ศพบอกความจริง "หมอพรทิพย์" ชี้ปม บาดแผล 3 กลุ่ม จำลองศพ "แตงโม" ทำได้หรือไม่ ?
"หมอพรทิพย์" ชี้ปม บาดแผล 3 กลุ่ม บนร่าง "แตงโม" แผลที่เกิดขึ้นสามารถบอกได้ ตกเรือที่จุดไหน การจำลองศพ ทำได้แต่ต้องโปร่งใส ในการสรุปครั้งที่ 2 ไม่ทราบว่าผลการจำลองได้เข้าสู่สำนวนหรือไม่
จากกรณี "นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์" ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำทีมงานแถลงข่าวคดี "แตงโม นิดา" เปิดหลักฐานสำคัญ ขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จ โดยเฉพาะการเปิดคลิปที่ตำรวจได้นำร่างแตงโมออกมาจำลองเหตุการณ์ แต่กลับไม่ได้มีการแจ้งคุณแม่ทราบ ซึ่งกรณีนี้ แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยกับทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ ว่า ขั้นตอนการจำลองบาดแผล กับวัตุพยานเป็นสิ่งที่ควรทำ และสามารถทำได้ แต่อาจไม่จำเป็นทุกกรณี เนื่องจากบาดแผลอาจบอกได้ด้วยตัวมันเอง
ซึ่งกรณี "แตงโม" พบบาดแผล 3 กลุ่ม คือ แผลใหญ่ต้นขาขวา ไม่น่าเชื่อว่าเกิดจากใบพัดเรือ รวมถึงบาดแผลก้างปลา มีความเป็นไปได้ที่เกิดจากใบพัด และแผลอื่นๆ ที่มีทั่วตัว หากสรุปว่าทุกแผลเกิดจากใบพัด ต้องสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งแผลที่เกิดขึ้นสามารถบอกได้ว่าตกเรือที่จุดไหนในเชิงวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้ หากมีการผ่าชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นแล้ว มักไม่ค่อยมีการจำลองกับศพอีก และต้องมีการแจ้งญาติทราบ โดยการจำลองต้องคำนึงถึงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า "Chain of custody" คือ การรักษาสภาพวัตถุพยานให้ต่อเนื่อง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอาจมีการขอตรวจใหม่ ถึงแม้กฎหมายให้อำนาจ แต่ต้องคำนึงถึงความโปร่งใสตรวจสอบได้ ต้องมีภาพถ่ายที่ยืนยันว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่ดั้งเดิม ไม่ได้ทำขึ้นมาใหม่ และที่สำคัญคุณหมอคนแรกไม่แจ้งคณะกรรมการ ว่าได้นำศพไปจำลองกับใบพัด ซึ่งในความเป็นจริงควรแจ้ง เพื่อทราบว่าอะไรคือแผลเบื้องต้น และมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง ในการสรุปครั้งที่ 2 ไม่ทราบว่าผลการจำลองได้เข้าสู่สำนวนหรือไม่ ซึ่งการจำลองลักษณะนี้ เคยเกิดขึ้นแต่ไม่บ่อยนัก หากทราบว่ามีการจำลองก่อน ผลที่ออกมาจะไม่เป็นเช่นนี้
ส่วนการทำให้แผลเพิ่มขึ้นอาจเป็นไปได้ ผู้ทำการจำลองต้องชี้แจง และที่สำคัญการบันทึกบาดแผลต้องทำให้ครบถ้วน โดยเฉพาะแผลที่เป็นสาระสำคัญ ส่วนการรายงานครั้งแรกส่งให้พนักงานสอบสวนไปแล้วแต่มาแก้เพิ่ม สะท้อนถึงคุณภาพการทำงาน แต่ตนไม่เห็นรายงานครั้งแรกว่ามีแผลจำนวนเท่าไหร่ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีอคติกับตำรวจ
"หมอพรทิพย์" ยืนยันว่า "แตงโม" ไม่ตกจากท้ายเรือแน่นอน แต่จะตกที่ส่วนไหน สามารถพิสูจน์ในเชิงนิติวิทยาศาสตร์ได้ เชื่อว่าสุดท้ายความจริงจะปรากฏ "ศพสามารถบอกความจริงได้" ส่วนกรณีที่ "ทนายเดชา" ออกมาพูดว่า ไม่จำเป็นต้องผ่าศพหลายรอบ ไม่มีประโยชน์ พร้อมยกกรณีคดี "ห้างทองธรรมวัฒนะ" ตนมองว่า หากไม่รู้จริงก็อย่าพูด ไม่ได้นำมาเป็นสาระ แต่ปัญหาสำคัญคือ การรวบรวมพยานหลักฐานที่ผิดพลาดตั้งแต่แรก ไม่ใช่การผ่าศพ
ส่วนกรณีพบ "ยาเสียสาว" หนึ่งในผู้ต้องหาบนเรือนั้น ตนมองว่าการไม่ตรวจตั้งแต่เริ่มต้นมีผลต่อรูปคดี ไม่ว่าจะเป็นการตรวจแอลกอฮอล์หรือสารเสพติด แม้ผู้ต้องหามีการปฏิเสธแต่ตำรวจกลับยินยอม จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของสังคมหรือไม่ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า อยากเห็นการปฏิรูปตำรวจอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยรับปากกับสังคมว่าต้องปฏิรูปตำรวจ แต่กลับนิ่งเฉย