"หมอพรทิพย์" เคลียร์ปมแผ่นอนามัย "แตงโม" เป็นไปได้ไหม? คดีจบสิ้นเดือนนี้
"หมอพรทิพย์" เคลียร์ปมแผ่นอนามัย "แตงโม" ผลตรวจมีปัสสาวะ หรือยูเรียติดหรือไม่ แล้วเป็นไปได้ไหม? ที่คดีจบสิ้นเดือนนี้
"หมอพรทิพย์" พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผู้ที่ร่วมสังเกตการณ์การผ่าชันสูตรศพครั้งที่ 2 ของ "แตงโม" ล่าสุดเปิดใจผ่านรายการโหนกระแส ถึงปมแผ่นอนามัย บางช่วงบางตอนของรายการว่า "แผ่นอนามัยที่ไปตรวจว่ามีปัสสาวะติด หรือมียูเรียไหม มันเป็นของสถาบันนิติเวช วัตถุประสงค์เพื่อให้วางใจว่าคุณหมอเขาได้ทำการตรวจขนาดนี้ แต่ไม่ได้สรุปผลค่ะ คุณหมอก็ได้บอกให้ฟังว่าคุณหมอได้ดำเนินการตรวจไปนะ (ผลมีหรือไม่มี?) ไม่มียูเรีย แต่ยังแปลผลไม่ได้ค่ะ ถ้าไม่ตกน้ำ แล้วปัสสาวะราดลงไปตรงนั้น มันต้องมียูเรียติดอยู่ที่แผ่นรองอนามัย แต่เรายังไม่ทราบในงานวิจัย ว่าถ้าแผ่นนี้มันลงน้ำไปแล้ว มันจะติดไหม แค่นั้นเองค่ะ แต่พยายามบอกว่าคุณหมอพยายามทำให้อย่างละเอียดที่สุด"
"ถามว่า ขั้นตอนต่อไปต้องมีการพิสูจน์กันว่า ถ้ามีแผ่นรอง แล้วเอาปัสสาวะหยดลงไปในแผ่นรอง แล้วเอาไปอยู่ในน้ำทิ้งไว้ 2-3 วันตามกำหนดการที่เจอศพคุณแตงโม ว่าปัสสาวะนั้น ยูเรียจะหายไปไหม เพื่อเอามาเทียบเคียง ใช่ค่ะ แต่ถามว่าเชื่อไหม ว่าแตงโมไปฉี่ท้ายเรือแล้วตกลงมา ไม่ได้ตอบแบบหมอนิติเวชนะ แต่ตอบแบบผู้หญิงทั้งหลาย ไม่เชื่อ ผู้หญิงอ่ะ แล้วไม่ได้ห่างฝั่งมากมาย เรื่องฉี่ถ้าเป็นหมอ หมอก็จะบอก เหมือนเราปวดห้องน้ำ เราก็จะบอกว่าขอเข้าหน่อยเหอะ การไปนั่งท้ายเรือมันยากมาก บอกเลยว่าไม่เชื่อ สองมาเจอหลักฐาน จะฉี่พร้อมเสื้อผ้าอย่างนั้นเลยเหรอ ซึ่งต้องหาหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์มาช่วยยืนยัน"
"เป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม ต้องใช้หลักฐานทุกส่วนมาประกอบกัน แต่ตอนนี้ยังไม่สรุปค่ะ แต่ถ้าได้หลักฐานท่อนนี้ ท่อนของเรือกับห้าคนมันก็จะช่วย แต่ถ้าเห็นศพเฉยๆ บอกไม่ได้ ว่าพฤติกรรมเป็นอะไร เพราะไม่ได้ถูกเก็บวัตถุพยานตั้งแต่เริ่มต้น เรื่องกรดยูเรียในปัสสาวะ เจตนาวันนั้นที่บอก เป็นการบอกว่าคุณหมอนิติเวชที่ได้ทำการตรวจจนถึงขนาดนั้น เราชื่นชม สิ่งนี้ก็อยู่ที่พนักงานสอบสวนจะคุยกับคุณหมอผู้ตรวจ มันไม่ใช่ความลับในคดีนะคะ มันคือความจริง ถ้าเป็นความลับในคดีมันจะเป็นอีกอย่างนึง ซึ่งตอนนี้ต้องบอกว่ามันปนกัน ที่บอกว่าเอาเรื่องในสำนวนมาพูด ซึ่งไม่เกี่ยว ความจริงคือความจริง"
"ถามว่า จะปิดคดีในสิ้นเดือนนี้ เร็วไปไหม ตอบไม่ได้ เขาอาจมีอะไรอยู่ในมือแล้วก็ได้ แต่วันนี้ที่กรรมาธิการได้เชิญมา ก็รู้สึกดีใจที่เขาจะยอมเอาบาดแผลเฉพาะ ให้คุณหมอนิติเวชสองที่ไปช่วยกันจำลอง ส่วนจะปิดคดีเพราะเรื่องอื่นก็ต้องรอดูค่ะ พร้อมทิ้งท้ายว่า พยานหลักฐานทุกชนิด ถ้าตรวจช้าเกินไป จะไม่สามารถพิสูจน์ความจริงได้ สองการตรวจหลักฐานทั้งหลาย ต้องรักษาห่วงโซ่วัตถุพยาน ตั้งแต่อยู่ในที่เกิดเหตุ ไปถึงห้องปฏิบัติการ จนผลออกมา ต้องไม่ให้มีใครมาแทรกได้เลย ไม่ใช่เอาออกไปทางโน้น มีคนมาจับ สิ่งนี้มันหายไปตั้งแต่วันแรก"