เคยถูกผู้ชายลวนลาม "ซินดี้ สิรินยา" กับบทบาทขับเคลื่อน "ภัยคุกคามทางเพศ"

งานนี้เจ้าตัวขอเป็นกระบอกเสียงผ่านรายการ Z Story Z Holiday ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 กับสองพิธีกร ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ และ ลิตา อินท์ชลิตา ถึงปัญหาดังกล่าว และโครงการที่เจ้าตัวได้จัดตั้งขึ้น

 

 

 

อยู่วงการมากี่ปีแล้ว

 

ถ้าหากว่านับงานโฆษณาครั้งแรก 30 ปีเลย

 

ช่วงแรกๆในวงการ เห็นบอกว่าไม่ได้ง่าย

 

อยากพูดให้เป็นแง่คิดสำหรับน้องๆ หลังจากเป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์ตอนอายุ 17 ปี มีคนมาชมเราตลอดว่า เราสวยที่สุด ทำให้เราเชื่อ คิดว่าเราเพอร์เฟคที่สุด ทำตัวไม่น่ารัก เหวี่ยง วีนตลอด จนวันหนึ่งมีพี่ที่น่ารักในวงการ โทรมาเตือนเรา จริงๆต้องขอบคุณเขามากๆ ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่สุดในชีวิตเราที่สุด จนมันปรับทัศนคติของเรา นิสัยเราได้เลย และทำให้เราคิดว่าเราไม่ใช่ที่สุดจริงๆ วันหนึ่งก็จะมีคนอื่นมาแทนที่เรา

 

เป็นซุปเปอร์โมเดล มีท่าประจำ เรามีท่าอะไร

 

จริงๆก็ไม่นึกว่าเป็นท่าของเรา แต่หลายคนทักมาต้องเป็นท่าของเราเท่านั้นคือ ท่าปวดท้อง จริงๆอะไรที่เป็นอาการเจ็บป่วย ปวดอะไรของคนเรา เราเอามาทำท่าโพสได้หมด เช่นท่าปวดท้อง ปวดเอว ปวดหัว

 

ทำไมถึงเลือกท่าแบบนี้ มาเป็นท่าประจำเรา

 

เราเป็นคนชอบความท้าทาย ไม่ห่วงสวย หลายคนที่เป็นพี่ในวงการและต้องการคนที่ทำท่ายาก เขาก็จะให้งานเราตลอด จริงๆมันเป็นท่าตามสรีระ ไม่อยากให้คิดว่าเป็นท่านั้น ท่านี้ และจริงๆเราเป็นคนชอบศึกษาด้านสรีระด้วย เราต้องลองยืนหน้ากระจก ลองทำท่านั้น ท่านี้ต่างๆ

 

เวทีไหนปราบเซียนเราที่สุด

 

มีรายการหนึ่งเราต้องโรยตัวมาจากสลิง และเราต้องทำท่าเหมือนเดินลงมา เรียกว่าโหดมาก และที่สำคัญต้องหยุดกลางเวทีและหยุดโพสด้วย ยากมาก

 

 

แรงกดดันสำหรับเราที่สุดคืออะไร

 

การดูแลตัวเองมากๆ มีวินัยในการทำงาน ทำอย่างไรให้ตอบโจทย์เทรนด์แฟชั่น และที่ดีไซน์เนอร์ต้องการ ต้องทำการบ้านมาดี และรู้ว่าโจทย์ของเราคืออะไร ให้มา 100 เปอร์เซ็นต์ เราก็ต้องทำให้ได้ 200 เปอร์เซ็นต์ อย่าคิดว่าเราแค่มาแต่งตัวสวยๆ แต่เรามาทำงาน

 

เคยถูกผู้ชายลวนลามด้วย

 

เอาจริงๆ วันนั้นเป็นวันสงกรานต์ ช่วงเที่ยงเราก็ไปเที่ยวกับเพื่อน อยู่ๆก็มีคนมาล้อมเรา ตั้งใจมา ล็อคตัวเราข้างในและก็เริ่มจับนั่นนี่ แบบเขาตั้งใจ ประมาณ 5 คน ตอนนั้นเราช็อค ทำได้อย่างเดียวคือพยายามหนี และก็วิ่งออกไป กลับบ้านเลย เราไม่เคยพูดกับใครเลย จริงๆผู้หญิงหลายคนที่เคยเจอแบบนี้ คงช็อค และไม่เคยบอกใคร หรือถ้าบอกใครจะมีใครทำอะไรได้ไหม นี้คือสาเหตุที่ทำให้มีภัยคุกคามทางเพศเกิดขึ้น แต่เราก็ไม่ได้คิดถึงมันเลย จนเข้า ปี 2018 ผ่านไป 4 ปี  เราอ่านหนังสือ เห็นข่าว งดแต่งตัวโป๊ ป้องกันเหตุการณ์คุกคามทางเพศ ห้ามใส่สายเดี่ยวไปเล่นน้ำ จริงๆเราเข้าใจเขานะ แต่เขาไม่ได้พูดถึงผู้ที่จะกระทำเหล่านี้ ไม่มีการเตือน หรือแจ้งว่าหากคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้ ให้แจ้งใคร ทำอะไรอย่างไงต่อ แต่คุณกลับมาบอกว่าห้ามใส่สายเดี่ยว และเหตุการณ์มันจะดีขึ้น เราก็เลยแบบ ให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับเรา ในวันนั้นที่เราลืมไป เราก็แบบเดี๋ยวก่อนนะ วันนั้นฉันยังไม่ได้แต่งตัวโป๊เลย แต่ฉันก็โดน ก็เลยของขึ้น โพสต์เลย และติดแฮชแท็ก #DontTellMeHowToDress พอมันเป็นไวรัล ก็แบบมีคนคิดเหมือนเราเยอะมากตอนนั้นมีมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เลยชวนเราไปร่วมรณรงค์ด้วย เราก็เริ่มทำการบ้านต่างๆจนเกิดโครงการนิทรรศการพลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ และเราก็นำเอาเสื้อผ้าผู้ถูกกระทำต่างๆมาโชว์ เช่นเสื้อนักเรียน เสื้อนักศึกษา กางเกงยีน ต่างๆ เพื่อที่เป็นการตั้งคำถามต่อสังคมว่าชุดเหล่านี้เป็นแรงจูงใจจริงๆหรือเปล่า หยุดเอาความผิดของการกระทำความรุนแรงมาลงกับผู้หญิงได้แล้ว

 

มีชุดไหนที่เราเห็นสะเทือนใจที่สุดไหม

 

แน่นอน ชุดของเด็กอายุ 2 ขวบ ชุดสีชมพู และกางเกงขาสั้นตัวเล็ก โดนข่มขืนจากลุงข้างบ้าน จริงๆต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ 91 เปอร์เซ็นต์มาจากแคสที่เป็นคนรู้จัก และคนรอบตัว เราควรมีการอธิบายสอนลูก สอนเด็ก ให้ระวังตัวเอง อย่างเช่นพฤติกรรม จับอวัยวะเล่นต่างๆ และเห็นเป็นเรื่องสนุก เราควรหยุดคิดแบบนี้ เราควรสอนเขา ไม่ให้มาจับของเรา และเราห้ามไปจับของเขา เราต้องยอมรับเราอยู่ในสังคมผู้ชายเป็นใหญ่อยู่

 

อยากแนะนำคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อย่างไร

 

จริงๆแล้วมีหลายช่องทาง และไม่ใช่ทุกครั้งที่เราต้องไปแจ้งความเพราะบางคนอยู่ในครอบครัว เราควรรู้ และมีข้อมูลต่างๆ ซึ่งศึกษาได้จาก www.donttellmehowtodress.com จะมีศูนย์ต่างๆอยู่ในนั้นให้ปรึกษาต่างๆได้หมดเลย

 

ปีนี้มีโปรเจกต์ใหม่ล่าสุด คืออะไร?

 

ปีนี้เลย จริงๆเราเป็นคนชอบวาดรูปมาก ปีนี้ตั้งใจจะใช้ศิลปะในการสื่อแคมเปญ และรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปให้มูลนิธิที่ช่วยเหลือผู้หญิง ฝากติดตามผ่านไอจีซินดี้ได้เลย น่าจะปลายๆเดือนนี้