"ทนายเดชา" ดึงสติ "อัจฉริยะ" แม้เจอหลักฐานก็เปลี่ยนแปลงคดี "แตงโม" ไม่ได้

โดย "อัจฉริยะ" และทีมงานใช้วิธีการล่องเรือสำรวจจุดตก จุดพบศพ และท่าทรายตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมใช้อุปกรณ์พิเศษในการตรวจสอบ โดยใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง แต่ไม่ได้พบอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสียชีวิตของสาว "แตงโม" ทำให้ในเวลาต่อมา "ทนายเดชา" ได้อัดคลิปวีดีโอความยาวประมาณ 2 นาที เพื่อพูดถึงเรื่องนี้ว่า "ในฐานะทนายแม่แตงโม ซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรงตามกฎหมาย ขอเรียนว่า พยานหลักฐานต่างๆ ของนายอัจฉริยะ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดี ไม่สามารถนำไปเข้าสู่สำนวน ทั้งของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการได้เพราะไม่ใช่คู่ความในคดี"

"การจะนำไปส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็ไม่มีผลต่อคดีอย่างใด จึงขอแจ้งให้ทราบว่า การค้นหาดังกล่าว ไม่ได้มีผลต่อรูปคดีแตงโม และปัจจุบันการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีหน้าที่สอบสวนแล้ว ขณะนี้ คดีอยู่ที่อัยการ คาดว่าไม่เกิน 7-10 วัน จะมีการออกคำสั่งฟ้อง และพาตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องได้" พร้อมกับได้เขียนข้อความกำกับคลิปด้วยว่า "แถลงข่าว กรณีอัจฉริยะ วันนี้  การสอบสวนเสร็จสิ้น แล้ว พยานหลักฐานที่ได้มา ไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีแตงโม ไม่มีผลต่อการสั่งฟ้องคดีของอัยการ คดีแตงโม อีกไม่เกิน10 วันน่าจะออกคำสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทุกคน #การหาหลักฐานเป็นเพียงคอนเทนท์ของอัจฉริยะทางยูทูป"

และต่อมา ทนายเดชา ได้โพสต์ข้อความยาวเหยียดอีกว่า "#อย่าลุแก่อำนาจใช้กฎหมู่กดดันอัยการคดีแตงโม? #อยากจะถามว่านายอัจฉริยะเป็นใครใหญ่มาจากไหนมีหน้าที่อะไรจะสั่งให้มีการรื้อคดีแตงโม ผมได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับการแถลงข่าวของนายอัจฉริยะในวันนี้กรณีพาผู้สื่อข่าวไปงมหาพยานหลักฐานบริเวณท่าเรือที่เกิดเหตุคดีแตงโมแล้วให้สัมภาษณ์ทำนองว่า พยานหลักฐานของตัวเองจะสามารถรื้อคดี ของตำรวจและอัยการ ให้เริ่มต้นทำสำนวนคดีใหม่ อยากจะถามว่า นายอัจฉริยะเป็นใครใหญ่มาจากไหนถึงจะมารื้อคดี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้วและพนักงานอัยการกำลังจะออกคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาเร็วๆนี้ไม่น่าจะเกิน 10 วัน นายอัจฉริยะจะอาศัยความเป็น influencer สร้าง Content โดยอาศัยผู้ติดตามจำนวนมากกดดันอัยการใช่หรือไม่​ #จะเป็นการใช้กฎหมู่เหนือกฎหมายใช่หรือไม่ ทุกคนต้องเคารพกฎหมายการเรียกร้องความเป็นธรรมต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไม่ใช่กฎหมู่จริงหรือไม่ใช่หรือเปล่า"