"โม อมีนา" ยังสู้เพื่อแตงโม เหลืออย่างสุดท้ายที่จะทำ ที่เหลือรู้หมดแล้ว

เรื่องที่ไลฟ์คุยกับแอนนา? 

 

อ๋อ จริงๆ อันนี้โมต้องขอชี้แจงก่อน วันนั้นมีการตกลงกับแม่แอนนา ฮิปโป พุดเดิ้ล ไว้ว่าเราจะไลฟ์สดขายของกัน แล้วให้อมีนาไปช่วย ปกติโมไปบ้านแม่แอนนาบ่อยอยู่แล้ว เรื่องขายของ ทำอะไรต่างๆ เราจะไปรวมตัวกันที่นั่น รถกู้ภัยของพี่โมก็ไปรวมตัวกันที่นั่น 

 

แล้ววันนั้นพอดีแม่แอนนาเขาอยากจะไลฟ์พูดคุยต่อ เราก็ไม่ได้ติดอะไร ก็นั่งพูดคุย ประเด็นมันอยู่ที่ภาพล่างของพี่ โมบอกก่อนว่าจริงๆ ก็ไม่อยากจะพูดถึงแล้วนะตั้งแต่คราวที่แล้ว เพราะโมรู้สึกว่า พอพูดก็หาว่าหิวแสง พอไม่พูดก็บอกว่าเราไม่ทำอะไรเลย ก็เลยไม่รู้ว่าจะเอาใจใครได้บ้าง ที่มันจะอยู่ตรงกลางให้ได้มากที่สุด

 

ถ้าจะให้โมออกมาพูดทั้งหมด คิดตามขั้นพื้นฐานเลยนะ ถ้าโมออกมาพูดทั้งหมด แน่นอนอีกฝั่งหนึ่งจะต้องรู้ว่าเราทำอะไรบ้าง การเตรียมตัวก็จะต้องเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น เราก็แพ้ไปเลย โดยที่เราทำด้วยเราเหนื่อยด้วยเราพยายามด้วยออกมาพูดทั้งหมดก็เหมือนบอกข้อมูลเขาทางอ้อม จริงมั้ยคะ 

ส่วนเรื่องที่บอกว่าโมกับฮิปโป ทำไมคุยในรายการหนึ่งถึงบอกว่าจำหน้าพี่ไม่ได้ แต่งหน้าพี่ไม่ได้ ใช่ค่ะอันนี้โมไม่ได้โกหก เพราะวันแรกที่เจอพี่ เราก็ไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ไปที่นิติเวชเพื่อที่จะไปเจอ ขออนุญาตคุณแม่ ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ ขอเข้าไปเจอ 

 

ตอนที่เข้าไปเจอก็บอกเหมือนที่บอกในรายการ เพราะเราเห็นอย่างนั้นจริงๆ และยังไม่รู้รายละเอียดมากไปกว่านี้ วันหนึ่งเราได้คุยกับทางผู้ใหญ่ ซึ่งโมขอโทษจริงๆ ที่ไม่สามารถบอกได้ว่าโมคุยกับใคร ทางผู้ใหญ่ที่สามารถเชื่อถือได้และมีหลักฐานข้อเท็จจริงมากพอที่เราจะเชื่อ 

 

ก็ได้มีการเปิดรูปให้ดูตั้งแต่ได้เจอครั้งแรก โมไม่ได้บอกว่า ภาพครั้งแรกที่เจอพี่ไม่ได้บวม ไม่ได้อืด ทุกคนมองว่าเขาก็หลับขึ้นมา แต่ทางคุณหมอที่จะมาชันสูตรในเบื้องต้น เขาก็ต้องเบิกตาดูว่ามีรอยแตกของเส้นเลือดในตามั้ย หรือว่าดูในกระพุ้งแก้มว่ามีรอยช้ำจากการชกต่อยมั้ย เขาต้องตรวจภายในช่องปาก 

 

ซึ่งคนที่เสียชีวิตแล้ว เขาไม่สามารถอ้าแล้วกลับมาเหมือนเดิมได้ ลืมตาแล้วกลับมาหลับได้ อันนี้โมพูดถูกมั้ยคะ เพราะฉะนั้นภาพที่ทุกคนเห็นก็เลยเป็นแบบนั้น แต่ภาพแรกๆ จริงๆ ที่อยู่ในมือผู้ใหญ่จริงๆ ก่อนหน้าที่ทุกคนจะเห็นมันเป็นอีกแบบหนึ่งเท่านั้นเอง 

 

โมไม่อยากให้ทุกคนมาคิดมากว่าเรามานั่งโกหก บิดเบือนคำพูดมันไม่ใช่ ที่หนูยอมพูดเพราะรู้สึกว่า หนูทำมาตั้งนานโดยที่ไม่บอกใคร แต่พอวันนี้เราพยายามอธิบายถึงหลักฐานที่เราเห็น ท้อนะ (น้ำตาคลอ)

 

 

 

ยังติดใจในประเด็นไหน ยังอยากสู้ต่อ? 

 

โมบอกแล้วว่าทุกอย่างไปเจอที่ชั้นอัยการ เพราะสิ่งที่โมทำ โมไม่ขอเกี่ยวพันอะไรกับตำรวจเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจโมเชื่อมั่นในสิ่งที่เขาสรุปมา ไม่ว่าจะหลักฐานอะไรก็แล้วแต่ให้เขาทำหน้าที่ของเขาให้จบก็แค่นั้น อันนี้คือทางกฎหมาย ซึ่งโมไม่อยากให้ใครคิดเกินจริง หรือใดๆ ทั้งสิ้น พอรอบ 2 นั่นก็คืออยู่ฝั่งอัยการ ที่อัยการทำก็คือถูกแล้ว เรียกหลักฐานเพิ่ม เอกสารทั้งหมด ถูกแล้วค่ะ 

 

มีประเด็นเกี่ยวกับยาเสียสาว ตรวจพบเจอสารนี้ในคนบนเรือ โมมีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร? 

 

โมสืบเรื่องนี้มาตลอด โมดูเรื่องนี้มาตลอด โมทำเงียบๆ ของโม โดยที่โมไม่ได้หยุดพักเลย คนที่รู้มากสุดจะคือฮิปโปมีอะไรโมจะโทรหาฮิปโปตลอด ว่าเจออันนี้ รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร มันมีอีกหลายอย่างที่ก็ไม่ได้เป็นข่าว เพราะว่าโมเชื่อว่า เอาอย่างนี้ดีกว่า เดี๋ยวถึงวันหนึ่งทุกคนก็จะรู้เองว่าเป็นยังไง 

 

ทุกวันนี้ที่เป็นข่าวอยู่ หนูก็ยอมรับว่าหนูทราบเรื่องก่อนหน้านี้แล้ว แต่หนูไม่พูด ที่ไม่พูดไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วย แต่เราพยายามจะทำให้ชนะให้ได้ไง ยิ่งออกมาพูดมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งมีแผลมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นหนูว่าหนูก็ไม่ได้ทำผิดอะไร และหนูก็เข้าใจคนในโซเชียลดี 

 

ทุกวันนี้หนูยอมโดนด่า ยอมโดนว่า แต่ว่าหนูก็ไม่ได้บอกว่าหนูจะหยุดหรือว่าอะไร หนูทำของหนูเงียบๆ ได้ เพียงแต่ว่าคนในโซเชียลอย่ามาบังคับให้หนูพูดอะไรเยอะกว่านี้ เพราะว่ามันมีผลจริงๆ และหนูเกรงใจผู้ใหญ่มากๆ ในการพูดอะไรต่างๆ เพราะทุกอย่างมันต้องไปอยู่ในชั้นอัยการจริงๆ ค่ะพี่ 

 

ยังจะสู้ มีความมั่นใจในหลักฐานว่ามันรัดกุมและประจักษ์ต่อสายต่อผู้คน? 

 

ตอนนี้นะคะ สิ่งที่โมทำอยู่ โมรออะไรบางอย่างกำลังเดินทางมาอยู่นิดนึง แล้วเดี๋ยวโมจะทำอะไรบางอย่างเพิ่ม โมจะส่งให้ทางผู้ใหญ่หมด มันเหลืออีกแค่อย่างสุดท้ายที่เราจะทำ ที่เหลือเรารู้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสารเสพติดก็ดี อะไรที่เขาอยู่ก็ดี อันนั้นก็ให้ผู้ใหญ่เป็นคนจัดการ เพราะหนูเข้าไปยุ่งไม่ได้ 

 

หนูก็ยังพูดกันอยู่ว่าไม่ได้โกรธหรือเข้าไปยุ่งในหน้าที่ของใครจนถึงทุกวันนี้ ทำก็ทำเงียบๆ ส่งให้ผู้ใหญ่ หลังจากนั้นผู้ใหญ่ไปทำกันเอง โดยที่มันไม่ใช่หน้าที่ของเราแล้ว และหนูก็ไม่เคยไปเบียดเบียนคนอีกฝั่งหนึ่งหรือไปนั่งด่าเขา ไม่เคยไปนั่งว่าเขาว่าเขาผิด ถ้าเขาจะผิดก็ให้ผิดด้วยหลักฐาน และทุกอย่างๆ ที่มันมัดตัวเขาเอง

 

โมถึงพูดเสมอว่าเชื่อมั่นในความยุติธรรมและกฎแห่งกรรม ให้มันบวกกันแล้วลงโทษพวกเขาเองดีกว่า ไม่ต้องไปนั่งด่านั่งว่าเขาให้มันไม่ได้อะไรขึ้นมา ว่าไปด่าไปเขาก็ไม่รู้สึกอะไร 

 

มันคือสาเหตุที่ไม่พูดตั้งแต่แรก? 

 

ใช่ค่ะ โมจะพูดแค่ว่า ใจเย็นๆ นะไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไร เราพูดมากเท่าไหร่ มีดจะกลับมาแทงเรามากขึ้นเป็น 2 เท่า 

 

มันจะเหมือนเราทำการบ้าน สมมติพี่กับหนูทะเลาะกัน พี่ออกมาแถลงๆ แต่หนูทำการบ้านแล้วว่าหนูจะพูดอะไรต่อบ้างหรือจะไปพูดอะไรต่อหน้าอัยการได้บ้าง

 

เพราะฉะนั้นหนูถึงไม่ออกมาพูดเหมือนคนอื่นๆ เขา และหนูก็ไม่ได้บอกว่าคนอื่นๆ เขาพูดผิดหรือว่าพูดถูก เป็นหน้าที่ของแต่ละคนไป ทุกคนก็มีหลักฐานในมือ ทุกคนก็มีข้อเท็จจริงที่สามารถออกมาชี้แจงได้ 

 

แต่ถ้าเป็นฝั่งหนู หนูยิ่งรู้สึกว่าออกมาพูดก็เหมือนยิ่งฆ่าตัวตาย ไม่รู้จะพูดทำไม เราไปพูดในที่ที่ควรจะพูดดีกว่ากับคนที่เราควรจะบอกทุกอย่างได้ 

 

ช่วยได้หรือไม่ได้ก็อยู่ที่อัยการแล้ว หนูช่วยได้ที่สุดแล้ว เต็มที่แล้วจริงๆ คนที่คุยกับแม่คือแม่แอนนาค่ะ และโมไม่เคยโดนขู่ โมไม่เคยโดนยัดเงิน โมไม่เคยโดนอำนาจมืด และโมไม่กลัวด้วย ไม่เคยมีเพราะอย่างที่บอกเพราะโมไม่ได้ไปก้าวล่วงใครเขา เขาจะมาขู่โมก็ไม่ใช่เรื่อง เราทำหน้าที่ของเรา ไม่ได้ไปอะไรใคร 

 

ตอนนี้จะเงียบไปก่อน รอให้เรื่องเข้าชั้นอัยการก่อนแล้วค่อยพูด? 

 

(พยักหน้า) พอหนูส่งหลักฐานเสร็จจะเล่าให้ฟังเลย เพราะว่ารู้สึกว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมด แล้วมาพูดก่อน ก็เท่ากับศูนย์เลยนะกับที่พยายามทำมาทั้งหมดให้กับพี่หนูคนหนึ่ง ที่เงียบเพราะพยายามทำให้เต็มที่ ใจจดจ่ออยู่กับตรงนี้ ไม่เคยเสพข่าว ไม่เคยรู้อะไรเลยว่าใครออกมาพูดอะไรบ้าง รู้แค่ว่านี่คือสิ่งที่เราทำ ผู้ใหญ่บอกมาแบบนี้เราได้รับคำปรึกษาที่ดี เราก็ทำตามที่เขาบอก และเอกสารข้อเท็จจริงทุกอย่าง

 

ใช้เงินตัวเองจัดการทำทุกอย่าง? 

 

ใช่หนูไม่เคยขอเงินใคร ไม่เคยขอทุน ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใคร และในส่วนของงานวันที่ 24 เรามาร่วมส่งพี่ไปในที่ๆ อยู่ข้างบนฟ้าของเขาดีกว่า ต่อให้อายัดศพไว้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะกาลเวลาผ่านมาค่อนข้างนานแล้วนะคะ โมว่าจะพิสูจน์รอบ 3 ก็ค่อนข้างยาก

 

2 รอบที่ผ่านมาไม่ว่าจะจากทางทีมแพทย์ก็ดี เอกสารก็ดี แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ในความรู้สึกของหนู และจากการสอบถามผู้ใหญ่มานะคะ แต่ว่าก็นั่นแหละค่ะ ไปส่งพี่ดีกว่า งานนี้หนูไปส่งพี่อย่างเดียวค่ะ ไม่ได้จัดการอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ก็จะเป็นทางคริสตจักรและแม่เอ ศุภชัย ค่ะ เป็นคนจัดการทั้งหมดในงานของวันนั้น และแม่อ๊อด หนูก็เป็นผู้ห้อยตามแม่ๆ ไปค่ะ เพราะอยากไปส่งพี่จริงๆ ค่ะ 

 

พี่รู้มั้ยหนูไม่ไปงานเยอะมาก เพราะหนูท้อ ไม่รู้จะต้องทำยังไง แต่หนูรู้สึกว่า ในเรื่องของพี่หนูก็เต็มที่เท่าที่ความสามารถหนูมี ทั้งหมดทั้งชีวิตหนูแล้ว และหนูเคยบอกแล้วว่าหนูไม่ต้องการแสง ยอดฟอลโลว์ หรืออะไรต่างๆ คนที่ติดตามหนูขอบคุณมากๆ คนที่ไม่อยากจะติดตามแล้ว หนูเข้าใจไม่เป็นไรเลย หนูเข้าใจทุกคนดี เข้าใจในเหตุผลของแต่ละคน

 

พอพูดทุกคนไม่อิ่ม อยากจะได้มากกว่านี้ ก็โกรธหนู หนูก็เข้าใจ ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดว่าใครเข้าใจในเหตุผลของเรา ก็ใจเย็นๆ นิดนึง ขอให้รอก่อน เรื่องนี้หนูว่าให้เวลากันหน่อย นิดนึง เพราะหนูก็เต็มที่แล้วจริงๆ 

 

คนมองว่าพยายามอยากจะแทนที่แตงโม? 

 

มีแบบนี้ด้วยเหรอ หนูไม่เคยรู้ มันไม่มีใครแทนที่ใครได้นะพี่ พี่โมก็ยังเป็นพี่โม หนูก็ยังเป็นหนู อะไรที่หนูพอจะทำแทนพี่ได้และหนูทำได้ อาทิ เอ็มวีที่หนูเล่นไป เล่นได้ ไม่เรียกค่าตัว

 

ในรายการคิ้มกินรอบวงไปร้องเพลงแทนพี่หนูก็ไม่เคยคุยเรื่องเงิน ละครมีข่าวออกมาว่าอยากให้เล่นแทนพี่ หนูก็ไม่เล่น หนูรู้สึกว่า ยกหน้าที่ให้คนอื่นดีกว่า เราทำหน้าที่แทนเขาไม่ได้ทั้งหมด และไม่มีการแทนที่ใครได้อยู่แล้ว 

 

ตามความรู้สึกของโมคิดว่าแตงโมเกิดอุบัติเหตุ หรือทำให้เป็นอุบัติเหตุ? 

 

โห ถามงี้เลยเหรอ หนูก็ไปทดลอง ที่ลงภาพไปก็ตามที่แม่แอนนาบอก ไปทดลองกันเองโดยที่เราไม่ได้เอาเรือลงแม่น้ำไปลองในขั้นพื้นฐานเบื้องต้นกันก่อน ตามเอกสารที่ผู้ใหญ่ให้เรามา ถ้าพูดไปก็เป็นผลต่อข้างใน เพราะฉะนั้นหนูเลี่ยงการมีคดีติดตัวดีกว่า 

 

เอกสารที่เราทำสามารถยื่นต่ออัยการได้? 

 

ค่ะ หนูก็พยายามถามผู้ใหญ่อยู่เหมือนกันค่ะ จริงๆ หนูพยายามโทรหาพี่เขาเพื่อจะบอกว่าคุยกับพี่เขาอยู่ แต่พี่เขายังไม่รับสาย เดี๋ยวหนูค่อยอัปเดตให้ เพราะว่ายอมรับว่าก็มีสายโทรมาบ้างที่เป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่ได้พูดชื่อไปรบกวนเขา 

 

3 เดือนที่ผ่านมา กระแสบวกก็มี ลบก็มาก นอยด์มั้ย? 

 

ไม่เป็นไรค่ะ หนูเข้าใจและยอมรับความจริงได้ หนูมีความเข้าใจมากพอสำหรับชาวโซเชียล