
รู้ทันกฎหมาย - ขว้างปา
นักขว้างทั้งหลายต้องให้ความสำคัญแก่การปาเอาไว้ โดยเฉพาะในยุคสมัยที่การขว้างปาเป็นกิจกรรมที่หลายคนนิยมทำ ไม่เพียงแต่เด็กเล็กเท่านั้นที่ขว้างปาเป็นอาจิณ
การขว้างปามีหลายสาเหตุ บางรายทำไปเพราะสะใจ อยากปาระบายอารมณ์ตัวเอง บางรายปาไปด้วยความโมโห และอีกหลายรายที่ปาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อผลอย่างใดอย่างหนึ่ง
ไม่ว่าจะปาโดยมีที่มาอย่างไร ต้องรับผิดชอบในที่ไปของมัน หากการปาไปโดนข้าวของหรือหัวของใครเข้า การบาดเจ็บหรือความเสียหายต่อข้าวของเครื่องใช้ ก็คงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้
แต่ความรับผิดในทางกฎหมายมีกำหนดกรอบเอาไว้ว่า จะต้องถึงกับรับโทษทางอาญาหรือเพียงแต่ว่าชดใช้ค่าเสียหายไป
หากทำโดยไม่ทันได้ระมัดระวังตามควร เขาเรียกว่าประมาท ซึ่งอาจไปถูกคนได้ ก็มีความผิดตามกฎหมายฐานทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ เป็นความผิดเล็กน้อยที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนและ/หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท
หากเกิดที่ถึงฆาตเลยเสียชีวิตจากการขว้างปา ก็ได้ข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดความตายหรือบาดเจ็บสาหัสก็แล้วแต่ แม้ไม่เจตนา แต่ก็ต้องพิจารณาว่า สามารถเล็งเห็นได้หรือไม่ว่า อาจเกิดความตายหรือบาดเจ็บได้
นอกจากการปาแบบสุ่มสี่สุ้มห้าแล้ว ยังมีการปาด้วยเจตนาจะให้เสียหาย เช่น ปาหินใส่รถที่กำลังวิ่งอยู่ หากมีเจตนาเพื่อกลั่นแกล้งเมามัน เป็นการเจตนากระทำเพื่อให้เกิดความเสียหาย แม้ไม่ได้ตั้งใจจะให้ถึงตาย แต่โดยลักษณะการกระทำน่าจะย่อมเล็งเห็นได้ว่าจะทำให้รถคว่ำ รถชน หรือเกิดความตายได้ เสี่ยงที่กฎหมายจะถือเป็นการเจตนาฆ่าคนตายได้
ส่วนการปาเพื่อจะเอาทรัพย์สินของเขา ก็เป็นเรื่องการชิงทรัพย์ไป
ขว้างปาข้าวของก็ต้องระวัง ใช่ว่ากดเช็กข้อความพบในโทรศัพท์มือถือของแฟนแล้วขว้างโทรศัพท์ทิ้งจะทำให้เรื่องมันดีได้ แฟนไม่เพียงตีจากไปอาจแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ได้
เสียทั้งแฟนและอิสรภาพจากโทษจำคุกสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาท เป็นอย่างสูง
การทำอะไรที่กฎหมายบอกเอาไว้การทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญอย่างการขว้างปาของแข็งใส่จะได้ข้อหาทางอาญา แม้ว่าจะเป็นความผิดลหุโทษถูกปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือไม่ก็จำคุกสูงสุดเพียงเดือนเดียว แต่ใครอยากติดคุกบ้าง
การปาของไม่แข็ง เช่น อุจจาระหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ขี้ ก็มีความผิดทางอาญาได้ เพราะคงไม่มีคนปกติที่ไหนจะปาขี้ผู้คนโดยพลั้งเผลอ ต่อให้ไม่ปาใส่คนแค่ปาเข้าไปในบ้านคนอื่นให้เขาเหม็นเฉยๆ ก็ถือว่าเป็นการทำให้ของโสโครกเป็นที่เดือดร้อนรำคาญ ก็เป็นความผิดทางอาญาอยู่ดีหนีไม่พ้น
การปาเพราะหมั่นไส้ ก็หาได้ยกมาอ้างเพื่อลบล้างความผิดได้ไม่ และส่อให้เห็นถึงอุปนิสัยของคนกระทำ ไม่ว่าคนคนนั้นสมควรถูกปาหรือไม่ แต่กิริยาอาการของคนปาที่ทำไป มันทำให้ตัวเองเสียหายไปก่อนแล้ว
ดังนั้น แทนที่จะจัดการปัญหาทางอารมณ์ด้วยการขว้างปา ก็น่าจะหาวิธีที่แยบยลกว่านี้ในการตอบโต้สิ่งที่ตัวเองไม่พอใจ จะดูสง่างามกว่าเป็นไหนๆ
ประเพณีปาขี้จะได้หมดไปจากสังคมไทยเสียที ไม่ว่าจะข้อหาไหนๆ ก็ ไม่ดีในทุกกรณีอยู่นั่นเอง
"ศรัณยา ไชยสุต"