บันเทิง

ไม่ตลก "ทราย เจริญปุระ" เคยโดนบูลลี่กลางเวทีเหมือน "เมียวิล สมิธ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ทราย เจริญปุระ” ล่าสุดออกมาเล่าประสบการณ์เจ้าตัวถูกบูลลี่เรื่องป่วย กลางเวทีงานแบบเดียวกับภรรยาวิลล์ สมิธ ลั่น ไม่ตลกด้วย แค่ป่วยก็ผิดเหรอ

 

กรณี “วิลล์ สมิธ” นักแสดงชื่อดัง ตบหน้า “คริส ร็อก” พิธีกรในงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94  หลังจากที่ คริสร็อก เล่นมุกตลกล้อเลียน “จาดา พิงเก็ต สมิธ” ภรรยาของ วิลล์ สมิธ ที่โกนศีรษะ เพราะโรคผมร่วง ในประโยคที่ว่า“จาดาผมรักคุณ GI Jane 2 อดใจรอไม่ไหวที่จะชม” ซึ่งหมายถึงหนัง จีไอ เจน เมื่อปี 1997 ที่เดมี มัวร์ รับบทแสดงนำที่เธอต้องโกนศีรษะเพื่อเข้ารับการฝึกทหารเหมือนกับผู้ชาย

 

ไม่ตลก "ทราย เจริญปุระ" เคยโดนบูลลี่กลางเวทีเหมือน "เมียวิล สมิธ"

 

 

 

เรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก รวมไปถึงในสังคมไทยด้วยเช่นกัน โดยล่าสุด “ทราย เจริญปุระ” ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นในเรื่องนี้เช่นเดียวกันโดยระบุว่า

 

“ถ้าล้อทั้งที่รู้ว่าเค้าป่วยก็ไม่เข้าท่าจริงแหละ ภรรยาป่วยมานาน โรคผมร่วงเป็นกระจุก เจ้าตัวก็กังวลอยู่แล้ว สามีคือคนคอยเชียร์อัปให้กำลังใจ คนให้กำลังใจก็หนักเด้อ มันเห็นความเศร้าทุกวัน มาเล่นมุกงี้คือเหมือนที่เชียร์ใจกันมามันพังอะ มันเป็นมีม มันโดนบันทึกลงอินเตอร์เน็ต ปีชาติเจ้าตัวก็ต้องมาเห็น แต่คราวนี้เลยมีมีมใหม่แทนเรื่องมุกล้อเลียน เป็นมุกเดินไปโบก”

 

“นึกสภาพเราดูแลผัวเรามา เชียร์อัปกันทุกวันว่าเห้ย ดีแล้ว ไม่เครียด รักเหมือนเดิมเจอคนมาเล่นมุกนี้กลางงานใหญ่ไม่โกรธยังไงไหวอะ พังทุกทาง"

 

“เรามองว่าวิลล์รุนแรง แต่คริสหยาบเกินไปมากคือมันเป็นสิ่งที่ถ้าคุณเจอกันต่อหน้า คุณก็ไม่เล่นไง นี่คุณกล้าเล่นเพราะเป็นเวทีใหญ่ ดาราใหญ่ คิดว่าไม่มีใครจะตอบโต้แรงๆได้ คิดว่ามีภูมิคุ้มกันในความเป็นตลกบนเวทีระดับโลกอะ”

 

ไม่ตลก "ทราย เจริญปุระ" เคยโดนบูลลี่กลางเวทีเหมือน "เมียวิล สมิธ"

 

 

 

“เราเคยโดนมุกบนเวที ‘อย่างคุณทรายไม่เรียกคนบ้า เพราะศรีธัญญาเรียกคนไข้’ คือแบบ…ตอนนั้นในใจเราสตั๊นนะในใจคือแบบกูบ้าแต่ก็ไม่เที่ยวไปขำความป่วยคนอื่นมั้ยอะ สิ่งที่เค้าพูดไม่มีกูมึง อิ...อะไรเลยนะ แต่มันจึ้กมากๆ สมองคือประมวลผลเยอะมาก ว่าเออ ก็เป็นคนไข้จริงๆ นี่กูต้องไม่โกรธเหรอ ไปโกรธเค้าไม่ได้สิ กลายเป็นวนมาโทษตัวเองอีก แล้วหน้าที่ออกก็คือขำเจื่อนไป เพราะมันไม่รู้จะพูดยังไง”

 

“แต่กลับบ้านแล้วเศร้ามากนะคะ คือเราผิดเหรอวะที่ป่วย ที่ไปหาหมอศรีธัญญา ทำไมทุกคนขำ แล้วทำไมแม้แต่ตัวกูก็ขำ ทั้งที่มันไม่ตลก จะทักกลับไปหาเค้าว่าไม่ชอบเลยที่เล่นแบบนี้ มันก็เลยเวลาไปแล้ว แต่พอไม่พูดก็กลายเป็นเรื่องนึงที่ผ่านไป มุกนี้พิธีกรอาจจะเก็บเอาไปเล่นกับคนอื่นอีกก็ได้ เพราะไม่ได้รับการฟีดแบคมันงงและรู้สึกแย่จริงๆนะ”

 

“แต่เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เราว่าควรเป็นคดีนะคะ มันคือการทำร้ายร่างกายน่ะ ต่อหน้ากล้องเลยด้วย คือมันต้องเรียนรู้ว่าตอบโต้แบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน และเป็นการสื่อสารด้วยว่าคนพูดก็ไม่ควรพูด คนทนไม่ไหวมันมีอยู่จริง วิลจะสู้ต่อว่าโดนละเมิดหรืออะไรก็ว่ากันไป แต่ถ้าเงียบหายไป ไม่เป็นคดีเราว่าจะประหลาดมาก”

 

“มันไม่ใช่ว่าผัวออกรับแทนเมียหรอก แบบ-ด่าเมียที่เคารพคบไม่ได้-อะไรงี้นะ เอาจริงๆหลายทีก็งง ว่าทำไมผู้ชายบางคนบางกลุ่ม ให้เพื่อนล้อเมียแรงๆหรือล้อซะเองได้หน้าตาเฉย นั่นคู่ชีวิตคุณนะ ไม่สะเทือนกันเหรอ เพื่อนกันก็ไม่ต้องตลกทุกมุกก็ได้ นึกถึงหน้าเมียมั้ยอะ ว่าเค้าจะเจื่อนที่โดนวิจารณ์เรื่องหน้าตาหรือหุ่นอะ”

 

“ตอนมีแฟน คนมาบุลลี่หน้าตาหรืออะไรแนวๆนี้กับแฟนเรา เรารู้สึกเค้าดูถูกความรักเราด้วยนะ เราเลือกคนนี้และเค้าเลือกเราแล้ว เหมือนมานั่งล้อการตัดสินใจกันอะ”

 

ไม่ตลก "ทราย เจริญปุระ" เคยโดนบูลลี่กลางเวทีเหมือน "เมียวิล สมิธ"

 

ไม่ตลก "ทราย เจริญปุระ" เคยโดนบูลลี่กลางเวทีเหมือน "เมียวิล สมิธ"

 

ไม่ตลก "ทราย เจริญปุระ" เคยโดนบูลลี่กลางเวทีเหมือน "เมียวิล สมิธ"

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ