"ครูปุ้ม" เผย "ครูชลธี" พ้ออยากตายหลังถูกเด็กสาวหลอกหมดตัวเกือบ 10 ล้าน

โดยตอนนั้น "ครูปุ้ม" ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจว่า ยังรัก "ชลธี ธารทอง" เหมือนเดิมแต่ไม่ใช่ในฐานะสามีภรรยา และยังหวังดีเหมือนเดิม พร้อมยันไม่เคยทำร้ายร่างกาย "ครูชลธี" แต่ยอมรับมีทะเลาะกันตั้งแต่มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา ซึ่งอีกฝ่ายต่างหากที่ทำร้ายตนรุนแรงถึงขั้นรับไม่ได้ สาเหตุก็มาจากเรื่องผู้หญิง ทั้งนี้ยังบอกอีกว่าในอดีต ครูชลธี เป็นคนดี เป็นคนน่ารักจนมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาเมื่อปี 2560 พฤติกรรมของ ครูชลธี ก็เปลี่ยนไป  ส่วนที่ผู้หญิงคนดังกล่าวบอกเป็นแค่ครู-ลูกศิษย์ไม่ใช่เชิงชู้สาวนั้น ครูปุ้มบอกให้ไปดูความสัมพันธ์เองในเฟซบุ๊ก เชื่อทั้งคู่มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง เพราะมีหลักฐานทั้งไลน์ทั้งภาพ ทั้งบุคคล ข้อมูลหลักฐานทั้งหมดจะปรากฏในศาล 

โดย "ครูชลธี" ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอหย่าขาดกับ "ครูปุ้ม" แต่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งยกฟ้อง ขณะที่ "ครูปุ้ม" เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "เกด สกุลนัฐธิดา แจ้งประสงค์" วัย 29 ปี เลขาและสาวคนสนิทของครูชลธีในคดีแพ่ง ความผิดฐานทำให้ครอบครัวแตกแยก โดยเรียกร้องค่าทดแทนเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท และศาลก็ตัดสินให้ครูปุ้มชนะคดี โดยให้คู่กรณีชดใช้เงินจำนวนเงิน 3 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี

ล่าสุด นับว่าเป็นเรื่องราวที่น่ายินดี เมื่อ ครูปุ้ม ภรรยาของ ครูชลธี ออกมาประกาศข่าวดีผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าสามีกลับมาคืนดีแล้ว หลังจากที่เคยมีปัญหาครอบครัวยืดเยื้อมานาน  โดยตอนนี้ครูชลสบายดีและมีความสุขที่ได้กลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัว วันนี้ (5 เมษายน 2565) ทีมข่าวคมชัดลึกบันเทิงออนไลน์ จึงได้ต่อสายตรงไปพูดคุยกับ ครูปุ้ม ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าตัวก็เผยว่า "ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เพราะครูชล เดินหน้าทุกเรื่องไปไกลแล้ว เลยคิดว่าเขาคงจะไม่กลับมา แต่เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565  ครูชลโทรมาหาตน แล้วก็บอกว่าจะกลับบ้าน ตนก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็เล่าให้ฟังทุกอย่างเรียกว่าหนักมากๆที่เขาเจอมา 4 ปี  แต่บางเรื่องพูดออกสื่อไม่ได้ โดยที่แน่ๆเลยคือ เขาหมดตัว เงินติดบัญชีหลักล้าน รถเบนซ์ (ราคา 4ล้าน)  ปืน และแหวนเพชร ซึ่งเขาเสียใจมาก ถึงขั้นบ่นอยากฆ่าตัวตาย เพราะเขาทั้งเสียรู้และถูกหลอกสารพัด แต่เขาก็ยอมรับว่าผิดเอง เขาฝากขอโทษสังคมด้วย และที่ยิ่งกว่านั้นคือสภาพที่เขากลับมาหาตน เขาโทรมมาก และทรุดทุกเรื่อง ตอนเห็นเขาคือตกใจมือไม้สั่นไปหมด แต่ก็ดีใจด้วยที่เขากลับมา ถึงขั้นตบหน้าตัวเอง คิดว่าฝันไปหรือเปล่าที่เขากลับมา" 

ครูปุ้มเล่าต่อว่า "ทรัพย์สินที่ถูกหลอกไปใจหนึ่งตนก็อยากทวงคืน แต่อีกใจก็ไม่อยาก เพราะสงสารครูกลัวว่าจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แต่มีเรื่องหนึ่งที่คงยอมไม่ได้ และต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด คือการที่อีกฝ่ายยึดลิขสิทธิ์เพลงของครูชลไป ตอนนี้ใครจะใช้เพลงจะโอนเงินเข้าบัญชีของอีกฝ่าย ตนมีหลักฐานหมด กำลังเตรียมไว้เพื่อจะดำเนินคดี ทวงคืนในสิ่งที่เป็นของตน สำหรับสาเหตุที่ครูชลไปอยู่กับเด็กสาว หนึ่งเลยคือตอนนั้นครูชลสภาพไม่เต็มร้อย รวมถึงตนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาเจ๊าะแจ๊ะ เหมือนเด็กคนนี้ที่อ้อนหนักมาก อีกอย่างตนทำงานจันทร์ถึงศุกร์ เขาก็คงเหงา พอเจอคนเอาใจแถมมีเวลาให้พาไปเที่ยว เขาก็เลยหลง" 

ครูปุ้ม เผยอีกว่า "ตอนนี้อีกฝ่ายยังมาระรานอยู่ เพราะเขาไม่ได้อยากจะปล่อยครูชลกลับมา ตอนที่ครูชลขับรถกลับมาหาตน อีกฝ่ายก็โทรตามตลอด ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ตนทำไปทั้งหมดในตอนนั้นที่สังคมประนามตนว่าผู้ชายหมดรักแล้วทำไมไม่ปล่อยไป ทำไมไม่หย่าและเดินหน้าฟ้องร้องก็เพราะแบบนี้ หากตนหย่าทุกอย่างก็หมด เพราะพอเขาก็ไปเซ็นกับทางโน้น ทรัพย์สินอีกฝ่ายก็ได้ไปหมด"

สุดท้ายตนก็อยากจะบอกแฟนคลับว่า ตนไม่โกรธที่โพสต์ด่าครูชล แต่อยากให้อยู่ในขอบเขต เพราะตอนนี้ครูชล เหมือนจะกลายเป็นซึมเศร้า จากการเห็นคอมเมนต์ต่างๆ ตนจึงอยากวอนคนไทยที่ไม่โอเคก็ไม่ต้องเสพข่าว อย่ามาว่ากันเลย อยากให้ครูชลสบายใจ อยากให้สังคมสงสาร เพราะตอนนี้เขาสำนึกผิดและได้ขอโทษ รวมถึงได้รับผลในสิ่งที่ทำไปแล้ว