บันเทิง

ตัวอย่างดีดี “ฮาย อาภาพร” รับปริญญาใบแรก เปิดใจ 30 ปีที่รอคอย ไม่แก่เกินเรียน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดใจ 30 ปี ที่รอคอย ปริญญาใบแรกของ “ฮาย อาภาพร” สร้างความต๊าชประกาศศักดาว่าไม่มีใครแก่เกินเรียน ลุ้น!! ลงการเมืองพร้อมแก้ปัญหาชาวรากหญ้า

แม่ก็คือแม่!  ล่าสุดลูกทุ่งตัวแม่เชฟบ๊ะ “ฮาย อาภาพร” จุดพลุฉลองความสำเร็จครั้งใหญ่ในชีวิต เข้ารับปริญญาใบแรกในชีวิตในวัย 53ปี สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พร้อมเดินทางมาเปิดใจที่แรกถึงเรื่องราวการศึกษาในการ “โต๊ะหนูแหม่ม” กับพิธีกรสุดจี๊ด “หนูแหม่ม-สุริวิภา” ทางช่องเวิร์คพอยท์ พร้อมแง้มข่าวใหญ่มีฝันลงเล่นการเมืองช่วยเหลือปัญหาชาวบ้าน

ตัวอย่างดีดี  “ฮาย อาภาพร” รับปริญญาใบแรก เปิดใจ 30 ปีที่รอคอย ไม่แก่เกินเรียน

ที่เลือกเรียนสายการเมืองการปกครอง อนาคตจะเล่นการเมืองไหม?

            “อนาคตอย่าพูดเลย มันอยู่ไกลตัว แต่ว่าเราก็ต้องเรียนรู้ (ลงผู้ว่าฯกทม.ไหม) ก็ไม่รู้อนาคตตัวเองเหมือนกัน สมมุติถ้าจะให้ลง นโยบายของเรา อยากให้ประชาชน หรือชาวบ้าน คือเราเกิดมาจากต่างจังหวัด รากหญ้าเราจะรู้ เราจนมาก่อน เราจะรู้เลยว่าชาวสวน ชาวไร่ เขาต้องการอะไร เป้าหมายเขาคืออะไรเรารู้จุดตรงนี้ เรารู้ หนูว่าหนูคิดหนูทำได้”

พอเรียนจบเอาใบปริญญาไปฝากคุณแม่ คุณแม่ว่ายังไงบ้าง?

            “แม่ดีใจมาก เอาใบไปให้แม่ ก็บอกว่าแม่ไม่ส่งหนูเรียนตอนเด็ก แม่ก็บอกว่าเพราะแม่ไม่มีตังค์ จะกินยังไม่มีเลยนางพูด ก็เลยดีใจ แล้วตอนดึกน้องสาวไอ้แหวดมาอีก ก็เลยถ่ายรูปรวมกันกัน3คน ไอ้แหวดก็รับด้วยปริญญาโท”

ย้อนเล่าตอนเด็ก ทำไมถึงไม่มีโอกาสได้เรียนเท่าไร?

            “ไม่มีเงินเรียน จริงๆตอนเด็ก โรงเรียนเขามีชุดนักเรียนให้นะต่อ ม.1 ตอนจบป.6 เราจะเข้าม.1 ที่นี้มันต้องเดินทางด้วยการใช้เงิน ต้องนั่งรถไปอำเภอ หนูอยู่ตำบล มันไกลซักประมาณ 18 กิโล ซึ่งเราต้องใช้เงินเดินทาง ที่นี้แม่ไม่มีตังค์ ต้องมีค่ารถ ค่ากิน แม่พูดเลยว่าอย่าเรียนเลย ช่วยกันทำงานเถอะ เรารู้สึกเสียใจมากตอนนั้นมันอยู่ในใจเราตลอดเลย เราเลยรู้สึกว่าพอถึงเวลา และมีคำพูดว่าไม่มีใครแก่เกินเรียน ตรงนี้มันยังใช้ได้ตลอดเวลา”

แล้วใช้วุฒิอะไรไปเรียนต่อปริญญาตรี?

            “ก็เราไปเรียนต่อศึกษาผู้ใหญ่ ตอนโตตอนหาเงินได้แล้ว เรียนเมื่อประมาณ10ปี เราวางแผนจะเรียนปริญญาตรี ก็เรียนให้จบ ม.3 และ ม.6 และก็เอาวุฒิไปต่อปริญญาตรีได้เลย ทุกคนสามารถทำได้นะ มันไม่ได้ยุ่งยากเลย อย่างคนทำงานแล้ว เราสามารถจัดสรรได้ดี มันแค่เสียเวลาอาทิตย์ละวันแค่นั้นเอง

แล้วจัดสรรเวลายังไงไปเรียน ทั้งทีงานเยอะมาก?

            “ก็คือต้องบอกเลยว่าทุกวันอาทิตย์เราต้องเข้าห้องเรียน วันเสาร์เราต้องจัดตารางของเราให้เรียบร้อย อย่างถ้ามีงานเย็น ตอนเช้าจะขอเข้าห้องเรียน ก็จะไปคุยกับอาจารย์ คุยกับคนที่ดูแลคลาส เอาคลาสมาให้หนูก่อน บ้างทีทำไม่ทันก็จะเอามาทำงานที่บ้าน ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อย แต่มันอยู่ที่ใจ ถ้าใจคุณไปแล้วครึ่งนึงแล้ว อะไรก็ทำได้ ก็เรียนตามกำหนดเลย ตรีก็4ปี โทก็2ปีกว่า จนจบแล้ว ได้กำลังใจดีมาก เป็นอะไรที่วิเศษมาก”

ตัวอย่างดีดี  “ฮาย อาภาพร” รับปริญญาใบแรก เปิดใจ 30 ปีที่รอคอย ไม่แก่เกินเรียน

กังวล หรือมีอะไรหนักใจไหมตอนเรียน?

            “ตอนที่หนูเข้าไปเรียนตอนนั้นอายุ 46 เราต้องไปเรียนกับเด็กที่จบมา ก็20ต้นๆ ที่จะต้องเรียนกับเรา ฉันต้องไปเจอเด็กน้อยหรอ แล้วมันจะคุยกันภาษาเดียวกันหรือเปล่า ก็คุยกับอาจารย์ แต่ตอนที่เรียนก็มีรุ่นเจ้าสัว รุ่นเจ้าของกิจการ หลายสาขาอาชีพ ก็มีคนที่รุ่นๆเดียวกับเราด้วยไม่มีความแตกต่าง ได้เพื่อนได้คอนเนคชั่น ได้งานมาเพียบ

บ้างคนถือคติรวยแล้วไม่ต้องเรียน?

            “ไม่ได้..เราต้องเรียน บ้างอย่างถ้าเราไม่เรียนมาเราจะไม่มีความรู้ ที่เขาบอกเรียน ไปนั่งเรียนได้อะไร จะบอกว่าได้อะไรเยอะมาก สมมุติว่าเรามีเงินแล้วเนี้ยเราจะจ้างศาสตราจารย์คนนี้มาสอน เราจ้างมาเลย1 ชั่วโมง จ่าย 30,000มาสอน เขาไม่มานะ ในขณะเดียวกันเราไปเรียนเราได้เรียน ต่อหนึ่งวันเราได้ศาสตราจารย์มาสอน4คน เราได้อะไรจากการเรียนเยอะมาก สิ่งที่เราไม่ได้รู้อีกมุมหนึ่งเราได้รู้ มีความสุขมาก ได้ครอบครัว ตอนนี้จะไปไหนนะก็จะมีกลุ่มในการเรียนจะเอื้อกัน”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ