
ย้อน "เพลงเก่า" ทำ ตู่ "นันทิดา แก้วบัวสาย" ถึงต้องเสียน้ำตาในห้องอัดเสียง
ในอดีตของ ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย เป็นศิลปินเบอร์แรกๆ ของค่าย แกรมมี่ เมื่อปี 2527 กับเส้นทางสายดนตรีอันแสนยาวนานในวงการเพลงไทย ตู่ มีบทเพลงอันแสนไพเราะมากมาย แม้ปัจจุบัน จะเบนเข็มไปสู่เส้นทางสายการเมืองแล้ว แต่เสียงร้องของ ตู่ ยังติดตรึงอยู่ในใจของใครหลายๆ คน
เส้นทางชีวิตสายศิลปินของนักร้องหญิงอย่าง ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย เริ่มต้นขึ้นเพราะได้รับการสนับสนุนเรื่องดนตรีจากครอบครัว จนมีความสามารถโดดเด่น
เมื่อครั้งที่ช่อง 3 จัดประกวดนักร้องสมัครเล่น เพื่อคัดหาตัวนักร้องส่งไปชิงชัยในการประกวดนักร้องสมัครเล่นของเอเชียครั้งที่ 3 ที่ฮ่องกง ซึ่ง ตู่ นันทิดา สามารถคว้ารางวัลนักร้องสมัครเล่นยอดเยี่ยมแห่งเอเชียได้ ในช่วงต้นทศวรรษ2520 ที่ สุดา ชื่นบาน เป็นคนแนะนำให้ส่งตู่นันทิดา ไปลองประกวดร้องเพลงบนเวที ภายหลังจากสุดา ได้ยินตู่ นันทิดาซ้อมร้องเพลงโดยบังเอิญ
ภายหลังประสบความสำเร็จจากการส่งตัวของช่อง 3 ตู่ นันทิดา เคยทำผลงานเพลงลูกทุ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะเข้ามาสู่รั้วแกรมมี่ และออกอัลบั้ม “นันทิดา 27” เมื่อพ.ศ. 2527 ซึ่งมี เรวัต พุทธินันท์ ทำงานเบื้องหลังเป็นผู้แต่งเนื้อร้อง
ซึ่งเส้นทางนักร้องกับแกรมมี่ เป็นช่วงที่ตู่นันทิดา ประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
แต่ตลอดเส้นทางอาชีพของ ตู่ นันทิดา มีช่วงหนึ่งระหว่างทศวรรษ 2550 เธอเคยห่างหายจากวงการดนตรีและบันเทิงไปราว 6 ปี ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในปี 2557
โดยกลับมากับผลงานซิงเกิ้ล “เจ็บจนเข้าใจ” ซึ่งเขียนเนื้อร้องโดย หมอเอิ้น-พิยะดา หาชัยภูมิ จิตแพทย์ นักบริหารและนักแต่งเพลง ซึ่งว่ากันว่า เนื้อหาในเพลงก็มาจากประสบการณ์ความรักของนักร้อง
ตามข่าวบอกว่า ตู่ นันทิดา อินกับเพลงนี้มากถึงขั้น “น้ำตาไหล” ในห้องอัดเสียง โดยนันทิดา เคยเล่าถึงแง่มุมความรู้สึกนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อ เผยแพร่ในผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 17 มกราคม 2557 ว่า เมื่อฟังท่อนฮุกและท่อนโซโล่ คิดว่าการออกแบบดนตรีทำให้รู้สึกว่า “จำว่าเรารักกันแค่ไหน จำว่าเรารักกันเมื่อไหร่ จำว่าสุขหัวใจแค่ไหน” และกล่าวเสริมว่า เมื่อพี่ๆ น้องๆ อยู่ อาจรู้สึกเขิน แต่เมื่ออยู่คนเดียวจะอินกว่านี้
ฉันยังรักเธออยู่
ฉันคิดถึงเธออยู่
อยู่ตรงนี้คนเดียวลำพัง
เนิ่นนานเกินไป
ฉันรู้ที่ดูเข้มแข็งอยู่
ที่ดูเหมือนเข้าใจ
แต่ความจริงคือมันเคยเจ็บ
เจ็บจนเข้าใจถึงรู้
ว่าในเมื่อฉันไม่อาจห้ามใจ
ให้ความรักจบลง
ในวันที่ต้องสูญเสียเธอไป
ก็ต้องยอมให้หัวใจยังจำ
จำว่าเรารักกันแค่ไหน
จำว่าเรารักกันเมื่อไร
จำว่าฉันรักเธอเพราะอะไร
และเหตุใดยังรักเธอจนวันนี้
จำว่าสุขหัวใจแค่ไหน
ต้องเจ็บจนเข้าใจ
จนความช้ำกลายเป็นความทรงจำดีดี
อาจยังร้องไห้บางที
ในวันที่เหงาใจ
ฉันยังยิ้มให้เธอ
ทุกทีได้เจอ
ยังเป็นยิ้มที่มีความสุข
กับการเจอเธอเสมอ
ที่ดูเข้มแข็งอยู่
ที่ดูเหมือนเข้าใจ
แต่ความจริงคือมันเคยเจ็บ
เจ็บจนเข้าใจถึงรู้
ว่าในเมื่อฉันไม่อาจห้ามใจ
ให้ความรักจบลง
ในวันที่ต้องสูญเสียเธอไป
ก็ต้องยอมให้หัวใจยังจำ
จำว่าเรารักกันแค่ไหน
จำว่าเรารักกันเมื่อไร
จำว่าฉันรักเธอเพราะอะไร
และเหตุใดยังรักเธอจนวันนี้
จำว่าสุขหัวใจแค่ไหน
ต้องเจ็บจนเข้าใจ
จนความช้ำกลายเป็นความทรงจำดีดี
อาจยังร้องไห้บางที
ในวันที่เหงาใจ
จำว่าเรารักกันแค่ไหน
จำว่าเรารักกันเมื่อไร
จำว่าฉันรักเธอเพราะอะไร
และเหตุใดยังรักเธอจนวันนี้
จำว่าสุดหัวใจแค่ไหน
ต้องเจ็บจนเข้าใจ
จนความช้ำกลายเป็นความทรงจำดีดี
อาจยังร้องไห้บางที
ในวันที่เหงาใจ
อาจยังร้องไห้บางที
กับความทรงจำดีดี
กับการสูญเสียเธอไป
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.silpa-mag.com/culture/article_70785



