ขับเร็วแค่ไหน เปิดภาพ GPS นาที "โรเบิร์ต" ขับเรือ เหตุ "แตงโม" พลัดตกเสียชีวิต

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ 8 มีนาคม 2565 ตำรวจแถลงความคืบหน้าคดีแตงโม ระบุ "โรเบิร์ต" สารภาพขับเรือไม่เป็น แต่อยากลองขับเรือ ทำให้มีจังหวะที่เรือกระชาก ขณะใช้ความเร็วเรือ 8 น็อต จนทำให้ "แตงโม" พลัดตกเรือ บริเวณกราบซ้ายด้านใต้ หลังทำธุระส่วนตัวและพยายามลุกขึ้นมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเสี้ยววินาที ขณะนี้ส่งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไปตรวจสอบ เพื่อยืนยันเพิ่มเติมว่าบาดแผลของแตงโมเกิดก่อนหรือหลังเสียชีวิต เพราะมีผลต่อการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมคาดอีกประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบผล

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ (กระทรวงคมนาคม) และนายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ ได้เปิดภาพ GPS เส้นทางเรือสปีดโบ๊ท ที่ "แตงโม นิดา" นั่ง ก่อนพลัดตกเสียชีวิต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในรายการโหนกระแส

GPS ไม่โกหก จะอัปเดต 1 วินาที 10 ครั้ง จุดนี้คือดาวเทียมทั้งหมด GPS การบินจะเป็นของอเมริกา เขารับดาวเทียมทั้งหมด 12 ดวง นี่คือขยายใน 1 วินาที เขาจะส่งสัญญาณมาอัปเดต ถ้าเรือมีการเคลื่อนไหว เขาก็จะเป็นจุดๆ แบบนี้ให้เลย รู้ได้เลยครับ ไม่ว่าจะจอด กลับเรือ จอดกี่นาที เร่งเครื่องเท่าไหร่ ใช้ความเร็วเท่าไหร่ จอดตรงไหน ทุกอย่างอยู่ในพนักงานสอบสวนหมดแล้ว

สามารถตรวจได้ ตั้งแต่ออกจากอู่ เติมน้ำมัน กลับเรือยังไง ไปกินข้าว คำนวณเวลาได้หมด เป๊ะเลยครับ อันแรกคือเวลา เขาจะบอกหมดเลย องศาหัวเรือ ไล่มาหมด บอกองศาหัวเรือที่จอด หันหัวเรือไปทางไหน ความเร็วที่เท่าไหร่ 1.7 kt คือน็อต คือความเร็ว เรือลำนี้วิ่งเร็วแค่ไหน ถ้าเทียบรถยนต์ เรือจะวิ่งเร็วได้เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าเร็วครับ ถ้าช้าสุดก็ 3 น็อต 5 น็อต

สำหรับเรือที่ "แตงโม" นั่ง ขับเร็วสุดนิดเดียว ตอนออกตัว เป็น 10 น็อตครับ มีแค่ครั้งเดียว ช่วงแถวสะพานพระราม 6 จุดนั้นไม่ใช่จุดตกเรือ แต่เวลาใกล้เคียงจุดตก ถามว่ามีจังหวะหนึ่งเขาเทคเร็วมาก เป็นไปได้ไหม เป็นไปได้ทั้งหมดครับ ก่อนที่จะเทคเขาต้องชะลอความเร็วก่อน ตอนนั้นความเร็วอยู่ประมาณ 3 น็อต ก็อยู่ประมาณ 3-4 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคร่าวๆ ถือว่าช้ามาก คล้ายๆ เรือไหลตามน้ำแล้ว

ก่อนลอดสะพานพระราม 8 แล้วไปถ่ายรูป เรือกำลังวิ่ง มีวงกลมเลี้ยวย้อนกลับมา เขาวิ่งไปทางทิศใต้แล้ววกกลับมา อันนี้เอามาหักล้างกับภาพที่มีคนตกน้ำตรงสะพานนั้นได้เลย เพราะเวลาทุกอย่างเทียบกันได้ เป็นภาพที่ในโซเชียล มีคนตกน้ำตรงเทเวศร์ อันนี้หักล้างได้เลย เขาวิ่งผ่านก็คือแสงไฟ ที่โซเชียลเอามาคือแสงไฟที่สะท้อนน้ำมันจะเหมือนคนตก น้ำที่วิ่งก็คือทางน้ำของท้ายเรือ เพราะเรือเคลื่อนที่ มองดีๆ ก็เป็นแสงไฟ เนื่องจากริมฝั่งมีแสงไฟที่สาดมาในน้ำ แล้วคลื่นน้ำก็ไปกระทบ เป็นแสงไฟหักเหของใต้น้ำ

 

ถามว่ายืนยันว่าไม่ใช่ลักษณะโยนแตงโมลงมาได้ไหม อันนี้เขามุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งก่อนมีภาพน้องเขาถ่ายรูป หักล้างกันได้ ใน GPS พนักงานสอบสวนก็เอาไปหักล้างกันได้ (จุดเทเวศร์ เรือแตงโมไปถึงไหม?) ที่ผมดูในโซเชียลบอกเป็นตรงสะพาน ผมก็กดเทียบของตอนเดินเรือจริง ผมว่าไม่ได้ตกตรงนี้ เพราะหลังจากนั้นมาเขายังถ่ายรูปอยู่

เป็นไปไม่ได้ที่แตงโมจะถูกดูดเข้าไป ถ้าเรือยังวิ่งอยู่ ก็น้อยมากที่จะถูกดูดเข้าไป เพราะทุกอย่างจะถูกผลักออกมาหมดเลย ส่วนร่องรอยที่ขาแตงโมทั้งสองข้าง ไม่ใช่แผลใหญ่ นิติเวชมีการเอาไปเทียบแล้ว ใบพัดเรือตรงกับรอยแผลแตงโมที่ขาแทบจะทุกรอยเลย อันนี้เทียบกับพนักงานสอบสวนแล้ว ผมทำให้ดูแล้ว โดยการเอาขาหมูโยน แล้วผูกเชือกไว้ ทำทุกวิถีทางที่ทำให้ใบพัดไปโดนขาหมู โอกาสโดนคือเรือต้องหยุด น้ำข้างหลังคลื่นจะผลักเข้ามาหาเรือ

มีโอกาสเป็นไปได้ไหม ที่จะไปนั่งฉี่อย่างที่เขาพูด ถ้าวิ่งลักษณะความเร็วตามที่ทำรูท เรือเหมือนจะเทคตัวเอียง แม้แต่เดินก็ยังจะเซ เพราะการออกตัวเรือ จะไม่เหมือนรถ หัวเรือจะเชิดขึ้น ท้ายเรือกดลงน้ำ การยืนท้ายเรือมีสิทธิ์ได้เพราะเรือเอียง แต่ถ้าเขาชำนาญในการเดิน ก็สามารถเดินได้อยู่ มันเป็นได้ทั้งสองอย่างเลย

ส่วนข้อมูลวิถีหัวเรือ องศาที่เขาฝังเอาไว้ ถ้าเข็มทิศจะพุ่งไปทิศหัวเรืออย่างเดียว เวลาหมุนไปทางขวาหรือซ้ายองศาจะเปลี่ยน เส้นสีเหลืองที่ขีดคือเวลา 22.29.28 เรือลำนี้วิ่งอยู่ที่ 3.3 น็อต แต่ก่อนหน้านี้วิ่งมา 8 น็อตชิลๆ ไปเรื่อยๆ มาสะดุด 3.3 มีโอกาสที่แตงโมจะตกในเวลานี้ไหม มีหรือไม่มีอยู่ที่พนักงานสอบสวน เขาจะเอาไปเปรียบเทียบคู่กัน ซึ่งมีสำนวนที่เขาสอบถามไปแล้ว ถามว่าส่วนใหญ่เรือวิ่ง 8 น็อต 7 น็อต ไม่มีการถอน จนมาสะดุดตรงนี้ 3.3 เขาจะหยุดเลยนะ ทำไมถึงเป็น 3.3 เรือต้องมีการหยุดหรือทำอะไรสักอย่าง เวลาหยุดก็มององศาหัวเรือได้ มันจะคำนวณเลยว่าหัวเรือหันขวาหรือซ้าย องศาจะเปลี่ยนไวมาก ภาพเรือวิ่งลอดใต้สะพานพระราม 8 ลูกศรสีแดงๆ จะบอกว่าเขามุ่งหน้าไปทางไหน ลูกศรย้อนกลับมาคือกำลังจะกลับ

เรื่องนี้คิดว่าเป็นอุบัติเหตุไหม อันนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการ GPS ก็อาจเป็นเครื่องมือตรวจสอบย้อนกลับได้ ค่อนข้างมีความน่าเชื่อถือสูง เหมือนเรานึกถึงเครื่องบิน มีกล่องดำ กล่องดำบันทึกเสียงได้ แต่ GPS บันทึกทุกอย่างที่เป็นการเดินทาง เพียงแค่ไม่มีเสียง ซึ่งพนักงานสอบสวนทำหมดแล้ว ไม่ว่าจะเปิดเพลง หักล้างกับเรื่องโซเชียลมีคนได้ยินเสียงว่าโมๆ