"ทนายเจมส์" เผยเปลี่ยนชื่อคนเอาประกันไม่ได้ แต่สามารถยกให้คนอื่นได้

โดยมีเรื่องหนึ่งที่ชาวเน็ตกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ เมื่อ "แอนนา ทีวีพูล" เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของ "แตงโม นิดา" ออกมาเผยข้อมูลว่า เงินประกันอุบัติเหตุ 1 ล้าน ของ "แตงโม" ได้ยกให้ลูกสาว "กระติก" เป็นผู้รับผลประโยชน์ 

หลังจากนั้น "ฮิปโป" เพื่อนสนิทอีกหนึ่งคนของสาวแตงโมก็เผยอีกว่า "หนูพึ่งทราบมาเมื่อสักครู่นี้เลย คือว่าหนูเป็นครีเอทีฟรายการหนึ่ง แล้วในรายการจะมีการมอบประกันเกิดขึ้น ซึ่งวงเงินประกันอุบัติเหตุเงินสูงสุด 1ล้านบาท จากทิพยประกันภัย แล้ว ณ ตอนนี้ เขาส่งชื่อมาแล้วค่ะว่า ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์คือ น้องอีสเตอร์ ลูกบุญธรรมอ่ะค่ะ คือทางหนูได้เช็กกับทางรายการเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าของรายการแจ้งหนูมาว่า แตงโมมีประกันที่ทางรายการมอบให้ฟรีใน1ปีให้เขากลางรายการเลย สุดท้ายเขาส่งรายชื่อมาว่าคือน้องอีสเตอร์ ถามว่ามีใครรู้เรื่องนี้บ้าง น่าจะมีทางคุณแตงโม คุณกระติก เพราะตอนนั้นเขาดูแลกันอยู่ เพราะว่ามันมอบเมื่อตอนช่วงเมษายน ในรายการนี่ยังไม่ครบปีเลย ก็ยังคุ้มครองอยู่" 

งานนี้หลายคนก็มองว่าเงินควรตกเป็นของครอบครัวมากกว่า และอยากรู้ว่าสามารถทำได้หรือไม่ วันนี้ (2 มีนาคม 2565) ทีมข่าวคมชัดลึกบันเทิงออนไลน์ ได้ต่อสายตรงไปหา นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ ทนายความชื่อดัง เพื่อถามถึงเรื่องนี้ เจ้าตัวก็เผยว่า

การที่จะเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ต้องเป็นคนที่ซื้อประกันภัยเท่านั้น ในกรณีนี้ แตงโม ผู้เอาประกันได้เสียชีวิตลงแล้ว จึงไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำให้เงินประกันต้องตกเป็นลูกของ กระติก แน่นอน

ทั้งนี้ ทนายเจมส์ ได้ยกตัวอย่างกรณีที่ผู้รับผลประโยชน์จะไม่ได้เงิน คือ ผู้รับผลประโยชน์เป็นคนฆ่าผู้เอาประกันภัย หรือ แม้แต่ผู้รับผลประโยชน์ สมรู้ร่วมคิดกับคนฆ่าผู้เอาประกัน ซึ่งตนไม่แน่ใจว่ากรมธรรม์ของคุณแตงโมจะเขียนระบุเงื่อนไขดังกล่าวไว้หรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม ทนายเจมส์ เผยว่า แต่หากอยากจะมอบเงินประกันให้คนอื่นต่อก็สามารถทำได้ เพราะเงินเป็นของเราแล้ว เราจะนำไปใช้อะไรก็ได้ ซึ่งในกรณีของ ลูกบุญธรรมของแตงโม ก็สามารถให้แม่แท้ๆอย่าง กระติก เป็นคนจัดการเงินได้ เพราะตามหลักแล้วเด็กยังเล็กอยู่ ไม่สามารถจัดการกับเงินได้ คนที่เป็นผู้ปกครองก็ต้องรับหน้าที่แทน

โดยกรณีนี้จะต้องมีการเปิดบัญชีเป็นชื่อของเด็ก จากนั้นเงินจะเข้าบัญชีเด็ก แล้วคนที่สามารถเบิกถอนได้ก็คือคุณแม่ เพราะฉะนั้นหาก กระติก อยากจะคืนเงินจำนวนนี้ให้กับครอบครัวของ แตงโม ก็ย่อมทำได้ ไม่ต้องถึงขั้นไปขึ้นศาลเยาวชนเพื่อดำเนินการ เพราะไม่ใช่การเอาทรัพย์สินเด็กไปขาย กรณีนั้นถึงต้องเข้าศาลเพื่อไปขออนุญาต แต่กรณีเป็นแค่เงินประกันเฉยๆ 

ทนายเจมส์ เผยทิ้งท้ายว่า หากคนเรามีคุณธรรมก็ควรยกให้กับครอบครัวของเขา อย่าไปเอาของเขาเลย