัน โดยแคลิฟอร์เนียจะใช้หัวดับเพลิงสีเหลือง แต่ที่อิลินอยส์จะใช้หัวดับเพลิงสีแดง อีกทั้งตนยังได้รับการยืนยันจากคนไทยที่อยู่แถวชิคาโกว่า สภาพแวดล้อมที่ปรากฏน่าจะเป็น เมืองชิคาโกรัฐอิลินอยส์

 

ข้อมูลต่อมา คือเรื่องของใบขับขี่จากทางทีมงานส่งภาพมาให้นั้น ที่อยู่ของเขาก็ปลอม เพราะตนได้ค้นหาจากกูเกิลว่าถนน Church St ไม่ได้อยู่ในบรูคลิน แต่อยู่ที่แมนฮัตตัน ในส่วนของวันเดือนปีเกิดเขาก็ปลอม โดยในใบขับขี่ระบุว่าเกิดวันที่ 12 ก.ย. 1990 (09-12-1990) แต่ในหนังสือเดินทางของเขาระบุว่าคือปี 1987 ส่วนอายุใบขับขี่ของเขา จากภาพระบุว่า 5 ปี แต่จริง ๆ แล้วใบขับขี่ของรัฐนิวยอร์กมีอายุถึง 8 ปี แถมสีก็ผิดด้วย ขณะเดียวกัน ร้านอาหารที่เขาไปกินก็อยู่ที่ชิคาโก ซึ่งมีคนไทยที่นั่นยืนยันมาแล้วว่าเห็นเขา อีกทั้งฐานะของเขาที่นั่นก็ไม่ได้ร่ำรวย อาชีพที่ทำจริง ๆ คือขับรถอูเบอร์ (Uber)

 

ประเด็นต่อมา สัญชาติของเขาก็ไม่น่าใช่อเมริกัน ตนสังเกตจากหนังสือเดินทางของเขามันลายแปลก ๆ และตัวอักษรนำหน้ามี 2 อัน พอตรวจดูได้ข้อมูลว่าเป็นหนังสือเดินทางของปากีสถาน อีกทั้งจากการตรวจดูชื่อของเขาในสารบบที่อเมริกา ก็ไม่สามารถหาบุคคลคนนี้ได้ ส่วนเรื่องที่เขาไปอยู่อเมริกาได้ยังไง เหตุแรกคือออาจจะเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย อีกเหตุคือเขาอาจจะใช้ชื่อปลอม เพราะหากเราค้นหาชื่อของเขา นามสกุลแบบนี้จะมีไม่กี่คนบนโลก โดยคนที่มีชื่อนามสกุลแบบนี้คือนักกีฬาคริกเกตต์ของปากีสถาน และนักการเมืองในปากีสถาน 

 

เดวิด ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า บังแจ็ค มีประวัติเคยมอมสาวข่มขืนที่เมืองไทยขณะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ที่โคราช โดยผู้เสียหายอยู่ชั้น ม.6 ตอนนั้นผู้เสียหายอับอายเลยไม่กล้าเอาเรื่อง นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายไม่ใช่ทำแค่กับเด็ก กับผู้หญิงมีฐานะก็ทำ และยังมีพฤติกรรมถ่ายคลิปแบล็กเมล์ด้วย ซึ่งเงินที่บังแจ็คได้มาก็มาจากการแบล็กเมล์ผู้หญิง ตอนนี้ตนก็พยายามให้ผู้เสียหายออกมาเปิดตัว ซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายอีกหลายรายออกมาเช่นกันซึ่งกรณีนี้ เป็นคดีพรากผู้เยาว์ มีสิทธิ์จะนำตัวเขากลับมาเมืองไทยได้

 

สุดท้าย เดวิด อยากฝากบอกคนไทยให้ช่วยเหลือกันเองดีกว่า แต่เขาเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ แถมจากประวัติที่ผ่านๆ มาเขาไม่ได้หวังดีกับคนไทยเลย  

 

ด้าน ราชา ไฮเดอร์ หรือ บังแจ็ค ได้โทรศัพท์เข้ามาชี้แจงกับทางรายการว่า ตนมีบริษัทฯ อยู่ 3 ที่ คือที่นิวยอร์กอิลลินอยส์ และแคลิฟอร์เนีย เป็นบริษัทขายกัญชา ซึ่งตอนนี้ตนอยู่ที่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ 

 

คลิปที่ตนมีคือคลิป อ้อนวอนให้รักกันต่อไป จะไม่ทะเลาะ ไม่ทำร้ายร่างกายกัน ส่วนอีกคลิปมันจะประมาณว่าการกักขังหน่วงเหนี่ยวมันผิดกฎหมายนะ ตอนนี้กำลังจะดึงข้อมูลทั้งหมดจากแอปฯหนึ่งในเครื่องของแตงโม ที่อัดเสียงตอนโทรเข้าโทรออกเอาไว้ 

 

และหลังเกิดเหตุจริง ๆ แล้วมีการลบรูป 2000 กว่ารูป และบางส่วนที่ถูกลบไปในวันนั้นคือ 15000 ภาพรวมวิดีโอด้วยโดยให้บริษัทฯ นอก เอาซอฟแวร์มาให้ตนกู้รูปภาพ เพื่อไม่ให้ข้อมูลหลุดออกไปข้างนอก ส่วนเรื่องสำรองข้อมูลก็ไม่จำเป็นต้องทำเพราะไอคลาวด์ (iCloud) มันสำรองข้อมูลไว้อยู่แล้ว

 

หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดกลับเข้าโทรศัพท์มาหมดแล้ว ก็จะส่งโทรศัพท์คืนคุณแม่ 

 

บังแจ็ค เปิดเผยว่า คุยกับคุณแม่ล่าสุดคือช่วงเช้าของวันนี้ เรื่องการปลดทนายเดชา ตนเห็นตรงกับประชาชนทั่วไป ที่ไม่เห็นด้วยกับทนายเดชา เพราะเขาทำคดีให้กับทางตำรวจ กับ 5 คนบนเรือมากกว่า

 

ประเด็นเรื่องภาษา ตนใช้ภาษาไทยไม่ได้ ส่วนใหญ่ใช้การพิมพ์ข้อความด้วยเสียง ไม่ได้มีทีมงานคนไทยช่วยเลย ทำคนเดียว และประเด็นที่ ตำรวจไซเบอร์เผยว่าบังแจ็คห้ามเข้าประเทศถึงปี 69 นั้น ตนคิดว่าเขาน่าจะใส่ข้อหาเพิ่มเข้าไปทีหลัง 

 

ส่วนเรื่องที่เพจเฟซบุ๊ก CSI LA กล่าวหาเรื่องล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิง ตนขอปฏิเสธ เรื่องแบบนี้มันสร้างหลักฐานขึ้นมาได้ หากเขาไม่มีหลักฐานจะให้ทีมทนายดำเนินคดีกลับ ซึ่งตนไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นเพราะมันน่าเกลียด ถ้ามีจริงเอาหลักฐานมาได้เลย และเรื่องขับอูเบอร์ตนก็ไม่ได้ขับ 

 

ทั้งนี้ เรื่องทีมทนายที่จะตั้งขึ้นมาใหม่นั้น ตนก็โอเคอยู่แล้วเพราะ ส.ส. เต้ เป็นคนดู แถมส.ส. เต้ก็เรียกร้องความเป็นธรรมให้แตงโมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่ทนาายเก่าคุณแม่ไม่รับหลักฐาน และบอกว่าเขาสร้างหลักฐานเท็จ และหลักฐานชิ้นสำคัญที่ตนมี จะส่งมอบให้คุณแม่ไปจัดการต่อ โดยจะส่งกลับให้ในอีกไม่กี่วัน

 

สำหรับภาพส่วนตัวของน้องแตงโมต่าง ๆ จะมีไม่มีการปล่อยออกมาแน่นอน เพียงแต่ที่มีประเด็นตอนโทรหา

 

ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com

ชมผ่าน YouTube ได้ที่   https://youtu.be/kHAxKPwVnQE

 

"กฤษณะ" เตรียมเปิดตัวทนายแม๊ ชุดใหม่ "บังแจ็ค" โต้ CSI

 

"กฤษณะ" เตรียมเปิดตัวทนายแม๊ ชุดใหม่ "บังแจ็ค" โต้ CSI

 

"กฤษณะ" เตรียมเปิดตัวทนายแม๊ ชุดใหม่ "บังแจ็ค" โต้ CSI

 

"กฤษณะ" เตรียมเปิดตัวทนายแม๊ ชุดใหม่ "บังแจ็ค" โต้ CSI

 

"กฤษณะ" เตรียมเปิดตัวทนายแม๊ ชุดใหม่ "บังแจ็ค" โต้ CSI

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ