เปิดค่าคลอดลูก "แป้ง อรจิรา" จ่ายหนักเป็นล้าน ค่าคลอดหรือค่าโง่

 

เพิ่งพาลูกสาวคนแรกบินกลับเมืองไทยมาหมาด ๆ สำหรับ แป้ง อรจิรา ที่ได้พา น้องเลอา กลับเมืองไทยเป็นครั้งแรกหลังคลอดลูกที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

 

 

 

 

ล่าสุด (2 เมษายน 2565) สาวแป้ง ก็ได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์การเป็นคุณแม่มือใหม่ การคลอด และการเลี้ยงลูกผ่านรายการ Momster "EP.28 ตอน เปิดใจเรื่องเศร้าของแม่ ! ค่าคลอดหลักล้าน/หลังคลอด ลูกป่วยหนักมากก" ทางช่องยูทูบ  PANG ORNJIRA หลังเดินทางไปอยู่ที่สิงคโปร์เป็นระยะเวลากว่า 5 เดือน ที่เจ้าตัวถึงกับออกปากว่า ทุกอย่างแพงหมดเลย ขนาดตัวเองยังมากว่าจุก จนทำให้เจ้าตัวต้องทำอาหารกินเอง

 

สาวแป้ง ยังได้เผยถึงเรื่องราวสุดเศร้าของคนเป็นแม่ หลัง น้องเลอา ป่วยหนัก ไม่ถ่ายหนึ่งสัปดาห์ เเละมีภาวะตัวเหลืองนาน ซึ่งปกติเด็กจะเป็นแค่ 1 เดือนแล้วหายไป คุณหมอแจ้งว่าเป็นต่อมไทรอยด์ไม่ผลิตฮอร์โมน วันแรกที่รู้ก็ร้องไห้ เพราะเท่าที่ไปหาข้อมูลคือ ถ้าเรารู้ช้าไป 2-3 เดือน น้องจะมีโอกาสเป็นเอ๋อแน่นอน ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้ใช้ในการพัฒนาสมอง

 

ทำให้เรานอยด์หนักมาก เรามารู้ตอนเขา 1 เดือนแล้ว เพราะเราก็ไม่รู้ว่ามีอะไรเสียหายไปแล้วบ้าง จากนั้นก็ส่งข้อความปรึกษาหมอที่เมืองไทย คุณหมอก็แจ้งว่าให้ทำใจ แต่น้องจะไม่ปกติ อาจจะมีอะไรไม่เหมือนเดิม แต่เขาจะเข้าโรงเรียนได้แน่นอน ก็เลยทำให้เราใจหายเลย ร้องไห้ทุกวัน โทร. หาแม่ตลอด ซึ่งพอผ่านมาน้องก็เริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ก็ต้องให้ยาและหาหมอทุก 2 อาทิตย์ ต้องเจาะเลือด เป็นจุดพีคที่สุดตอนที่อยู่ที่นั่น

 

 

 

 

เท่านั้นยังไม่พอ เพราะสาวแป้งยังเจอกับภาวะเครียด จนทำให้เกิดอาการลำไส้อักเสบ จนต้องนอนโรงพยาบาลนาน 5 วัน และด้วยเป็นช่วงโควิด 19 ทำให้ไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ จนต้องห่างลูกที่เพิ่งคลอด ก็ยิ่งกังวลหนักว่าสามีจะดูแลลูกได้ไหม เพราะน้องตื่นถี่ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องฮอร์โมน โชคดีที่คุณแม่สามีมาช่วยดูแลด้วย

 

นอกจากนี้ สาวเเป้ง ยังเผยถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการคลอดของลูกสาวว่า ก็พูดยาก เพราะมันไม่เหมือนที่ไทย แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นค่าคลอดหรือค่าโง่ เพราะมีหมอทำคลอด หมอเด็ก และหมอศัลยแพทย์มาด้วย รวมเบ็ดเสร็จ ไม่ต่ำกว่าล้านบาท ล้านเท่าไหร่ไม่รู้ ตรงนี้ยังไม่รวมค่าโรงแรม ไม่รวมค่าเก็บสเต็มเซลล์ เราก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ และก็ไม่ได้ถามค่าหมอศัลยแพทย์ว่าเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นไม่อยากมีแผลเป็น แต่ตอนนี้ก็คือมีแผลเป็นก็ได้ เดี๋ยวไปเลเซอร์เอาทีหลังก็ได้ ตอนนั้นอยู่โรงพยาบาลแค่ 2-3 คืน

 

และยังเสียเรื่องการรักษาอาการป่วยของลูกประมาณ 1 เดือนกว่า จ่ายไปเป็นล้านเท่า ๆ กับค่าคลอด มีค่าแนนนี่ที่ดูแลทั้งแม่และลูกก็แพงเหมือนกัน ตอนนี้เลยขอมาเก็บเงินที่เมืองไทยก่อนแล้วกัน รับงานทุกงาน 

 

ส่วนอาการป่วยของลูก ก็ได้ให้หมอที่สิงคโปร์ทำรีพอร์ตมาให้ จากนี้ก็จะพาน้องไปหาหมอ ทั้ง หมอเด็ก หมอฮอร์โมนต้องดูเรื่องพัฒนาการ อีกทั้งยังต้องดูเรื่องผิวหนัง เพราะตอนนี้เขามีอาการแพ้ซึ่งได้รับจากเราไปเต็ม ๆ