เปิดประวัติ "วิล สมิธ" หลังตบหน้าพิธีกรกลางเวทีประกาศรางวัล เพื่อป้องเมีย

โดยต้นสายปลายเหตุมาจากที่ "คริส ร็อก" ซึ่งรับหน้าที่พิธีกรมีการเล่นมุกตลกพาดพิงอาการป่วยผมร่วงของ "จาดา พินเก็ต-สมิธ" ภรรยา "วิล สมิธ" ว่า ภรรยาที่โกนศีรษะเหมือนจะไปเล่นหนังเรื่อง "G.I.Jane 2" ซึ่งเป็นหนังเกี่ยวกับทหารหญิงที่โกนศรีษะ โดยโด่งดังเป็นอย่างมากเมื่อปี 1997 ทำให้เจ้าตัวทนไม่ไหว ลุกจากที่นั่งขึ้นไปก่อเหตุดังกล่าวบนเวที แถมเมื่อลงมานั่งแล้วยังตะโกนต่อว่าด้วยอารมณ์ที่เดือดจัดๆ ว่า "เลิกพล่ามเกี่ยวกับภรรยาของผมได้แล้ว"

ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าตัวได้รู้สึกผิดและสำนึกได้ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นขาดความยั้งคิด โดยบอกเหตุผลว่าตัวเองต้องการจะปกป้องศักดิ์ศรีภรรยาของเขา  สำหรับ "วิล สมิธ" หรือชื่อเต็ม "วิลลาร์ด แคร์โรลล์ สมิธ จูเนียร์" เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ.1968 ปัจจุบันอายุ 53 ปี เขาเติบโตมาจากครอบครัวชนชั้นกลาง ในเมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐ เป็นลูกคนโตจากบรรดา 4 คนของตระกูล โดยคุณพ่อเป็นอดีตทหารอากาศ กองทัพสหรัฐ และแม่เป็นครู

สมัยเด็ก "วิล สมิธ" ถือเป็นคนที่เรียนเก่ง และหัวดีปเนพิเศษ จนได้รับทุนเรียนต่อที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT) มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของโลก แต่เจ้าตัวเลือกจะที่เข้าสู่วงการเสียงเพลงแทน โดยเริ่มจับคู่กับ "เจฟ ทาวเนส" เพื่อเป็นศิลปินดูโอเพลงแร็ป โดยชื่อวงว่า "D.J. Jazzy Jeff & the Fresh Prince" ซึ่งพระเอกชื่อดังใช้ฉายาว่า "เดอะเฟรชปรินซ์" หลังจากทั้งคู่เจอกันในงานเลี้ยงสังสรรค์ของเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่ใช่แค่ร้องเพลงเล่นๆ เพราะในปี 1988 ในอัลบั้มชุดที่ 2 ชื่อุด "He’s the DJ, I’m the Rapper" ทำยอดขายได้ 3 ล้านก๊อปปี้ และได้รับรางวัลแกรมมี่ สาขาเพลงแร็ปยอดเยี่ยมจากเพลง "Parents Just Don’t Understand" ก่อนจะกลับมาคว้ารางวัลนี้อีกครั้งเมื่อปี 1991 ในอัลบั้มชุดที่ 4 จากเพลง "Summertime" ก่อนออกอัลบั้มสุดท้ายในอีก 4 ปีหลังจากนั้น เพราะมีปัญหารุมเร้าหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องเงิน

กระทั่งได้เจอกับ "ควินซีย์ โจนส์" นักทำหนังและซิรีย์ ที่มีการชักชวนให้รับบทนำในซิรีย์ซิทคอมเรื่อง "The Fresh Prince of Bel-Air" ออกอากาศทางช่อง NBC ระหว่างปี 1990-1996 แม้เวลานั้น "วิล สมิธ" จะไม่มีประสบการณ์ด้านการแสดงเลย แต่กลับกลายเป็นประตูบานสำคัญในชีวิตเลยทีเดียว โดยในปี 1993 เจ้าตัวได้รับบทเกย์หนุ่มในหนังเรือง “Six Degrees of Separation” ซึ่งนักวิจารณ์หลายคน มองว่า "วิล สมิธ" เป็นหนึ่งในนักแสดงที่น่าจับตามอง ก่อนที่ปี 1995 เจ้าตัวจะกลับมาโด่งดังเป็นพลุแตก จากการรับบทนำหนังแอ็คชั่นฟอร์มใหญ่ สไตล์คู่หูตำรวจอย่าง "Bad Boys" จากนั้นชีวิตการแสดงเป็นช่วงขาขึ้น

แต่บทที่ทำให้ทุกคนรู้ว่า ชายที่ชื่อ "วิล สมิธ" มีดีเรื่องการแสดงมากแค่ไหน คงเป็นการรับบท "มูฮัมหมัด อาลี" นักชกผู้เป็นตำนาน จากเรื่อง "Ali" ที่ออกฉายเมื่อปี 2001 ซึ่งได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากเวทีออสการ์เมื่อปี 2002 แต่สุดท้ายอกหัก เช่นเดียวกับปี 2006 ที่ได้รับเสนอชื่อชิงรางวัลดังกล่าว จากหนังเรื่อง "The Pursuit of Happyness" ก่อนมาประสบความสำเร็จในปีนี้ ที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากหนังเรื่อง "King Richard" ที่ก่อนหน้านี้คว้ารางวัลในสาขานี้มาครบทุกสถาบันแล้ว 

ส่วนชีวิตครอบครัว "วิล สมิธ" เคยแต่งงาน 2 ครั้ง ครั้งแรกกับ "เชรี แซมปีโน่" มีลูกด้วยกัน 1 คน และครั้งที่ 2 กับ "จาดา พินเก็ต-สมิธ" มีลูกด้วยกัน 2 คน ซึ่งเป็นภรรยาคนปัจจุบัน ที่เพิ่งจะเป็นประเด็นดราม่าบนเวทีออสการ์