หลังจากที่หายป่วย จากอาการโควิด ก็เดินหน้าทำงานต่อทันที ทำให้ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้ถามถึงข่าวลือ ว่าเตรียมเป็นอิสระจากต้นสังกัดเดิมแล้ว
ซึ่งผู้สื่อข่าว มีโอกาสได้พูดคุยกับนักร้องสาว "ใบเตย อาร์สยาม" เรื่องงานต่างๆ ที่กำลังเข้ามา รวมไปถึงสัญญาที่กำลังจะหมดในเดือนมิถุนายนนี้ ว่ามีการวางแผนอย่างไร อะไรบ้าง เพราะในวันนี้เอง ก็ได้มีการบวงสรวงละครฟอร์มใหญ่ของสองนักร้องตัวแม่จากวงการเพลงลูกทุ่งที่ไม่เคยเห็นจากละครเรื่องไหนมาก่อน บัลลังก์ลูกทุ่ง นับเป็นการร่วมมือกันครั้งแรกของสองค่ายยักษ์ใหญ่แห่งวงการ เพลงไทย มาประชันกันระหว่าง ใบเตย อาร์สยาม และ เปาวลี พรพิมล
ซึ่ง ใบเตยเผยว่า “เรื่องนี้ต้องขอบคุณทางค่ายกับทางเวิร์คพ้อยท์มากๆ ค่ะ คือมันเป็นเรื่องที่ยากและใช้ระยะเวลาเป็นปีเลยด้วยสำหรับการคุยกันของทางผู้ใหญ่กว่าจะได้ข้อสรุปที่ลงตัว ทั้งเรื่องของเพลง เรื่องลิขสิทธิ์ของแต่ละค่าย รวมถึงเรื่องที่จะแลกเปลี่ยนกัน คือเขาก็สู้รบปรบมือกันมาพอสมควรกว่าจะมีวันนี้ ซึ่งใบเตยรับรู้รับทราบมาตลอด ก็ดีใจมากค่ะ” ซึ่งเป็นงานนอกค่ายชิ้นแรก
บอกอีกว่า “เป็นสัญญาณดีอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าอีกไม่กี่เดือนก็หมดสัญญาแล้ว”
งานนี้ ใบเตยบอกว่า หลังจากหมดสัยญา ในเดือนมิถุนายน ก็ตัดสินใจเป็นอิสระเต็มตัว และวางแผนว่า ซื้อลิขสิทธิ์เพลงของตัวเองทั้งหมด ซึ่งคุยกับทางค่ายเป็นที่เรียบร้อย และยังบอกด้วยว่าหลังจากกลางปีนี้เป็นต้นไป จะได้เห็นใบเตย “หลากหลายค่ะ สุดขั้ว และก็เริ่มมีโปรเจกต์ติดต่อมาบ้างแล้วด้วยเหมือนกัน”
แต่ก็แอบใจหาย “สำหรับใบเตย ใบเตยไม่ได้มองว่ามันเป็นการจากลาเลยนะ เพราะว่ากับทางค่ายใบเตยเองก็ยังมีชิ้นงานอีกหลายชิ้นที่ค้างคา เรายังร่วมงานกันตลอด” และยังไม่คิดเปลี่ยนชื่อ “ไม่อ่ะ เหมือนเดิม ยังใช้อาร์สยาม ใช้ได้ค่ะ ใช้ได้ ซื้อมาหมดแล้ว ซื้อลิขสิทธิ์เฮียมาหมดแล้ว (หัวเราะ) เอาจริงๆ นะต่อให้ไม่ใช้หรือต่อให้เปลี่ยน ยังไงคนก็ยังคงเรียกใบเตยแบบนั้น เพราะมันคือสิ่งที่ลืมไม่ได้ และตัวใบเตยเองก็ไม่ได้ซีเรียสเลยด้วย”
ส่วนแพลนการทำงานในวงการบันเทิง ใบเตยบอกว่า “โห… ให้ดวงพาไปเลยค่ะ แต่เอาจริงๆ นะ ใบเตยไม่ได้มายด์เลยว่าจะไปทางไหน เนื่องจากใบเตยแฮปปี้กับการเป็นแม่ แฮปปี้กับการมีครอบครัว แฮปปี้การทำธุรกิจ ส่วนงานในวงการบันเทิง ใบเตยก็จะมองว่ามันเป็นสิ่งที่ใบเตยรัก เวลาที่ใบเตยได้ทำใบเตยรู้สึกมีความสุข”
“ใจหาย เพราะใบเตยไม่เคยเป็นฟรีแลนซ์มาก่อน ตั้งแต่ก้าวขามาอยู่กรุงเทพฯ ใบเตยก็มีที่นี่ดูแลมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างรู้สึกกังวลเหมือนกันว่าใบเตยจะสามารถดูแลตัวเองได้ดีกว่าที่ค่ายเขาดูแลใบเตยไหม ถึงแม้ใบเตยจะร้องเพลงได้ก็จริง แต่ใบเตยก็ไม่ใช่คนที่ออกแบบท่าเต้นได้เอง แต่งเพลงได้เอง หรือเล่นดนตรีได้เอง ที่ผ่านมาใบเตยทำงานผ่านทางค่าย โดยเป็นสิ่งที่ค่ายมอบหมายให้ ใบเตยไม่เคยทำอะไรเองเลยนอกจากร้องเพลง เพราะฉะนั้นใบเตยก็เลยกังวลเหมือนกันว่าถ้าออกไปแล้วการทำงานมันจะยังคงเส้นคงวาเหมือนกับที่อยู่กับที่นี่ไหม ใบเตยกังวลแค่ตรงนี้เลยค่ะ”
แสดงว่าในอนาคตเรื่องการทำงานเพลง เราก็อาจจะต้องจัดการเองทุกอย่าง
“อันนี้ใบเตยรู้สึกว่า มันก็มีที่ใบเตยอยากคอลแลปส์กับใครด้วยเหมือนกัน ซึ่งใบเตยก็เลือกไว้ประมาณหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ไปเซ็นต์กับที่อื่นเลยนั้น ใบเตยมองว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในปีนี้ใบเตยก็คงมีโอกาสได้ไปคอลแลปส์กับที่นั่นที่นี่ รวมถึงศิลปินน้องๆ เก่าๆ ที่เคยร่วมงานกันมาค่ะ”
จะมีโอกาสไหมที่เราจะไปร่วมงานกับค่ายเก่า
“สบายค่ะ ยังมีงานที่ค้างคากันไว้ และก็มีเพลงด้วย เป็นเพลงสุดท้าย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง