เลขา รมว.ยุติธรรม เผยคดี "แตงโม" มีสิทธิ์เป็นฆาตกรรม พร้อมตามหาหลักฐานสำคัญ

ล่าสุด (18 มีนาคม 2565) รายการ โหนกระแส ได้มีการพูดคุยกับ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขา รมว.ยุติธรรม  และ ผศ.วรวีร์ ไวยาวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากที่มีการแถลงผลชันสูตร "แตงโม" นิดา พัชรวีระพงษ์ รอบ 2 ไปเมื่อเย็นวันที่ 17 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีการพูดคุยถึงทุกข้อสงสัยที่สังคมมีการตั้งข้อสังเกตไม่ว่าจะเรื่อง ดวงตา ฟัน และบาดแผลตามตัว

มีการพบบาดแผลของแตงโมทั้งหมด 22 จุด แบ่งเป็นแผลขนาดใหญ่และเล็ก ขนาดใหญ่ก็เป็นที่ต้นขา ส่วนที่เหลือก็เป็นแผลฉีดขาดแผลถลอก แผลช้ำ โดยแผลที่ขาขนาดใหญ่พบเป็นรอยริ้วเท่าๆกัน และเกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต สำหรับบริเวณศรีษะ ใบหน้า ริมฝีปาก ไม่มีบาดแผลใดๆ แผ่นหลังไม่มีบาดแผลใดๆ อวัยวะเพศ ไม่มีการถูกกระทำใดๆ ส่วนเล็บได้มีการตัดไปเพื่อตรวจหาเนื้อเยื่อหากมีการต่อสู้กัน โดยจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ถึงจะได้ผล สำหรับดวงตาที่เปิดข้างปิดข้าง ก็เพราะตอนแรกมีการแหวกดวงตาเพื่อตรวจสอบ แต่ข้างหนึ่งปิดไม่ลงเนื่องจากสภาพศพจึงมีการดันลูกตาออกมา ส่วนเรื่องฟันที่สงสัยว่าหัก เพราะวันนั้นมีดินติดอยู่ อาจจะเข้าใจผิดได้ และยืนยันว่าไม่มีการครอบฟันให้อยู่ในสภาพปกติ เนื่องจากศพอยู่ในสภาพแข็งตัวแล้ว จะง้างปากก็ยากมาก รวมถึงมีทันตแพทย์เข้าไปตรวจสอบแล้ว ไม่มีร่องรอยการต่อเติมฟัน

อย่างไรก็ตาม ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขา รมว.ยุติธรรม พูดในรายการเลยว่าคดีนี้สามารถมองได้ 2 แบบ คือจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้ หรือเป็นการฆาตกรรมก็ได้ "ถ้าจะเป็นอุบัติเหตุ ก็อาจจะมีการขับเรือด้วยความเร็ว แล้วเกิดการหยุดแบบกระชาก จนทำให้พลัดตกเรือ แล้วจากที่ฟังว่าแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ก็ยิ่งเป็นไปได้  แต่หากมองว่าเป็นการฆาตกรรมก็ได้เช่นกัน คือมีใครคนใดคนหนึ่งในเรือสปีดโบ๊ทผลักตกน้ำ"

นอกจากนี้ยังเผยข้อมูลสำคัญอีกอย่างหนึ่งว่ามี หลักฐานสำคัญบนร่างแตงโมหายไป ซึ่งมันอาจบอกอะไรบางอย่างได้ สิ่งนั้นก็คือกระโปรงสีขาวที่แตงโมใส่วันเกิดเหตุ "ที่ตนไม่เห็นตั้งแต่แรก และเชื่อว่าหลายๆคนก็สงสัยเหมือนกันคือ ในวันนั้นที่เห็นรูปถ่ายที่ร้านอาหารจะเห็นว่าแตงโมใส่กระโปรงสีขาวด้วย แต่ตอนพบร่างแตงโม ตั้งแต่เห็นรูปครั้งแรกเลยกลับไม่มีกระโปรงสีขาวตัวนั้น จนกระทั่งส่งร่างแตงโมไปยังหน่วยงานต่างๆก็ยังไม่พบกระโปรงสีขาวที่ว่า เลยทำให้เอะใจว่า กระโปรงสีขาวที่แตงโมใส่ หายไปไหน เพราะว่าถ้าเกิดตกไปแล้วไปถูกใบพัดเรือก็อาจจะมีร่องรอยบางอย่างที่บอกได้ แต่ว่ากระโปรงนี้ไม่เห็นและยังไม่มีใครเก็บมาส่งมอบให้ "

เมื่อ "หนุ่ม กรรชัย" ถามว่า กระโปรงถือเป็นหลักฐานสำคัญไหม ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต เผยว่า "ก็ถือว่าสำคัญเพราะจากที่ไปดูมาก็จะมีสายอยู่สายนึงที่ไม่รู้ว่าเป็นเชือกอะไรอยู่ชิ้นหนึ่งเหมือนกัน ก็น่าจะสำคัญนะครับ เพราะว่ามันน่าจะบอกอะไรบางอย่างกับการเสียชีวิตได้"