รู้แล้ว ทำไม ? "ทนายอัจฉริยะ" ชี้ "แซน" คือเป้าหมาย "คดีแตงโม"
"ทนายอัจฉริยะ" ชี้ "แซน" คือเป้าหมาย "คดีแตงโม" บอกได้ตรวจสอบจากคลิปจากกล้องวงจรปิด ระบุได้ว่าเป็นใครบ้าง คำให้การของแซนเป็นสาระสำคัญของคดี
รายการโหนกระแสวันที่ 21 เม.ย. 65 "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" สัมภาษณ์ "ทนายอัจฉริยะ" ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หลังจากที่แถลงพร้อมเผยหลักฐานในคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" อ้างว่างานนี้อาจมีกระบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จพร้อมพุ่งเป้าไปที่ "แซน" ว่าโกหก โดยมาพร้อม "มนตรี เกตุจรัส" ผู้เชี่ยวชาญด้านแสงและเงา
เมื่อวานพี่อัจแถลงเรื่องอะไร?
อัจฉริยะ : เราได้เปิดกล้องว่าที่แซนพูดว่าแตงโมอยู่ท้ายเรือ แตงโมจับขาแซนก่อนตกน้ำ เราให้ดูภาพเงาว่าที่ปรากฏตามที่ตร.ยืนยันมาโดยตลอดว่าหลังจากลุกขึ้นแล้วตกน้ำ คือเดินไปในเรือ
ตกลงแตงโมเดินไปในเรือ?
อัจฉริยะ : ใช่ และแซนไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น แซนไม่ได้อยู่ท้ายเรือ เรามีภาพวงจรปิดการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และมีกล้องเอกชนยืนยันได้
มันทำให้เราได้เห็นอะไร?
อัจฉริยะ : ในวงจรปิด เห็นภาพเงาคนแล้วในกล้องเอกชนก็ระบุได้ว่าเป็นใครบ้าง เวลา 22.32 น.
เป็นเวลาที่ตร.ได้เปรยว่าน่าจะเป็นจุดตก?
อัจฉริยะ : ไม่ใช่ จุดตกคือ 22.34.10 เรากำลังให้เห็นว่าตามเวลาที่ตร.บอกว่าแตงโมตกน้ำ ของเราไม่ตก เท่านั้นเอง
เวลาเดียวกัน ของเขาตก ของเราไม่ตก ของเราแตงโมเดินเข้าไป?
อัจฉริยะ : ใช่ แซนก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้น
พี่มนตรีจะเปิดให้ดู?
มนตรี : เราเปิดกล้องเอกชนก่อน พิสูจน์ว่ามีใครนั่งอยู่ท้ายเรือหรือเปล่าต้องเรียนว่ากล้องมีสองตัว กล้องตัวแรก กล้องเอกชน ดูว่ามีใครนั่งท้ายเรือหรือไม่ เพื่อสอดรับกับกล้องกฟผ. ตัวต่อไปที่จะบอกว่าใครนั่งอยู่ท้ายเรือหรือไม่ ที่เราได้พิสูจน์กันแล้ว โดยการทำเป็นภาพนิ่งมาให้เห็นด้วย นี่คือเวลาที่เรือวิ่งผ่านไปแต่ละจุด
เบาะท้ายเรือไม่มี ตัวกลางทึบแสบ เบาะท้ายไม่มีเงา?
อัจฉริยะ : ไม่มีเงาคนนะครับ
มนตรี : ตัวกลางทึบแสง ทฤษฎีการดูแสงเงา ตัวกลางทึบแสงคือคนที่อยู่ตรงนั้น บังแสงอยู่ ถ้ามีคนบังแสงอยู่เราจะเห็นเป็นเงาเกิดขึ้น ในจุดนี้กล้องวงจรปิดเอกชน ไม่มีตัวกลางทึบแสงนั่งอยู่ท้ายเรือ ไม่มีคนอยู่ท้ายเรือในนาทีตรงนี้
จะบอกว่าแซนไม่ได้นั่งอยู่ท้ายเรือ?
อัจฉริยะ : แซนนั่งจริง แต่นั่งตอน 22.06 น. ที่มีกระติกเซลฟี่ แล้วจะเห็นว่าแซนนั่งอยู่ท้ายเรือ ทีนี้ที่เขามาออกรายการพี่หนุ่ม เจตนาเขาต้องการให้เห็นว่าแซนนั่งอยู่ท้ายเรือแค่นั้นเอง ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นเลย ว่าแซนนั่งท้ายเรือตลอดตั้งแต่นาทีที่ 22.06 น. จนแตงโมตกน้ำ แต่จริงๆ หลัง 22.06 น.ไปแล้ว เรามาเปิดกล้องของเอกชน 22.32.05 จนถึง 17 ไม่มีแซนเลย แซนอยู่ตรงไหนไม่รู้ แต่ในกล้องวงจรปิดของเอกชนไม่มีแซนนั่งอยู่ท้ายเรือ ตามที่เอามาโชว์กับพี่หนุ่ม
นี่วิเคราะห์จากที่มองอยู่?
มนตรี : การใช้วิธีแสงและเงาจะมีองค์ประกอบของมันอยู่ การเห็นแสงและเงา ต้องมีแสงก่อน ถึงจะมีตัวกลางของแสง ตัวกลางแสงแบ่งแย่ง 3 ประเภท โปร่งแสง โปร่งใส ซึ่งผมเรียนมา มีความชำนาญ ซึ่งทฤษฎีนี้ก็จะรู้ แต่จะเอามาใช้ตอนไหน ผมเองทำธุรกิจดูแลกล้องมากกว่า 50 กว่าตัว ต้องดูกล้องเพื่อความปลอดภัยของธุรกิจ เลยมีความชำนาญตรงนี้ด้วย ประกอบกับที่เรียนศิลปะมา พี่อัจจึงมาขอความช่วยเหลือให้มาดูจุดนี้หน่อย ถ้าเห็นแซนหรือใครนั่งท้ายเรือก็คือจบ ไม่ไปต่อ แต่พอดูแล้วเมื่อไม่มี พี่อัจก็ต้องทำงานต่อ ค้นหาต่อจากผู้ชำนาญด้านอื่นๆ ผมเป็นแค่จิ๊กซอว์ตัวแรกๆ เท่านั้น
ยืนยันว่าแซนไม่ได้นั่งท้ายเรือ?
อัจฉริยะ : ไม่ใช่ กล้องตัวนั้นเป็นกล้องการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งเป็นกล้องเดียวกับตร.เอามาออก ตอนนี้ของเรากับของตร.ตรงกันแล้ว อยู่ที่คนมอง เวลารู้กันหมดแล้ว เปิดกล้องการไฟฟ้าฝ่ายผลิตให้เห็นเลย กล้องการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเป็นกล้องความมั่นคงจะเห็นอะไรหมดเลย เห็นความเร็วว่ามีการกระชากมั้ย จะเห็นว่าไม่มีการกระชาก ที่บอกว่ามีการกระชากเรือ ทำให้แตงโมเสียหลักตกน้ำไป มันต้องเปิดในคอมพ์ถึงจะเห็นชัด
มนตรี : เดี๋ยวมาดูกัน ว่ามีเงาใครนั่งอยู่ท้ายเรือหรือไม่ นี่คือไฟท้ายเรือ จุดดำๆ คือมีคนนั่งอยู่ บังแสงอยู่ เขาเรียกตัวกลางแสง แล้วก็อะไรจะบังเสียงก็จะเกิดเงา เราต้องสเก็ตภาพมาก่อน นี่คือตัวอย่างเราวาดรูปเรือไว้ ถ้ามีการนั่งบังแสงจะมีลักษณะแบบนี้
จะบอกว่ามีแสง มีคนไปนั่งก็เห็นตัวคนบังแสงอยู่?
มนตรี : ใช่ครับ แล้วรันให้ดูเป็นเงาคนจริงมั้ย เงานี้จะตามไฟไปเรื่อยๆ มีเงาแหว่งๆ อยู่ ขยับไปเรื่อย แล้วเงาหายไป พอถอยหลังดูจะเห็นว่าเงาหายไปด้านซ้ายหรือด้านขวา เงาหายไปด้านบน เงาที่อยู่ท้ายเรือยืนขึ้น เราจะเห็นว่ามีไฟดวงด้านหลังส่องมาให้เห็นเงายืนขึ้น
ที่พี่ถามว่าเห็นคนมั้ย ตอบไม่ได้จริงๆ ยอมรับว่าเป็นเงา แต่ไม่รู้เป็นคนหรือเปล่า ประเด็นนี้พี่อัจสามารถบ่งบอกได้ว่าแซนไม่ได้นั่งท้ายเรือ?
อัจฉริยะ : แซนไม่ได้นั่งท้ายเรือ ภาพเมื่อกี้ ถ้าแซนนอนหงายแบบที่มาออกรายการพี่หนุ่ม หน้าอกเขาต้องอยู่ท้ายเรือ ถ้าแตงโมปัสสาวะท้ายเรือ หน้าต้องหันไปทางหัวเรือ ภาพเมื่อกี้ คนหันหน้าไปทางหัวเรือ จะเป็นแซนได้ไงคนลุกขึ้นก็ต้องเป็นแตงโม ถ้าแซนลุกขึ้นยืน ต้องหันหน้าไปทางซ้ายเรือถึงเอี้ยวตัวไปได้แต่นี่ไม่ใช่
พี่ว่าแซนไม่น่าอยู่ท้ายเรือตั้งแต่นาทีไหน?
มนตรี : ไม่อยู่ตั้งแต่นาทีที่เรือกระชาก 22.29 น. จาก 3.3 น็อตเป็น 10 น็อต ตอนนั้นเขาเอาไปทดสอบ ถ้าเรือกระชากถ้ามีใครนั่งท้ายเรือจะมีโอกาสตกเรือมั้ย ซึ่งถ้ามีใครนั่งท้ายเรือจริง มีโอกาสตกได้
พี่อัจกับพี่มนตรีจะบอกว่าแซนไม่น่านั่งท้ายเรือตั้งแต่ 22.29 น. เขาน่าจะลุกไปแล้ว แต่ก่อนหน้านั้น 06 อยู่จริง แต่ 29 ลุกไปแล้ว เวลาตกของพี่คือ?
อัจฉริยะ : 22.34.10
มนตรี : อันนั้นของตร.นะ ไม่ใช่ของเรา เราคิดว่ายังไม่ตก คุณแตงโมน่าจะตกประมาณ 22.34.25 ถึง 35
เมื่อวานพี่อัจแถลงข่าวไป บางตอนพูดถึงเส้นผม ว่าผมไปทราบมาได้ยังไง เอาคลิปของผมเองก่อน ตั้งแต่ 7 มี.ค.ผมเองก็ถามเรื่องเส้นผมว่าผมได้ยินมาแว่วๆ พี่อัจสงสัยว่าผมไปรู้มาได้ยังไง ดูจากของพี่สรยุทธ ซึ่งเป็นวันที่ 5 มี.ค. นี่จะยืนยันว่าทุกคนได้หมด เพราะแหล่งข่าวได้มา?
อัจฉริยะ : ขนาดตร.ยังบอกเลยว่าไม่รู้เก็บได้จริงหรือเปล่า ผมถึงถามว่าพอวันที่ 7 พี่หนุ่มบอกว่ามีซอกนี้ๆ ก็ตรงกับผมเลยที่ผมอธิบาย
แล้วพี่อัจได้จากไหน?
อัจฉริยะ : พลเมืองดีให้มา ผมกินกาแฟแก้วเดียวเขาก็ให้มาแล้ว
พี่อัจสงสัยเรื่องอะไรอีก?
อัจฉริยะ : พี่อู๊ด เขาเชี่ยวชาญด้านจีพีเอส อยากรู้ว่าเอสดีการ์ดเขาปริ้นท์เป็นกระดาษเลยมั้ย ถ้าปริ้นท์เป็นกระดาษมันจะบอกเลยว่ามีการปกปิดอยู่กี่นาที
มนตรี : ประมาณ 3 นาทีกว่าๆ ใบจะจบที่ 22.31 ช่วง 3 นาทีที่หายไปน่าจะเป็นช่วงสำคัญ แล้วเรามาเจอตรงนาทีที่กล้องกฟผ.
"พี่อู๊ด กิตติภัฎ ธนาสนธิราช" ผู้เชี่ยวชาญด้านเรืออยู่ในสาย พี่อัจมีข้อสงสัย ว่าพี่เป็นเจ้าหน้าที่การ์มินหรือเปล่า?
อู๊ด : ขอเรียนว่าการ์มินคือเพื่อนผม ผมเป็นเจ้าของบริษัทพัทยา วอเตอร์ สปอร์ต คลับ ซึ่งเป็นบริษัทที่แล่นเรือทั่วประเทศ ข้ามอ่าว หรือไปโน่นไปนี่ จากสิงคโปร์มานี่ ซึ่งจีพีเอสพวกนี้ผมใช้กันเป็นปกติอยู่แล้ว
สิ่งที่พี่อัจสงสัยคืออะไร?
อัจฉริยะ : เวลาพี่อู๊ดปริ้นท์กระดาษมา พี่อู๊ดปริ้นจากเอสดีการ์ดมั้ย
อู๊ด : ไม่ครับ จริงๆ ตอนที่ทำแผน ถ้าในเวลา 5-6 ชั่วโมง กระดาษจะหนา 1 นิ้ว ที่เอาออกไปแค่ส่วนหนึ่ง แค่เสี้ยววินาที เพื่อ ไปตอบกับสื่อ ซึ่งต้องขอบพระคุณคุณหนุ่มมาก ซึ่งสื่อแตกเสียงว่ามันไม่มีหลักของวิทยาศาสตร์ ผมจึงยินดีออกรายการ แล้วก็บอกให้ว่ามีการทำจีพีเอส มีการทำไทม์ไลน์ต่างๆ ประกอบควบคู่กับคดีครับ
อัจฉริยะ : ถ้าพี่อู๊ดไม่ได้เอาจากเอสดีการ์ดออกมา ตัวกระดาษมันปริ้นท์ยังไง
อู๊ด : ก็อย่างที่ผมเรียน ว่ามันเป็นแค่ช่วงเวลา ที่เห็นแค่ 2 แผ่น จริงๆ ไทม์ไลน์ทั้งหมดมันหนา
อัจฉริยะ : พอไม่ได้ออกจากเอสดีการ์ด ตัวในกระดาษเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้มั้ย
อู๊ด : ไม่มีทางครับ เป็นเรื่องการ์มินโลกเลย จีพีเอสนี้การ์มินเขาทำทั่วโลก ซึ่งผมก็ไม่กล้าขนาดนั้นครับ
อัจฉริยะ : เนื่องจากอยู่ในสำนวน พี่ไปเป็นพยาน ถูกมั้ย
อู๊ด : ครับ
อัจฉริยะ : ซึ่งผมก็ทราบดีว่าจีพีเอสมีกล้องตรวจจับความร้อน
อู๊ด : จีพีเอสรุ่นนี้ไม่มีกล้องจับความร้อนครับ ซึ่งผมสับสนนิดนึง เนื่องจากท่านออกยูทูปไป แล้วเรียกผมไอ้เลย (หัวเราะ)
พี่อัจก็ไม่ได้เบาเลย?
อู๊ด : ขอเรียกพี่อัจ เพราะคนเรียกไอ้ ส่วนมากผมจะเป็นน้อง
อัจฉริยะ : ผมเห็นสเปกจีพีเอสรุ่นนี้ มีกล้องจับความร้อน
อู๊ด : ไม่มีครับ กล้องจับความร้อนคือเฟอร์ ซึ่งบริษัทการ์มินก็มอบมาให้แล้ว ก็ได้ไปช่วยกู้ภัยจากเคสของน้องผมไปช่วยกู้ภัยที่คลองบางพลี และหาศพน้องเจออีกเคส
อัจฉริยะ : ผมมีหลักฐานชิ้นนึง อยากให้พี่อู๊ดช่วยผมหน่อย ผมจะเจอพี่ได้ไง อยากเอาหลักฐานให้พี่ดู มันสามารถบอกได้เลยว่าน้องแตงโมตกท้ายเรือหรือหัวเรือ
อู๊ด : ได้เลย ผมเป็นครูสอนวอเตอร์สปอร์ตทุกอย่าง
อัจฉริยะ : ผมอยากได้ผู้เชี่ยวชาญอย่างพี่ มีอะไรอยากให้ดู พอได้มั้ย อันนี้ไม่เกี่ยวกับสำนวน
พี่อัจมีหลักฐานบางอย่างที่แกได้มา แกอยากเอาหลักฐานชิ้นนี้ให้พี่ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเรือว่ามีโอกาสเป็นไปได้มั้ย ไม่ได้ให้ชี้ชัดนะ ได้มั้ย?
อู๊ด : ยินดีครับ
เดี๋ยวประสานให้เจอกันนะ พี่สงสัยอะไรอีกมั้ย?
อัจฉริยะ : ผมเห็นวันนั้นพี่ตอบพี่หนุ่ม ถ้าตกทางด้านซ้าย เรือจะต้องผลักน้องแตงโม ไม่มีทางดูดเข้าได้เลยในท้ายเรือ
อู๊ด : ถ้าท้ายเรือวิ่งอยู่น้ำจะแข็ง นั่นเป็นหลักการคนเล่นเวคเซิร์ฟครับ
อัจฉริยะ : ผมมีหลักฐานสำคัญมากๆ อยากให้พี่ช่วยผมหน่อย จะชี้ชัดได้เลยว่าคดีน้องแตงโมเป็นยังไง
สิ่งที่ออกมาวันนี้ และพยายามนำเสนอในมุมพี่อัจทำให้เราดูกัน เป้าคืออะไร?
อัจฉริยะ : ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่แตงโมพูดไม่เป็นความจริง น้องแตงโมก็ไม่ได้มีการจับขาแซน แล้วน้องแตงโมจะตกท้ายเรือได้ไง แซนอาจโกหก พวกผมเชื่อว่าตกท้ายเรือไม่ได้เพราะบาดแผลที่ขาขวาด้านใน ไม่เข้ากับใบพัดเรือ
นี่คือข้อสันนิษฐานของพี่?
อัจฉริยะ : ไม่ ผมมีทั้งหมอนิติเวช ผู้เชี่ยวชาญ เราคุยกันมาหมดแล้ว
สมมติตร.สรุปทุกอย่างแล้ว นิติเวชตรวจสองที่ ออกมาเหมือนกัน ของพี่มาบอกแบบนี้จะไม่เป็นประเด็นขัดแย้งกันเหรอ?
อัจฉริยะ : คือวันนี้ตร. เวลาไปสอบถามหมอ เขาจะถามว่าเกิดโดยใบพัดเรือได้มั้ย ส่วนมากนิติเวชจะบอกว่าถูกของมีคม ไม่ระบุวัสดุอะไรเลย แต่ตร.ไปถามนำเลย ซึ่งเขาก็ตอบว่าอาจจะ ถ้าไปชี้ฟันธงปั๊บ มีหมอคนนึงเคยถูกร้อง แต่ก็ไม่ได้ยืนยันชัดเจนว่าตรงกับใบพัดเรือ เวลาขึ้นศาลเขาก็จะถามว่าคุณหมออยู่ที่เรือเหรอ ถึงได้เห็น
ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างตร.แถลงไปวันที่ 26 แล้วไม่ตรงกับพี่อัจ ทางแซนเขาอาจฟ้องคุณ?
อัจฉริยะ : ไม่เป็นไร ผมยินดี ผมรับผิดชอบตัวเองอยู่แล้ว ผมไม่ซีเรียสเลยกับคุณแซน สิ่งที่ผมกำลังพิสูจน์ ถ้าคุณแซนถูกพิสูจน์ได้ว่าให้การเท็จ คุณแซนก็ไม่ถูกข้อหาประมาท ถูกมั้ย เพราะคดีประมาทไม่ได้เกิดขึ้นจริง ประมาทโทษ 10 ปี ตร.ก็ต้องปวดหัวหน่อยว่าถ้าแตงโมไม่ตกท้ายเรือ แล้วเขาจะตกที่ไหน ก็เป็นหน้าที่ตร.ต้องไปสอบสวนต่อว่าใครทำให้แตงโมตก ตกจุดไหน อัยการอาจสั่งให้สอบเพิ่มเติมก็ได้
พี่มองว่าเรื่องนี้อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม?
อัจฉริยะ : ตอนแรกก็เชื่ออุบัติเหตุ มั่นใจว่าเป็นอุบัติเหตุแน่ ไม่มีเจตนาไปฆ่าบนเรือหรอก แต่พอเราไปนั่งศึกษา เก็บข้อมูลเรื่อยๆ ตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้ว แต่ยังพูดไม่ได้เต็มปาก ผมถึงบอกว่าอยากได้คนนึงที่เชี่ยวชาญตรงนี้ อยากให้เขาดูของผมชิ้นนี้ เขาจะตอบได้เลยว่าใช่หรือไม่ใช่
พี่อัจพุ่งเป้าไปที่คนเดียวเลยคือแซน จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องอะไรกับสำนวนคดีที่เขากำลังทำกันอยู่?
อัจฉริยะ : ไม่เกี่ยวเลย เพราะผมคุยกับทางตร.ภาค 1 แล้ว เขาก็ยืนยันแล้วว่าแยกเป็นคนละสำนวน คดีแตงโมผมก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีหลักของเขา แต่ผมกำลังพิสูจน์ว่าสิ่งที่แซนพูดไม่เป็นความจริง ถ้าเขาพูดไม่เป็นความจริง ก็เป็นความผิดเรื่องให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน ในคดีประมาทแซนก็พ้นเลยเมื่อไม่มีการจับขา แซนก็ไม่ได้ประมาท แซนก็โดนข้อหาให้การเท็จ ซึ่งเป็นสาระสำคัญของคดี ดังนั้นสิ่งที่ผมทำผมไปทำร้ายใคร ถ้าไม่ตกท้ายเรือจริง ตร.มีหน้าที่ไปสืบสวน สอบสวนว่าแล้วแตงโมตกที่ไหนแน่ และมีคนทำให้ตกเรือจริงหรือไม่ ตรงนี้เป็นหน้าที่ตร. ไม่ใช่หน้าที่ผม แต่ผมให้การบ้านน้องเขาไปคือดูสิแซนอยู่ท้ายเรือมั้ย มีภาพมั้ยแตงโมอยู่ท้ายเรือจับขาแซน ซึ่งก็ไม่มี เวลาที่เราได้มากับเวลาตร.ตรงกัน ก็ดูเหมือนกัน ใช้เทคนิคเหมือนกันหมด โปรแกรมก็เหมือนกัน กล้องก็ตัวเดียวกัน แล้วจะดูผิดกันขนาดนั้นได้ยังไง ถ้ามีผมถึงบอกว่าให้ 2 แสน ถ้าเห็นแตงโมจับขาแซน ผมจ่ายเงินสดให้ 2 แสนเลย ให้เป็นรางวัล มันจะได้สิ้นสงสัย แต่นี่มันไม่มี ผลดูเป็นร้อยรอบ ดู 10-15 วัน มันก็ไม่มี
พอมีเรื่องการ์มินไปเกี่ยวกับจีพีเอส เห็นว่าการ์มินรู้สึกไม่ดีเหรอ?
อู๊ด : ใช่ครับ จากคุณอัจออกไป ซึ่งจริงๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องน้องแตงโมมา ผมไปวิทยากร ไปอบรมเรื่องความปลอดภัยทางน้ำ ไปช่วยกู้ภัยของบางกอกน้อย ล่าสุดไปช่วยหาผู้ประสบภัยที่คลองบางพลี ซึ่งบริษัทการ์มินก็เริ่มถอยแล้ว เขามอบเรือให้หนึ่งลำเพื่อสแกนเรื่องพวกนี้ช่วยให้เร็วขึ้น แต่พอคุณอัจมาบอกว่าผมไปแต่งจีพีเอส ผมโดนผลกระทบ อยากให้ประชาชนตัดสินนิดนึง จริงๆ หน่วยงานพวกนี้เป็นเอกชน ซึ่งเป็นจิตอาสาจริงๆ ไม่ได้รับเงินจากใครเลย เขาส่งไลค์สโคปตัวใหม่ ซึ่งยังไม่ขายในโลกนี้เลยนะ ส่งมาให้ทดสอบ บริษัทการ์มินของต่างประเทศ
ไลค์สโคป คืออะไร?
อู๊ด : ตัวสแกนหาสิ่งแปลกปลอมใต้น้ำ ซึ่งตรงนี้พอคลิปคุณอัจออกเนี่ย บริษัทการ์มินโทรมาหาผมว่ายูต้องไปอิงกับตรงโน้นตรงนี้ เหมือนผมเป็นคนผิด จริงๆ คุณอัจชอบพูดว่าทำเพื่อประชาชน แต่มีกลุ่มนึงที่ทำเพื่อไม่ได้ต้องการออกสื่อหรืออะไรทั้งสิ้น ล่าสุดผมมีภาพที่ส่งให้ทีมคุณหนุ่ม ผมไปช่วยกู้ภัยที่คลองบางพลี ทุกอย่างไม่ได้เรียกเงินจากใคร เป็นบริษัทเอกชน ผมอยากทราบว่าคุณอัจไปออกรายการแบบนี้ ถ้ามีผลกระทบกับผม ไม่ทราบว่าคุณอัจจะช่วยยังไง
อัจฉริยะ : ก่อนอื่นผมก็ขอโทษพี่ด้วย ถ้าทำให้พี่เสียหาย แต่ข้อมูลที่เราได้รับมา คือเอสดีการ์ดถ้าไม่ได้เอามาจากเอสดีการ์ด มันสามารถแก้ไขตัวเลขได้
อู๊ด : พวกผมช่วยเหลือกันตลอด แต่ไม่ได้ออกสื่ออะไร แต่พอคุณอัจออกปุ๊บ ภาคเอกชนที่ช่วยเหลือพยายามถอนตัวออก คุณอัจจะบอกยังไง ผมก็เสียหน้าไปเยอะเหมือนกัน คดีนี้ต่างประเทศก็ให้ความสนใจมากนะ
มนตรี : วันนั้นทีมงานเห็นว่าพี่เอาข้อมูลจีพีเอสมาออก มันหายไป 3 นาที ที่มี 2 หน้ากระดาษ
เขาให้มาหมด แต่บางอันไม่ได้ออกไป เพราะเวลาจำกัด?
มนตรี : งั้นก็โอเคครับ เรามาช่วยกัน ถ้าพี่อู๊ดตอบรับพี่อัจ น่าจะช่วยคลี่คลายคดีนี้ได้
อู๊ด : อยากให้พี่อัจตอบประเด็นนี้ก่อน ประเด็นที่ว่าบริษัทต่างๆ ที่ผมไปขอความช่วยเหลือ ซึ่งเสริมกับหน่วยงานราชการเ ริ่มไม่ตอบรับผมแล้ว เนื่องจากผมเป็นคนไม่ดีว่ะ ไปช่วยคนผิด พี่อัจช่วยตอบประชาชนหน่อย
อัจฉริยะ : ตอนแรก เขาแจ้งว่าพี่เป็นตัวแทนบริษัทการ์มิน
อู๊ด : พี่บอกว่ามีเพื่อนเป็นตร.เยอะ ผมก็มีหลักฐาน
อัจฉริยะ : เขาบอกพี่เป็นตัวแทนบริษัทการ์มิน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอสให้ตร.ภูธรภาค 1 ในคดีน้องแตงโม ผมก็ถามว่าข้อมูลเวลาถ่ายมาจะเชื่อถือได้มั้ย จากผู้เชี่ยวชาญของเราเหมือนกัน เขาบอกว่าถ้าไม่ใช่เอสดีการ์ด พอปริ้นท์เป็นกระดาษมันแก้ไขได้มั้ย ผมถามทางเจ้าหน้าที่ว่าถ้าไม่ได้ถ่ายจากเอสดีการ์ด มันแก้ไขตัวเลขได้มั้ย เขาบอกว่าถ้าไม่ได้เอามือถือถ่าวยจากซอร์ฟแวร์เอสดีการ์ด มันสามารถแก้ไขตัวเลขได้ สิ่งที่เราอยากเห็น คือเอามือถือถ่ายจากเอสดีการ์ดเลย แล้วเอามาเทียบกับกระดาษที่พี่ปริ้นท์มา จะได้เห็นชัดเจนว่ากระชากหรือไม่กระชาก
อู๊ด : เอาเป็นว่าตอนนี้ผมทำเพื่อประโยชน์สังคม และสาธารณประโยชน์ มีหน่วยงานภาคเอกชนเขาส่งอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ คุณอัจออกรายการอย่างนั้น คุณอัจจะแก้ตัวยังไง ผมซึ่งมีโครงการกู้ภัย มีบริษัทจะทำเรือมาให้ ซึ่งผมไปคุยมาเยอะมาก คุณอัจจะแก้ตัวยังไง
อัจฉริยะ : เดี๋ยวเราเจอกันก็ได้พี่
เสนอความคิดเห็น ตอนนี้ยังนอกเรื่องคดีแตงโม เดี๋ยวผมจะประสานให้ทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน พี่ก็นำเสนอในมุมพี่ให้พี่อัจฟัง พี่อัจก็นำเสนอมุมพี่อัจให้พี่ฟัง แล้วไลฟ์ด้วยกัน ถ้าผิดจริงพี่อัจเขาพร้อมขอโทษ โอเคมั้ย?
อู๊ด : จริงๆ เราคนละแนวทาง ผมเก่งเชี่ยวชาญเรื่องเรือ การทำโน่นนี่ ผมพยายามทำประโยชน์ของสังคมอีกทาง พี่อัจเก่งเชี่ยวชาญทางนั้น แต่พี่อัจต้องนิดนึง พี่อัจเป็นผู้ใหญ่แล้วกล้าเรียกผมว่าไอ้ พี่อัจต้องพยายามพูดคิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมบ้าง พี่อัจอ้างว่ารู้จักตร. รู้จักคนโน้นคนนี้ พี่อัจกรุณาไปสอบถามว่าตั้งแต่เกิดเรื่องน้องแตงโมผมไปเป็นวิทยากร ทุกคนไม่ว่างเลย ทำงานฟรีหมด พยายามเอาเทคโนโลยีต่างๆ ไปช่วยเหลืองานรัฐ พี่อัจกรุณาเนื่องจากพี่อัจกว้างขวางมาก กรุณาให้ทีมงานพี่อัจไปสอบถามว่าผมทำอะไรบ้าง และสอบถามบ้างว่าผมไม่ใช่พนักงานการ์มิน
แกก็น้อยเนื้อต่ำใจ?
อัจฉริยะ : แกมีชื่อเป็นพยาน ในนามบริษัทการ์มิน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอส ถ้าไม่มีชื่อบริษัทการ์มิน ผมไม่แตะหรอก
อธิบายให้ฟังก่อน วันนั้นที่จะทำรายการ ต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอสมาออก ก็ให้ทีมงานติดต่อไป ปรากฎว่าเจอคุณอาร์ต เป็นผู้บริหารการ์มิน เป็นคนลงเรือไปแล้วเทียบสัญญาณจีพีเอสต่างๆ นานา แต่คุณอาร์ตไม่ได้ช่ำชองเรื่องเรือ ตร.ก็ให้คุณอู๊ดลงไปด้วยเพื่อประกบ คุณอู๊ดรู้จักกับคุณอาร์ตอยู่แล้ว วันที่เชิญคุณอาร์ตมา คุณอาร์ตบอกว่าอย่าเลย เป็นเรื่องบริษัท เดี๋ยวจะเป็นการโฆษณา มันไม่ถูกต้อง ผมก็เลยเบนเข็มไปเอาคุณอู๊ด ซึ่งคุณอู๊ดก็ขออนุญาตคุณอาร์ตอีกทีว่าไปได้มั้ย และขอข้อมูลบางส่วนมาให้ผมดู แกถึงมานั่งในรายการกับข้อมูลบางส่วน แต่แกไม่ได้เป็นผู้บริหารการ์มิน?
อัจฉริยะ :ต้องบอกก่อน เราก็ถามเขาว่าทำไมคนเอาข้อมูลมาเปิดเผยในรายการพี่หนุ่มได้ ซึ่งมันเป็นความลับในสำนวน คุณบอกกระชาก 3.3-10 พอออกปุ๊บก็ทำให้เห็นว่า อ้าว 3.3-10 ไม่ใช่ช่วงที่เรือกระชากแตงโมตกน้ำนี่ สิ่งที่ตร.พูดแถลงมาตลอดว่าโรเบิร์ตขับเรือไม่เป็น ทำให้ขับเรือกระชาก แตงโมตกน้ำ พอมาฟังพี่อู๊ดมันไม่ใช่นี่หว่า ตร.มั่วหรือเปล่า มันไม่ได้กระชากตอนแตงโมปัสสาวะแล้วเสียหลักตกน้ำ แล้วพอไปดูกล้อง เรือมันสมูทตลอด ไม่มีการกระชากเลย ถ้ากระชากแล้วแตงโมเสียหลักตกน้ำก็ไม่เป็นความจริง แล้วพี่อู๊ดไปเป็นพยานในฐานะผู้เชี่ยวชาญบริษัทการ์มิน อย่างนี้ทำไมถึงไม่เที่ยงแล้วอย่างนี้จะตรงได้ไง ไม่เอามาจากเอสดีการ์ด มันก็แก้ไขได้สิ นี่คือข้อสังเกต ไม่ได้บอกว่าบริษัทการ์มินแก้นะ ซึ่งถ้าผมผิด เดี๋ยวผมก็ขอโทษเขาเอง
สุดท้ายถ้าข้อเท็จจริง ตร.บอกว่าไม่ใช่ สิ่งที่เขามีอาจมากกว่าเรา 10-20 เท่า กลัวมั้ย?
อัจฉริยะ : ผมไม่กลัว ผมทำคดีมา ประสบการณ์ 10 ปี พี่อุ้ยก็รู้จักกันอยู่แล้ว ก็เป็นคนดีแหละ ตลอดเวลาที่รู้จักกัน ก็แล้วแต่มุมมองเลย กล้องตัวเดียวกัน แล้วแต่คนมอง ขนาดพี่หนุ่มยังดูไม่ออกเลย ผมก็ดูไม่ออก แต่หลังจากที่มนตรีทำให้ดู คนที่ดูตรงนี้เป็นก็บอกว่าจริง
ตร.เรียกเข้าไปมั้ย?
อัจฉริยะ : เขานัดแล้ว จะเอาหลักฐานไปให้ดู
จะขึ้นศาลด้วยมั้ย?
อัจฉริยะ : มันคนละคดี ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าแซนให้การเท็จจริง ตร.ก็สั่งไม่ฟ้องคดีประมาท คดีก็ต้องมีการสอบใหม่ ว่าแตงโมตกตรงไหนแน่ ใครทำให้แตงโมตก ประเด็นที่ผมพูด ทำไมต้องเป้าเป็นแซน เพราะทุกคนบนเรือ โยนให้แซนคนเดียว ถ้าพิสูจน์ได้ เท็จแรกคือจากกล้องวงจรปิด แตงโมไม่ได้ตกจากท้ายเรือแน่นอน
มนตรีเป็นผู้เชี่ยวชาญ?
อัจฉริยะ : ตร.ก็ใช้บริการเขาอยู่ เรื่องเชี่ยวชาญแล้วแต่คน อย่างพี่หนุ่มเชี่ยวชาญเป็นพิธีกร อันนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประสบการณ์ ที่คนยอมรับ สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้ ส่วนศาลจะรับฟังหรือไม่ ไม่จำเป็น ศาลดูจากพยานหลักฐาน เขาเป็นพยานคนกลาง ไม่ได้อยู่ที่ใบเซอร์ฟิเคส
เมื่อวานดูที่พี่ไลฟ์ มีเหตุนึงเกิดขึ้น เรื่องที่พี่อาจพูดกับนักข่าว นักข่าวเขาน้อยใจ?
อัจฉริยะ : ผมบอกว่ารับงานใครมาหรือเปล่า เมื่อคืนก็ขอโทษน้องช่อง 8 ไปแล้ว ไม่มีเจตนาดูหมิ่นหรือดูถูก แต่เขาถามเรื่องส่วนตัวของเดชา ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับคดีที่ผมกำลังแถลง ถ้าอยากคุยอะไรเกี่ยวกับเดชาก็ให้ผมแถลงให้เสร็จก่อน เวลาเรากำลังชี้แจงให้คนทั้งประเทศดู เรากำลังชี้แจงคดีแซน แต่คุณจะถามเรื่องเดชาผมว่ามันไม่ถูก ผมไม่มีการดูหมิ่นดูถูกนักข่าว แต่ถ้าใช้คำพูดที่แรงไปก็กราบขอโทษด้วย ไม่มีเจตนาจริงๆ คำถามที่คุณถามผม คุณต้องดูว่าขณะนั้นผมทำอะไรอยู่ ที่เขาถามผมอีกประเด็นว่าหลักฐานทำไมไม่ชัด มีอย่างอื่นอีกมั้ย อยากบอกว่าที่เมื่อวานเราต้องเพิ่มให้เพราะมนตรียังทำไม่เสร็จ เป้าหมายผมเมื่อวานต้องการให้เห็นว่าการเก็บเส้นผมของตร. มีข้อพิรุธน่าสงสัยว่าวัตถุพยานเหล่านี้น่าเชื่อถือได้มั้ย มาเจอวันที่ 4 ตร.รู้ได้ไงว่ามีเส้นผม ถึงมาเก็บ แก้วไวน์มาเจอวันที่ 5 มันเป็นวัตถุพยานที่ไม่น่าเชื่อถือไง ไม่ได้ดูถูกตร.นะ
พี่บอกว่าฟ้าจะผ่า แต่สุดท้ายไม่ผ่า?
อัจฉริยะ : การเปิดข้อมูลเก็บเส้นผม 3 เส้น คือวัตถุพยานที่ไม่น่าเชื่อถือ แล้วคุณไปเก็บเลือดในเรือ ขนาดเส้นผมมองเห็นด้วยตา คุณยังไม่เห็นเลย คุณจะไปเก็บเลือดในเรือจะน่าเชื่อถือมั้ย ถามหน่อย เพราะสิ่งที่คุณทำ ทำให้คนไม่มั่นใจแล้วว่าน่าเชื่อถือมั้ย ขนาดผมมองด้วยตา วันที่ 28 ยืนตรงนี้เลยนะ แต่บอกว่าไม่เห็น แต่พอวันที่ 1 บอกเจอเส้นผม 3 เส้น แล้วทำไมต้องเจอของแตงโมคนเดียว
ยังขาดอีก 2 ชิ้น ยังต่อจิ๊กซอว์อยู่?
อัจฉริยะ : ผมอยากให้พี่อู๊ดช่วยดูตรงนี้ให้หน่อย ถ้ามีประสบการณ์เรื่องเรือเขาน่าจะตอบผมได้ทุกอย่างที่ทำเราทำมาเป็นเดือน เรานั่งดูเขามาออกรายการพี่หนุ่ม จะจับขาได้ไงวะ ยังจำลองท่าพี่หนุ่ม มันเอื้อมไม่ถึง จะจับขายังไง บางครั้งอย่าถือสาผม ผมพูดภาษาชาวบ้าน
เดี๋ยวจะมีคนออกมาสวน?
อัจฉริยะ : ผมไม่ได้ซีเรียส ผมไม่ได้ทำเอง ผมมีผู้เชี่ยวชาญทำด้านภาพและแสง คอมพิวเตอร์กราฟฟิก ทุกคนมาช่วยกันทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ว่าจะออกหน้าหรือไม่แค่นั้นเอง