ดูโพสต์สาวอังกฤษเจ้าของแผลที่ตำรวจโป๊ะแตกใช้แถลงคดี "แตงโม" ความจริงคือ ?
จากกรณีการแถลงข่าวของตำรวจภูธรภาค 1 เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ "แตงโม" ซึ่งช่วงหนึ่งมีการระบุว่าบาดแผลของเธอ เกิดจากใบพัดเรือพร้อมกับยกเคสต่างประเทศเข้ามาเปรียบเทียบ
หลังจากนั้นชาวเน็ตก็จับโป๊ะได้ว่าเคสที่นำมาเปรียบเทียบในคดี "แตงโม" ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ โดยคำแถลงระบุชัดเจนว่า "บาดแผลทั้งหมดเกิดก่อนการเสียชีวิต โดยเฉพาะบาดแผลบริเวณต้นขา ยาว 26 เซนติเมตร กว้าง 7 เซนติเมตร ลึก 1.5 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อนำบาดแผลมาทำกราฟฟิกเปรียบเทียบ พบว่าเข้าได้กับลักษณะของใบพัดเรือที่ปั่นในแนวขวางกับขาของสาวแตงโม อีกทั้งเจ้าหน้าที่นำใบพัดเรือไปทดสอบด้วยการกดและปั่นกับดินน้ำมัน พบว่าลักษณะบาดแผลมีความเว้าโค้งแบบแดียวกัน ประกอบกับบาดเเผลของผู้ที่ประสบเหตุถูกใบพัดเรือในต่างประเทศ ก็มีลักษณะเดียวกับบาดแผลบริเวณต้นขาของแตงโม"
หลังจากนั้นไม่นานนักตำรวจก็ตั้งโต๊ะแถลงเผยถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดย พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 หัวหน้าชุดในคณะทำงาน ทำหน้าที่รวบรวมหลักฐานคดีการเสียชีวิตของเเตงโม ชี้แจงว่า ภาพที่เกิดปัญหานั้นเราหยิบยกมาอธิบายลักษณะของบาดแผลที่มีลักษณะการโค้งเว้า ซึ่งในวีดิทัศน์ที่แถลงข่าว เราใช้คำว่า "บาดแผลที่มีการโค้งเว้าลักษณะเช่นเดียวกัน" ในวีดีทัศน์ที่มีคำบรรยายว่ามีผู้เคราะห์ร้ายถูกใบพัดเรือ มีบาดแผลลักษณะเดียวกัน แต่เราไม่ได้นำรูปมาขึ้นเปรียบเทียบ จึงต้องขออภัยทำให้การบรรยายภาพ สื่อสารให้ผู้รับชมเกิดความกำกวม ซึ่งเจตนาการนำภาพดังกล่าวมาเปรียบเทียบ เราต้องการนำเสนอ ลักษณะบาดแผลที่เป็นลักษณะโค้งเว้าคล้ายตัว S ในภาพข่าวต่างประเทศ ภาพบาดแผลตัวอย่างที่มาเปรียบเทียบให้ดู ก็ไม่ได้มีการสรุปว่าบาดแผลเกิดจากอะไร อย่างไรก็ตาม การนำเสนอภาพดังกล่าวที่ถูกวิพากวิจารณ์นั้น ไม่ได้มีผลทำให้สาระสำคัญของคดีนี้เปลี่ยนไป อีกทั้งลักษณะบาดแผล หากมีการเย็บบาดแผล ต้องเย็บตามลักษณะบาดแผลที่เกิดตามรอย ไม่ว่าจะเป็นแนวตรง แนวเฉียงหรือแนวโค้ง
ถึงแม้ว่าตำรวจจะออกมายอมรับความผิดพลาดแล้ว แต่สังคมก็อยากจะรู้ว่าแท้จริงแล้วสาวอังกฤษเจ้าของบาดแผลนั้นโดนอะไร เพราะหากรอยเหมือนกับสาวแตงโม ก็อาจเป็นไปได้ว่าแตงโมก็โดนสิ่งของชนิดเดียวกับสาวคนนี้ ซึ่งทางอมรินทร์ ทีวี ได้มีการเปิดโพสต์ของสาวดังกล่าวที่มีการเขียนไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดย "เมซี่ กรูว์" นักศึกษาสาววัย 21 ปี เขียนไว้ว่า
"PLEASE SHARE!!!
URGENT APPEAL for information Mr & Mrs Grew
Our daughter Maisie attended the Eccleshall Young Farmers Dinner Dance at Tillington Hall Hotel Stafford on Friday 20th September 2019.
At 1130pm whilst Maisie was standing beside her friend Sophie on the edge of the dance floor, she sustained a very serious deep 15cm laceration to the back of her right leg, cleanly cutting through her dress.
Maisie lost a great deal of blood and was taken to North Staffs hospital where her leg was operated on.
The hospital staff have advised that no glass or foreign bodies were found in Maisie’s wound, and that the cut was most likely from a very sharp bladed instrument. A case has been opened with Staffordshire Police.
Maisie’s parents are appealing for any information at all in relation to this incident, and request anyone at the event to review pictures they may have taken or share anything at all suspicious that they may have witnessed
Maisie’s parents can be contacted on 07775 546551 or contact Staffordshire Police in complete confidence on 101 - case ref 163 21st Sep 2019"
แปลเป็นไทยคือ "ในเวลาราว 23.30 น. ขณะที่เมซี่ยืนอยู่กับโซฟีเพื่อนของเธอใกล้ขอบเวทีเต้นรำ เธอถูกทำร้ายด้วยวัตถุปริศนา ทำให้เกิดบาคแผลที่ต้นขาด้านหลัง โดยเป็นการกรีดทะลุชุดเต้นรำของเธอ เมซี่เสียเลือดมากและเธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนอร์ธ สแตฟ โดยแพทย์ได้ทำการผ่าตัด และไม่พบเศษแก้ว หรือร่องรอยวัตถุใด ๆ ทั้งนี้คาคว่าอาวุธมีลักษณะคล้ายใบมีดที่คมมาก ขณะที่ตำรวจสแตฟฟอร์คกำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"
สำหรับ ไทม์ไลน์เฟซบุ๊กเมซี่ หลังเกิดเหตุ วันที่ 22 ก.ย. 62 ครอบครัวเมซี่แจ้งข่าว ขอให้ผู้มีข้อมูลเข้าให้ปากคำตำรวจ ระบุว่า เกิดเหตุขณะไปร่วมงานเลี้ยง 20 ก.ย. 62 แพทย์ประเมินว่าบาดแผลยาว 15 ซม. แต่ยังไม่ทราบชนิดอาวุธ ต่อมาวันที่ 23 ก.ย. 62 ผู้บาดเจ็บโพสต์ภาพบาดแผลก่อนเย็บ ระบุว่าเพิ่งออกจากโรงพยาบาล และยังไม่ทราบตัวคนร้าย และวันที่ 27 ก.ย. 62 ผู้บาดเจ็บโพสต์ภาพบาดแผลหลังการเย็บ ระบุว่า บาดแผลใหญ่กว่าที่คิด และขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจ จากนั้น ในเดือน ก.ย. 62 ผู้บาดเจ็บโพสต์ภาพกระโปรงที่ถูกคนร้ายกรีดทะลุ และมีการเปลี่ยนรูปภาพโพรไฟล์สวมชุดราตรีสีแดง
นอกจากนี้ยังมีการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองสเเตฟฟอร์ดเชอร์เจ้าของคดีด้วย โดยอีกฝ่ายระบุว่า คดีที่เกิดขึ้นในปี 2019 ทางตำรวจยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล หรือความคืบหน้าของคดีในปีดังกล่าวได้ เนื่องจากเวลาผ่านมา 3 ปีแล้ว จึงให้คำแนะนำกับผู้สื่อข่าวประเทศไทย ส่งอีเมลรายละเอียดของข่าว รวมถึงคำถามที่ต้องการสอบถามไปยังห้องศูนย์บังคับบัญชา เพื่อสอบถามรายละเอียดของคดี