"ทิดสมปอง" ไลฟ์สดหลัง"ติ๋ม ทีวีพูล" แฉ ยันไม่หิวเงิน เป็นหนี้ต้องทำงานชดใช้

โดยประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ "ทิดสมปอง" ก็ได้ชี้แจงหลัง "ติ๋ม ทีวีพูล" กล่าวหาว่า "อดีตพระมหาสมปองติดต่อมาขอให้เป็นนายทุน และ จัดหาซื้อเสื้อผ้าให้หมดร่วมแสนบาท มีความทะเยอทะยาน อยากจะรวยเร็ว และ มีหนี้สิน 10.9 ล้านบาท" นั้น "ทิดสมปอง" ก็บอกว่า "ได้ฟังแถลงของพี่สาวมาแล้ว ก็ลิสต์มาเป็นประเด็น จะได้เคลียร์กัน 

 

เรื่องเข้ามาอยู่ที่บ้าน เริ่มต้นตั้งแต่ตอนเป็นพระก็ได้พูดคุยกัน ก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านที่เป็นบ้านเก่าที่ช่างกำลังมาทำ เราก็อยากให้พี่อยู่ด้วย เป็นเรื่อจริง เรื่องที่อยู่เราไม่ได้ขอ เราคุยกันและมีน้ำจิตน้ำใจต่อกัน เรื่องนี้เราต้องขอบคุณ อาจจะมีวาสนาได้อยู่แค่เดือนเดียว ก็ขอบคุณเรื่องเสื้อผ้าแปดหมื่น ผมไม่ได้มีชุดสำรอง ผมไม่รู้ราคา ไม่รู้อะไรถูกอะไรแพง พอรู้บ้างว่าราคาอะไรเท่าไร แต่ราคาที่แท้จริงว่าเท่าไร ผมให้ทางทีมงานจัดให้ทั้งหมด เราก็บอกว่าแล้วแต่สะดวกคุยกัน ก็มีทีมงานของทางนั้นไปด้วย วันนั้นจะให้ตัวสองตัว ก็แล้วแต่ ก็มีส่วนลดให้แถมให้ ก็ขอบคุณมาก ก็ขอบคุณมาก ๆ ด้วย 

ร่วมโหวต  Popular Vote (มหาชน) "คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 18" คลิ๊กที่นี่

นอกจากนี้ "ทิดสมปอง" ยังพูดต่อว่า "หนี้สิน ผมพูดมาตลอดว่าผมไม่ได้เอาเงินออกจากพุทธศาสนาเลย เมื่อผมเป็นหนี้เป็นสินผมต้องรับผิดชอบ บางรายติดดหนี้ผม ผมก็ยกให้ แต่สำหรับผมที่เราทำงานหนักเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ผมไม่ค่อย ๆ ชอบการได้เงินมาเปล่า ๆ  สมัยเป็นพระก็มีชาวบ้านใส่ซองให้เราก็รับบ้างไม่รับบ้าง ผมอยากทำงาน ไปทำอะไรให้เขาก่อนค่อยได้รับเงินมา เมื่อผมมีหนี้ก้อนใหญ่ขนาดนั้นผมก็ต้องทำงานใช้หนี้ ไม่ให้คนมาใช้หนี้ให้ผม อยากทำงานใช้หนี้เอง ก็เป็นความจริงงวดแรก 1 ล้านบาท  ผมเพิ่งทราบจากเลขา ผมไม่ได้ใช้เงินก่อนนั้น เอาเงินทั้งหมดที่ได้มาไปใช้หนี้หมด ซึ่งผมก็ทำงานเพื่อใช้หนี้ พี่สาวท่านนั้นไม่ได้ใช้หนี้ให้ เป็นเงินจากการทำงาน 

 

ผมเป็นคนเต็มที่กับงานผมทำงานหนักไม่ใช่เพราะว่าหิวเงินครับ ผมทำงานผมทำประโยชน์ให้ก่อนให้เหมาะสมกับความเหนื่อยของผม ประเด็นอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ว่าหิวเงิน ถ้าอยากรวยจริงๆ ผมคงไม่บวช เรื่อเงินมันไม่ได้อยู่แล้ว ขอย้ำว่าไม่ได้มีใครใช้หนี้ให้ ผมทำงานใช้หนี้ ที่เหลืออยู่ถามันไม่คุ้มกับ 1 ล้านบาท จะให้ใช้เป็นเงิน หักจากที่ผมทำงานไปแล้ว หรือจะให้ผมทำงานให้ได้หมดเลย ผมคุยกับคุณเต้แล้วเรื่องนี้

เรื่องสัญญา วันนั้นทีมงานก็นั่งเต็มห้อง คุณเต้ เราคุยกันไป กันมา ก็มีมาให้เซ็น ตอนนั้นก็เซ็น ทีมงานก็คิดว่าเดือนละ 1 ล้าน แต่มันคือ 4 เดือน 1 ล้าน ซึ่งไม่ใช่ปัญหา ผมก็อ่านดู แล้วให้ทีมงานดู แล้วก็เซ็นไป แต่ซิทคอมครั้งแรกเลย ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า ทำงานถึง ตี 2 เราก็เป็นห่วง เพราะมันค่อนข้างใช้เวลา และเสียงเราก็ไปแล้ว เสียงเราแหบไปเยอะ แต่ไม่ได้มีปัญหา เราเค้นเสียงได้ ผมรู้สึกว่าผมทำงานให้ใครมันต้องคุ้มค่าเขา ผมต้องได้ใช้ศักยภาพของผม ควมเป็นตัวตน ความสนุกของผม ความมีเอนเนอร์จี้ของผมอย่างเต็มที่ แค่เสียงแหบคุณภาพมันก็ลด แล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวผม 

ก็ทบทวนอันนี้เราทำงานให้เขาได้ไม่เต็มที่  ผมไม่สบายใจที่เป็นตัวถ่วง บางรายการ เรารู้สึกว่าแทบไม่ได้มีส่วนร่วม แล้วเขาจะมาเสียค่าตัวให้เราทำไม เราไม่ควรอยู่ตรงนั้นเราควรให้คนที่เขาคล่องกว่าทำ ก็มียื่นเรื่องนั้นไป 
สัญญาที่มีเป็นฉบับเก่า เราก็คุยเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงสัญญา วันทำงานมันเยอะไป รายการแบบเดียวกัน ควรเดือนละครั้ง หรือ รายปักษ์ อาทิตย์ละครั้งคุณเต้ น่ารักมาก ในการคุยกัน อะไรที่ไม่ใช่ตัวตน ก็รู้สึกไม่ใช่ เราพูดคุยเพื่อเปลี่ยนแปลงสัญญา ก็มีการให้ได้ไม่ได้ แต่ยังไม่ได้เซ็น อยากรอบครอบ เราดูไม่ละเอียด สัญญาเก่า ไม่มีวันหยุด กลัวไม่คุ้มกับเงินที่ให้ อาจจะทำงานได้ไม่ดี ก็ต้องพิจารณา สัญญาใหม่ ก็มีแชทคุย โทรคุย ไม่ใช่ปัญหาเรื่อวค่าตัว เราขอลดวัน 

 

ไม่ได้เพิ่มค่าตัว ไม่ได้หิวเงิน ดูที่เนื้องาน เป็นหลัก ไม่มีใครใช้หนี้ให้  เรื่องคบคนสีเทา สีดำ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการคบ ไม่ได้สูบบุหรี่ ผมปฏิบัติตามที่ลูกเพจบอก ไม่ดื่มเหล้าด้วย ไม่ยุ่งกับยาเสพติดแน่นอน เรื่องผิดกฎหมายไม่ยุ่งอยู่แล้ว สมปองไม่ยุ่งธุรกิจสีเทาไม่ทำแน่นอน ไม่ได้มีปัญหากับการคบคน เรื่องที่ดิน ก็ที่ดินของพ่อแม่ญาติพี่น้อง เรื่องเงินร้อยล้านไม่มีจริง เป็นการพูดแซวกันเฉย ๆ

ถ้าอะไรที่ไม่ใช่ตัวตน มีนโยบายทำงานต้องมีความสุขเท่านั้น ต้องไม่มีฝักฝ่าย เป็นนโยบายตั้งแต่อดีต หลังจากนี้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ทำงานให้ได้ผล เพราะฉะนั้น ทุกเรื่องราวมันมีบทเรียนให้กับเรา ให้ต้องไตร่ตรอง ตั้งสติ มีเรื่องราวเป็นบทเรียนมากมาย 

 

ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน รวมทั้ง พี่ผู้หญิงคนนั้นด้วย ผมมีความสุขในการทำงาน ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงเป็นใย ของคุณที่เมตตา ยังเป็น สมปอง คนเดิม จะตั้งใจทำงาน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา จะพูดครั้งนี้ครั้งเดียว ยังรักยังเคารพผู้ใหญ่ทุกท่าน ร่วมงานได้ ถ้างานนั้นเราทำได้ทุกอย่างอย่างเต็มที่ ถ้าผิดในอนาคตตักเตือนได้ สัญญาว่าจะจริงใจตั้งใจ และมอบความสุขใจให้ทุกท่าน ถ้าประเด็นนี้ทำให้สะเทือนใจ ต้องขออภัยจริงๆ"