"โยเกิร์ต" เผย เรื่องเดียวที่บ่นจู้จี้ ขอสามี "ดีเจพีเค" ต้องปรับ

 

ถามถึงบทละครเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง

 

 “พี่เมย์โทรมาหาหลายครั้งให้เล่นเรื่องนี้ ตอนแรกตั้งใจว่าจะเล่นดีไหมหรือว่าไม่เล่นดีกว่า แต่สุดท้ายก็ตกลงมารับเล่น ก็รู้สึกดีใจที่วันนั้นเราตัดสินใจถูก ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของละครเรื่องนี้ ตอนแรกที่รับพี่เมย์ก็สัญญาว่าจะปรับบทให้มันดูน่าสนใจมากขึ้น เพราะว่าโยได้อ่านตั้งแต่เวอร์ชั่นแรกๆ แล้วบทเรื่องนี้มันก็เป็นอย่างที่พี่เมย์รับปากไว้จริงๆมันแซ่บขึ้น”

 

 

 

 

แซ่บอย่างไร?

 

“ความร้ายของพิมพ์อัปสรมันจะค่อยๆออกมาให้คนดูได้เห็น เดี๋ยวคนดูจะรู้สึกว่าเฮ้ย..ขนาดนี้เลยเหรอ มันร้ายเบอร์นี้เลยเหรอ ถึงขั้นนี้เลยเหรอ ไม่ได้ร้ายเงียบมันจะอู้หู..อ้าหา.. แต่ต้องอดใจรออีกนิดนึง ผู้จัดเขาไม่อยากให้เราบอกก่อนเดี๋ยวคนดูไม่เซอร์ไพรส”

 

มีขอพี่เมย์ไปไหมว่าเราอยากได้แบบไหนบ้าง?

 

 “ไม่ได้ขอเลย แต่พี่เมย์จะคอยมาอยู่ในกอง คอยไกด์บ้างเล็กน้อย ว่าเคยเล่นแบบนี้ไปแล้ว ลองเล่นแบบนี้สิ พี่เมย์จะมากองบ่อยมาก เหมือนเขาอยากมาดูทุกซีน”

 

ตอนเล่นมีแอบกังวลไหมว่าเราจะเล่นได้แบบที่เมย์ต้องการหรือเปล่า?

 

 “ไม่ได้กังวลแต่ทุกครั้งที่พี่เมย์พูดอะไรเราก็จะพยายามทำให้ได้แบบที่เขาต้องการเราพยายามไปให้ถึงตรงนั้น”

 

กดดันไหมด้วยว่าเมย์เป็นนางร้ายในตำนานแล้วเราเป็นนางร้ายเจนใหม่ แล้วเขามานั่งดูเราเล่น?

 

“มีความกดดันเบาๆนอกจากพี่เมย์เป็นผู้จัด แล้วพี่เมย์ก็เป็นนักแสดงเหมือนกัน พอเป็นนักแสดงด้วยกัน มันเหมือนเขาจะมองออกมัน ก็จะมีความกดดันจะทำได้แบบที่พี่เมย์คาดหวังให้เราเป็นไหม แล้วเวลาพี่เมย์เขาไกด์เขาก็จะมีลีลาแอคติ้งให้เราดู เราก็จะอู้..พี่เมย์มาเบอร์นี้เลยว่ะ  เราก็จะคิดในใจว่าต้องไม่ทำให้เขาผิดหวังที่เลือกเรามาเล่นเรื่องนี้”

 

ได้คุยกับแพรบ้างไหม

 

 “คุยกันตลอดทั้งแพรทั้งคุณท็อปจะเม้าท์ผู้จัดว่าพี่เมย์มาเบอร์นี้เลย พี่เมย์อยากให้เล่นแรงๆ หรือว่าให้มันชัดเจน จะมีการมาคุยกันนอกรอบ ของแพรจะร้ายโจ่งแจ้งไม่ได้แผนการเยอะสายแว้ดๆไปวันๆ แต่อย่างตัวพิมพ์อัปสรจะร้ายลึกร้ายวางแผน คนภายนอกแรกๆคนดูอาจจะรู้สึกว่าเงียบๆนิ่งๆแต่จริงๆก็คือน้ำนิ่งไหลลึก”

 

 

 

 

มีฉากไหนที่เราหนักใจและรู้สึกว่าเล่นยากมาก

 

 “ไม่ค่อยหนักใจเท่าไหร่ เพราะตอนถ่ายทำมันจะมีการไล่อารมณ์ตัวละคร ความร้ายของเราค่อยๆไล่ไปเรื่อยๆจนไปถึงที่สุด ซึ่งเขาก็จะเก็บไว้ตอนท้ายๆให้เราได้ปล่อยของตอนท้ายๆก็รู้สึกว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคมากเพราะการถ่ายทำมันค่อยๆ ให้เข้าถึงตัวละครไปเรื่อยๆ”

 

กลัวไหมช่วงนี้ทุเรียนกำลังมา

 

“ไม่กลัวเพราะว่าท็อป จรณ รับไปก่อนแล้ว คิดว่าคุณท็อปคงรับทุเรียนไปหมดสวนแล้วคงไม่ถึงเรา”

 

พีเคว่าไงบ้างกับบทบาทของเรา?

 

“เขาคงชินค่ะ เขาเคยเห็นแล้วล่ะ หน้าบึ้งตึง เวลาโมโหหิวก็จะหน้าตาคล้ายๆ กัน เขาก็จะแซวว่าถ่ายตอนหิวใช่มั้ยแล้วก็จะมีการคาดเดาตัวละครว่าตัวละครนี้ต้องเป็นแบบนี้ แน่เลย เพราะโยไม่ได้เล่าให้เขาฟัง เขาก็จะเดา”

 

ติชมเรื่องการแสดงเราบ้างไหม?

 

“คงไม่กล้าติค่ะ น่าจะกล้าชมอย่างเดียว (หัวเราะ)”

 

อ่านฟีดแบคมาเป็นยังไงบ้าง?

 

“ส่วนใหญ่ที่คนพูดถึงน่าจะอวยไปเรื่องของภาพ เรื่องแสง ตอนเราถ่ายเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าภาพสวยแสงสวยอะไรขนาดนั้นนะ แต่พอมาดูในทีวี เรารู้สึกว่าละครเรื่องนี้สวยจัง”

 

แอบหนักใจ หรือกังงวลตรงไหนมั้ย?

 

“หลังๆ บทก็ค่อนข้างรุนแรงอยู่นะ ก็หวังว่าคนดูจะอินแค่ในละครแล้วกันเนาะ”

 

พี่เมย์ว่าไงบ้าง?

 

“พี่ย์ค่อนข้างตื่นเต้นนะ เพราะพี่เมย์ตั้งใจกับเรื่องนี้มาก ก็จะคอยส่งฟีดแบคมาให้ดูตลอด แล้วก็จะคอยทำกิจกรรมเพื่อนกระตุ้นให้คนมาติดตาม พี่เมย์ตั้งใจมากเพราะเป็นเรื่องแรกที่มาทำกับช่อง 3 ด้วยค่ะ”

 

พี่เมย์ คอมเมนต์เรื่องความร้ายของเราว่าไงบ้าง?

 

“เดาว่าก็น่าจะแฮปปี้กับความร้ายของเรา (หัวเราะ) ขอเดาว่าน่าจะตรงใจพี่เม ส่วนโยเองก็คอยดูคอยลุ้น อยู่ตลอดเวลา ณ ตอนนี้ก็รู้สึกโอเคนะ เพราะความร้ายยังไม่ปรากฏออกมาให้คนดูเห็น แต่หลังจากนี้คงลุ้นอีกว่าพอพีคๆ แล้วคนดูจะว่ายังไง”

 

พีเคเขาติดละครเราเหรอ?

 

“ก็ดูค่ะ คอยซัพพอร์ต ปกติเขาก็ไม่ค่อยดูละครเท่าไหร่ แต่พอเป็นละครที่เราเล่นเขาก็จะดู จะคอยถามว่ามาเมื่อไหร่คอยเปิดทีวีรอดู  คอยตื่นเต้นไปกับเรา”

 

ไม่ได้บังคับเขา?

 

“ไม่ได้บังคับค่า (ยิ้ม) แต่ก็เปิดไปดูช่องอื่นไม่ได้”

 

อวยแฟนไหม?

 

“โอ้โห อวยนัมเบอร์วันค่ะ อวยที่สุด ลองคิดถ้าไม่อวยจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา (หัวเราะ)

 

เขาอวยยังไง?

 

“อวยแบบว่า เล่นดีมาก สวยมาก อวยทุกอย่าง”

 

สามีดีเด่น?

 

“ประมาณนั้น ต้องยกให้เขาล่ะ”

 

แต่งงานมา 2 ปีความหวานเป็นยังไงกันบ้าง?

 

"ก็แต่งงานมา 2 ปีแล้วนะ ล่าสุดสงกรานต์ก็มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศ ตอนนี้ก็เหมือนคนไทยและคนทั่งโลกเริ่มสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ก็คุยกับเขาเล่นๆว่า อันนี้คือซ้อมฮันนีมูนนะ ยังไม่ได้ไปฮันนีมูนจริงๆ เลย อันนี้คือซ้อมไปก่อน ซ้อมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ไปในที่ที่เราสองคนอยากไปจริงๆ รอลุ้นว่าปลายปีนี้จะได้ไปในที่ที่เราตั้งใจจะไปตั้งแต่ตอนแรกไหม คือ โยแต่งงานก่อนโควิดมา หลังแต่งงานก็คือชํตดาวน์เลยไม่ได้ไปไหน ตอนนี้ก็ลุ้นว่า ภายในปีนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ไปที่ที่เราอยากไปจริงๆ”

 

ที่ไหนบ้างที่แพลนอยากไป?

 

“อยากไปกรีซค่ะ แต่ไม่รู้เขาเปิดประเทศหรือยัง อยากไปหลายประเทศอยู่แถบๆ นั้นแหละค่ะ ตอนนี้ซ้อมไปเรื่อย”

 

ไปซ้อมมาแล้วโอเคมั้ย?

 

“แฮปปี้ค่ะ เป็นทริปที่เดินทางกันสองคน จะมีไปกับครอบครัวที่พี่พีเคพาคุณแม่ไปเที่ยวบ้าง หรือว่าพี่พีเคไปเจอพี่ชายที่อยู่เมืองนอกบ้าง มีเพื่อนร่วมทริปไปบ้าง แต่ทริปล่าสุดสงกรานต์เนี้ย ไปกันสองคนเป็นโร้ดทริป เป็นโร้ดทริปที่พี่พีเคขับรถนานที่สุด ขับรถ 11 ชั่วโมง จากฝรั่งเศสข้ามไปเยอรมัน ก็เรียกว่าเป็นการซ้อมจริงๆ เพราะก็ไปเจอเรื่องราวแอดเวนเจอร์ผจญภัย”

 

มันดีอย่างที่คิดไหม?

 

“ก็ดีนะคะ ตอนแรกก็กลัวว่าจะตีกันมั้ย สุดท้ายไม่ตี ด้วยความที่แพลนมันเปลี่ยนปุบปับระปว่างเดินทาง ตอนแรกก็กังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันให้เราหงุดหงิดตีกันมั้ย แต่สุดท้ายก็คือตีกัน ราบรื่นตลอดทริป”

 

เขายังเป็นสายเอาใจภรรยาอยู่ใช่ไหม?

 

“เอาใจ ต้องเอาใจสิค่ะ เพราะว่าคุณภรรยาก็ดูแลเขาสุดฤทธิ์เหมือนกัน”

 

เลือกรับละครเพราะอยากดูแลพีเคให้เต็มที่?

 

“เลือกรับค่ะ ทุกครั้งที่รับละครก็พิจารณาบท หลังๆ ผู้ใหญ่ก็ค่อนข้างที่จะให้เราได้มีสิทธิ์ในการตัดสินใจว่าอยากรับไหม ก็พิจารณาถ้าน่าสนใจ อยากเล่นก็รับ งานในวงการเราก็ยังรับ ไม่ได้ตัด ยังอยากทำอยู่ มีความสุขที่ได้ทำ แต่ค่อนข้างที่จะขอเลือกบทที่เราอยากจะทำนิดนึงค่ะ”

 

เคยคิดไหมว่าจะได้มาเป็นนักแสดงที่คนต้องการตัวมากแบบตอนนี้ เพราะเรามาจากการเป็นนางแบบ เหมือนตอนนั้นไม่ค่อยมั่นใจในด้านนี้?

 

“เหมือนตอนนั้นเรายังไม่เก็ททางด้านการแสดงเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เราเอ็นจอย มีความสุขที่ได้ทำ และอยากให้อาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่เราสามารถทำไปได้นานๆ ทำไปจนแก่”

 

ก็ยังทำแต่ขอเลือกบท?

 

“เลือกบทด้วย บางอย่างก็ต้องแบ่งเวลาให้คุณเขาด้วย อย่างที่ทราบว่าถ่ายละครมันหนัก”

 

สามีก็ไม่ได้ขอเรื่องนี้ใช่ไหม?

 

“ไม่ได้ขอ แต่เป็นเราเองที่เกรงใจเขา บางทีกลับบ้านดึกแทนที่จะได้ดูแลเขา แต่เขาไม่ได้ห้าม อยากทำอะไรทำ โดยปกติถ้าต่างคนต่างทำงานเราก็พยายามจัดการเวลาให้เลิกตรงกัน กลับบ้านใกล้เคียงกัน อย่างมีงานอย่างอีเว้นต์ก็ไม่ได้ดึกมาก แต่พอเป็นละครมันก็ค่อนข้างยากที่เราจะเลือกแบบว่า เออ ขอกลับบ้านสองทุ่มอะไรแบบนี้”

 

สามียังไฟเขียวให้แซ่บได้ไหม?

 

“โอ้โห ชอบมาก เขาโอเคมาก ไม่ได้กังวลว่าเราจะโป๊ หรืออะไรเลย เขารู้ว่าเราค่อนข้าดูแลเทคแคร์ตัวเองดี อะไรที่มากเกินไปเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเราไม่ทำ เพราะฉะนั้นเขาโอเคซัพพอร์ต และให้อิสระในการตัดสินใจเลย”

 

มีเลือกเสื้อผ้าให้ไหม?

 

“ไม่ได้เลือกขนาดนั้น แต่จะมีแบบอันนี้ใส่แล้วสวยดีนะ บางทีบางอย่างเราใส่แล้วรู้สึกโป๊  เขากลับบอกตรงกันข้ามบอกเนี่ยไม่เห็นโป๊เลย เราก็สบายใจ แต่บางทีเราก็ไม่ใส่รู้สึกว่าโป๊ไปหรือเปล่า”

 

เวลามีคนมองภรรยาเขารู้สึกยังไง?

 

“น่าจะภูมิใจ (หัวเราะ)”

 

เราก็ต้องดูแลตัวเองเพื่อเขาด้วย?

 

“ที่สุด ปีนี้โยอายุ 35 ก็ต้องสู้กับธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะสู้ได้ ไมได้ดูแลเพื่อให้เราสวยในสายตาเขา แต่เราก็อยากจะสวยดูดีในสายตาเราเอง ทั้งเรื่องสุขภาพ เรื่องความสวยงามด้วย ก็ทำทุกวิถีทางที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรามองตัวเองก็รู้สึกภูมิใจ โยเชื่อเรื่องความสมดุลนะ คือ มันต้องทำควบคู่กัน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งการพบแพทย์ด้วยวิธีต่างๆ นานา แต่ต้องทำด้วยความบาลานซ์”  

 

เสพติดการออกกำลังกายไหม?

 

“ก็ไม่ถึงกับเสพติดแต่พยายามออกทุกวัน เพราะด้วยเวลาที่ผ่านไปอย่างไปเมืองนอกไม่ได้ออกกำลังกาย พอกลับมาก็ต้องขุดตัวเองเหมือนกัน ตอนที่ไม่ได้ไปไหนก็พยายามออกทุกวันเพื่อให้เคยชิน”

 

เขาก็ดูแลตัวเองแข่งกับเรา?

 

“ใช่ เราต้องช่วยกันผลักดันค่ะ อย่างคู่รักคบกันอรกๆ จะพากันอ้วยเพราะพากันกิน อย่างคู่เราก็ขะช่วยกันผลักดันในการดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพ เราบอกเขาตลอดว่าพี่พีเคอายุเยอะกว่าโยเยอะนะ 13 ปี เพราะฉะนั้นต้องดูแลสุขภาพดีๆอยากให้มีชีวิตอยู่กันยาวๆ เพราะเราก็อยากไปท่องโลกกับเชา ไม่ได้อยากทำอะไรคนเดียว อยากทำด้วยกัน ก็ต้องช่วยกันดูแลตัวเอง”

 

ยังมีปัญหาที่ต้องปรับกันอยู่มั้ย?

 

“ก็ต้องปรับค่ะช่วงหลังๆ โยค่อนข้างจะจู้จี้จุกจิก กับเรื่องการดื่มของเขา เพราะเขาค่อนข้างจะเอ็นจอยกับการดื่ม เราก็ไม่อยากเรียกว่าควบคุม เรียกว่าต้องคอยดูแล ดื่มในปริมาณที่โอเค โอเคอาจจะเอ็นจอยกับการดื่มแต่ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย ทุกสิ่งแหละทำอะไรมากไปมันก็ไม่ดี ให้เขาดื่มในระดับพอดีๆ”

 

เขาฟังไหม

 

“ฟังไหม ก็ฟัง (หัวเราะ) แต่มีบางวันงอแงบ้าง ก็ต้องมาจูน มาตั้งสติกันใหม่ เขารู้ว่าทั้งหมดทั้งมวลที่เราพูดไปมันเพื่อสุขภาพเขา เพื่อตัวเขาเอง”

 

ดื่มที่บ้าน หรือ ไปกับเพื่อน?

 

“ทุกที่ค่ะ ดื่มที่บ้านเขาก็เอ็นจอยได้ เวลาไปเจอเพื่อนก็ดื่มอยู่แล้ว เราก็คุยกันว่าให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม”

 

มีเรื่องที่ต้องยื่นคำขาดไหม?

 

“ไม่มี ไม่ได้ๆ ยื่นคำขาดไม่ได้ ค่อยๆ ปรับคุยกันด้วยเหตุผลค่ะ เขาก็ปรับ ค่อยๆ ปรับเรื่องแบบนี้หักดิบไม่ได้ ราเข้าใจว่ามันคือความสุขของเขา”

 

แล้วเขามีขออะไรเราบ้างมั้ย?

 

“ไม่ค่อยค่ะ เราดูแลตัวเองค่อนข้างดีเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องมาปวดหัวกับเรา”

 

แพลนเรื่องลูกไม่เปลี่ยนใจ?

 

“ไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ ชัดเจนที่สุดค่ะ”

 

คนรอบข้างยังเชียร์อยู่มั้ย?

 

“ก็ถามเรื่อยๆ นะคะ ว่าไม่เปลี่ยนใจเหรอ แน่ใจเหรอ แต่เราค่อนข้างแน่ใจ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าคนเจนเราหลายๆ คู่ก็เป็นแบบคู่เราไมได้รู้สึกอยากมีลูก อย่างเพื่อสนิทก็เป็นแบบเรา ใช้ชีวิตสองคน ไปไหนก็ง่ายไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อะไรแบบนี้ค่ะ”

 

นอกจากละครเรื่องนี้โยจะมีผลงานอะไรอีก?

 

“ตอนนี้ถ่ายละครอยู่นะคะ เรื่องรากแก้ว เป็นของพี่ฉอด พี่เอส ที่มาทำกับช่อง 3 เรื่องแรก ด้วยความที่ติดโควิดก็อาจจะล่าช้านิดนึง”

 

จะได้เห็นโยในบทที่ต่างไปไหม?

 

“เดี๋ยวรอดูค่ะ ต้องพูดดังๆ เผื่อผู้ใหญ่ได้ยิน (หัวเราะ) อยากเห็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ต่างออกไป ด้วยความที่คนอาจจะติดภาพและเห็นเราในบทประมาณนี้อยู่แล้ว การเปลี่ยนหรือกระโดดออกไปให้พ้นจากตรงนี้ก็คงยากนิดนึง แต่ก็เฝ้ารอค่ะ ว่าวันนั้นมันจะมาถึง จะลองเปลี่ยนบทบาทดู”