หรือจะจริง ? พิสูจน์แล้วถ้า "แตงโม" ตกท้ายเรือมีแผลเดียว ตกหัวเรือแผลเหวอะ

โดยผู้ที่เรียกฟิสิกส์มาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหาก "แตงโม" ตกที่ท้ายเรือจริงตามหลักของแรงเรือที่กำลังวิ่งไปข้างหน้าจะดีดให้สิ่งของที่ตกลงไปดันออกไปข้างหลัง จึงไม่มีทางที่จะโดนใบพัดเรือ แต่หากตกที่หัวเรือจะมีความเป็นไปได้มากกว่า เพราะจะถูกดูดเข้าใต้ท้องเรือแล้วอาจทำให้สิ่งของที่ตกลงไปโดนใบพัดเรือได้

ล่าสุดเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงของความคิดดังกล่าวทางอมรินทร์ ทีวี จึงได้มีการทดสอบว่าการตกท้ายเรือและตกหัวเรือสิ่งของดังกล่าวจะมีลักษณะตามข้อสันนิษฐานหรือไม่ สำหรับการทดสอบแบ่งเเป็น 2 รูปแบบ และระดับความเร็ว 2 ระดับ คือ หนึ่งการใช้ต้นกล้วยซึ่งมีน้ำหนักใกล้เคียงหรือเทียบกับน้ำหนักคน ทิ้งลงบริเวณบอร์ดท้ายเรือ ด้วยระดับความเร็วปกติคงที่ 5-6 นอต และเป็นการเปลี่ยนความเร็วกะทันหัน จาก 5-6 นอต ขึ้นไปที่ระดับเกินกว่า 10 นอต และสองคือเปลี่ยนจากทิ้งท้ายเรือไปทิ้งที่หัวเรือ

โดยการทดสอบโยนต้นกล้วยลงท้ายเรือ ด้วยความเร็วคงที่ 5-6 นอต ผลการทดสอบปรากฏว่าความเร็วของเรือจะทำให้เกิดคลื่นน้ำลักษณะวน มีการดูดเอาต้นกล้วยเข้าไปติดใต้บอร์ดท้ายเรือ แม้ว่าจะมีการแล่นไปข้างหน้าต่อเนื่อง ต้นกล้วยก็ยังติดอยู่ไม่ได้ถูกผลักออก ส่วนลักษณะร่องรอยมีโดนใบพัดเล็กน้อย จากนั้นเปลี่ยนการทดสอบด้วยโยนต้นกล้วยท้ายเรือ อัตราความเร็วจาก 5-6 นอต แล้วมีการดีดความเร็วขึ้นไปแบบกะทันหันเกินกว่า 10 นอต ตอนแรกที่ต้นกล้วยตกไปท้ายเรือมีลักษณะลอยอยู่ช่วงท้าย และมีลักษณะถูกดูดเข้าไปใต้บอร์ด จากนั้นเมื่อมีการเร่งความเร็วดีดขึ้นไปเกินกว่า 10 นอต ต้นกล้วยที่ถูกดูดเข้าไปใต้บอร์ดถูกดีดออกไปกับคลื่นน้ำ ลอยห่างออกไปจากเรือ ส่วนลักษณะมีรอยฉีกขาดของกราบต้นกล้วย เหมือนถูกบาดเล็กน้อยแต่ไม่ได้เข้าลึก

จากนั้นได้เปลี่ยนโยนต้นกล้วยไปตำแหน่งบริเวณหัวเรือ เพื่อทดสอบวัตถุว่าจะมีการชนกราบเรือ หรือโอกาสที่จะเข้าไปโดนใบพัดเรือได้หรือไม่ ซึ่งผลคือตัวของต้นกล้วยไม่ชนกับหัวเรือ แต่จะมีลักษณะตกและจมรอดผ่านใต้ท้องเรือ แต่ความรู้สึกของคนบนเรือและคนขับเรือจะสัมผัสได้ถึงใบพัดที่ไปโดนวัตถุบางอย่าง โดยเรือจะมีการผ่อนเครื่อง ลักษณะฟรีตัว และจะได้ยินเสียงเหมือนไปเกี่ยววัตถุบางอย่าง แต่เมื่อไปสังเกตบริเวณท้ายเรือหลังจากที่มีวัตถุตกที่หัวเรือแล้ว ปรากฏว่าต้นกล้วยมีลักษณะถูกปั่นแหลก แยกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย