"ทนายตั้ม" แฉ ตร. ต้องการให้ทนายตั้ม ให้การว่า ปอกับโรเบิร์ต ไม่มีพิรุธ

 

คดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ “แตงโม นิดา” มีการแจ้งข้อกล่าวหาพยานบนเรือแล้ว 5 คน ประกอบด้วย “ปอ” ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ เจ้าของเรือที่ผู้ตายพลัดตกน้ำ , “โรเบิร์ต” ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ , "แซน" วิศาพัช มโนมัยรัตน์ , “จ๊อบ” นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร , และ "กระติก" อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัว "แตงโม" โดยคาดว่าผู้ต้องหาคนสุดท้าย อาจเป็นผู้รู้กฎหมายท่านหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เป็น “กุนซือ” ให้คำปรึกษากลุ่มคนบนเรือนั้น

 

 

 

 

ล่าสุด พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภ.1 ยืนยันว่า “กุนซือ” คนดังกล่าว ไม่ใช่ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิดทนายความชื่อดัง ตามที่สังคมเข้าใจผิด แต่เป็นผู้รู้กฎหมาย 1 คน

 

“บุคคลดังกล่าวไม่ใช่ทนายตั้มแน่นอน แต่เป็นแค่คนหนึ่ง ซึ่งตำรวจมีหลักฐานเพียงพอสาวไปถึง ที่มีความผิดมาตรา172 จ้างวานใช้ให้ผู้อื่นเเจ้งความเท็จเกี่ยวกับคดีอาญา ผิดไปจากข้อเท็จจริงต่อเจ้าพนักงาน และ ม.184 จ้างวานใช้ให้ทำลายพยานหลักฐาน เพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่น โดยช่วง 1-2 วันนี้จะขอศาลออกหมายจับ”

 

 

 

 

ขณะที่ “ทนายตั้ม” แถลงข่าวชี้แจงว่า ไม่ได้เป็น “กุนซือ” ให้คนบนเรือ แต่ช่วงแรกของคดีนี้ทาง “ปอ-โรเบิร์ต” เดินทางมาพูดคุยกับตนเองจริงๆ เมื่อวันที่ 25 ก.พ.เวลา 17.00 น.แต่คุยกันแค่ 15 นาที ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะ “แตงโม” เป็นเหมือนน้องของตนเอง ฉะนั้นไม่มีทางจะไปเป็นทนายให้คนบนเรือแน่นอน

 

“ที่ตำรวจปล่อยข่าวมาเรื่องนี้ เพราะต้องการที่จะเบี่ยงเบนประเด็นของสังคม ให้มากลบจุดผิดพลาดของตำรวจ ขอเรียน ผบ.ตร.ท่านเป็นคนเก่ง แต่เคสนี้ลูกน้องของท่าน ไม่เก็บพยานหลักฐานตั้งแต่ต้น ทำให้พยานหลักฐานบางส่วนเจือปนไป อย่างการเก็บเรือของกลาง ก็เกิดขึ้นหลังจากผมลงพื้นที่ พอเอาไปเก็บ ก็เก็บแบบตากแดดซะอีก”

 

ขอตำหนิการทำงานของตำรวจชุดนี้ ถือว่าล่าช้า แทนที่จะสอบพยานบนเรือในวันที่เกิดเหตุทันที จะช่วยตัดปัญหาเรื่องคนให้คำปรึกษา แต่มาตอนนี้จะเอาผิดคนเป็น “กุนซือ” ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ถ้ามีการออกหมายเรียกตนเอง ก็พร้อมเล่นงานกลับเช่นกัน

 

“ผมไปทำคดีอื่นอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องแตงโมเลย แต่อยู่ดีๆ ไม่รู้กุนซือของตำรวจคือใคร ไปดึงผมกลับมาอีก ฉะนั้นจะขอแฉเลยว่า วันที่ผมเข้าไปให้การ วันนั้นมี ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี อยู่ในห้อง โดยมีการพูดกับผมตรงๆ ว่า ต้องการให้ผม ให้การว่า ปอกับเบิร์ต ที่มาปรึกษาผมเนี่ยไม่มีพิรุธ ที่เรียกผมมา เขาต้องการแค่นี้เองผมบอกจะให้การแบบนั้นได้ยังไง ถ้าผมให้การอย่างนั้น เดี๋ยวคุณเอาคำให้การมาพูดกับสื่อว่า ผมรับรองให้พวกนี้ ซึ่งจากประสบการณ์ของผม รู้เลยว่าเขาโน้มเอียงไปทางไหน”

 

ทั้งนี้ตอนที่ “ปอ-โรเบิร์ต” มาหา พวกเขาอ้างว่า “ปอ” เป็นคนขับก่อน แล้วเปลี่ยนให้ “โรเบิร์ต” เป็นคนขับแทน ซึ่งตนเองฟันธงเลยว่า มีความผิดทั้งคู่ โดยวันนั้นนอกจากเจอบุคคลทั้งสอง ยังเจอ “กระติก” และ “จ๊อบ” รออยู่ด้านนอกอีกด้วย

 

“ที่มีการปล่อยข่าวโยงเป็นผม เพราะชื่อทนายตั้มมันขายได้ เพราะถ้าเป็นชื่อทนายเบียร์ หรือทนายเอ็ม คนก็ไม่รู้จักมันไม่ได้สร้างความฮือฮา และยังปล่อยให้คนอื่นออกมาพูดกำกวม บอกเป็นนักฎหมาย แต่ไม่บอกไปเลยว่า มันไม่ใช่ผม ส่วนการให้ข่าวว่าจะขอหมายจับกุนซือในคดีนี้ ถ้าดูตามข้อหาโทษมันไม่ถึง 3 ปี อยู่ดีๆ จะไปขอหมายจับได้เลยเหรอ เรื่องแค่นี้นักกฎหมายที่ไหนก็รู้”

 

ก่อนหน้านี้ไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไม่ออกมาปฏิเสธว่า “กุนซือ” ไม่ใช่ตนเอง แต่พอมีข่าวว่าจะออกมาแฉ ทางเจ้าหน้าที่รีบออกมาปฏิเสธทันที แต่ขอย้ำว่า ตอนนี้เบรกไม่ทันแล้ว