มองผ่านเลนส์คม-วิ่งว่าว | คมชัดลึก

 เพลงวิ่งว่าว แม้ว่าจะเป็นเพลงที่ถ้าคิดมาก คิดลึก ก็อาจจะเฉียดเส้นแดง ตรงท่อนที่ว่า พี่สาว น้องชัก ...พี่ชัก น้องสาว (สายป่านว่าว) แต่ท่อนสุดท้าย คนแต่งฉลาดที่จะจบตรงที่ เปรียบชีวิตคนเหมือนกับว่าว ที่มีขึ้นสูงแล้วก็ลงมาสู่พื้น ไม่มีใครติดลมบนตลอดไป  ดังนั้นไม่ควรใช้ชีวิตแบบประมาทหรือหลงลืมตัว คิดว่าตนเองเป็นหนึ่งอยู่ค้ำฟ้า

 วงการบันเทิงหรือนักร้องก็ควรจะสำเหนียกเอาไว้เช่นกันว่า วันนี้คุณคือดาราหรือนักร้องเบอร์หนึ่ง แต่วันข้างหน้าต้องมีดาวดวงใหม่ คลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่สักวันอย่างแน่นอนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความดังของชื่อเสียงนั้นเป็นเหมือน "สมบัติผลัดกันชม" ต้องยอมรับให้ได้แล้วชีวิตจะมีความสุข

 ขณะที่มีชื่อเสียงก็ควรกระทำกรรมดี ใช้โอกาสที่มีชื่อเสียงเป็นใบเบิกทางในการช่วยเหลือสังคมบ้าง อย่าเอาแต่กอบโกยแต่เพียงอย่างเดียว วันหนึ่งว่าวขาดลอย จะมารำพึงรำพันก่นด่าว่า ให้ความสุขแก่ประชาชนแล้ว ในบั้นปลายกลับไม่มีใครเหลียวแล เป็นการกระทำของตัวเองนั่นแหละ

 ว่าไปซะยาว ก็ถือว่าเป็นข้อคิดจากเพลงวิ่งว่าวละกัน

 ขณะที่นักร้องลูกทุ่งหลายคน พยายามนำแนวเพลงแร็พหรือฮิพฮอพสกามาดัดแปลงใส่ทำนองเพื่อดึงกลุ่มคนฟังรุ่นใหม่ให้หันมาฟังเพลงลูกทุ่งอยู่นั้น ในอีกมุมหนึ่ง เพลงแนวพื้นบ้านกลับแซงหน้าอย่างไม่คาดคิด

 ความที่เพลงมีความเป็นธรรมชาติทางภาษา ไม่ดัดจริต ทำให้เพลงพื้นบ้านทั้งหลาย สามารถครองใจคนฟังได้ไม่ยากนัก ขอเพียงปรับทำนองให้ทันสมัยขึ้นสักหน่อย อย่างที่เอกชัย ศรีวิชัย เคยดังจากเพลงพื้นบ้าน "หมากัด" แกย้ำเสมอว่า ถ้าจะมาร้องเพลงพื้นบ้านแบบเดิม เด็กๆ รุ่นใหม่จะหลับและหนีไม่ยอมฟัง  การใส่ทำนองให้สนุกโจ๊ะๆ เป็นการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของเพลงพื้นบ้าน

 จากเพลง "หมากัด" มาถึงเพลง "วิ่งว่าว" เป็นที่น่าสังเกตว่า เพลงพื้นบ้านที่มาดัดแปลงใหม่แล้วได้รับความนิยม จะเป็นเพลงที่มีเนื้อหาเฉียดๆ สองแง่สองง่าม หากแต่เป็นศิลปะที่คนรุ่นก่อนเขาใช้ชั้นเชิงในการประพันธ์แล้ว หักมุมให้กลายเป็นเรื่องที่ไม่สัปดน นั่นคือภูมิปัญญาของศิลปินพื้นบ้านอย่างแท้จริง

 เส้นแบ่งบางๆ ระหว่างคำว่า ศิลปะกับอนาจาร หากใครมีความสามารถถึงก็สามารถทำให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมพอดีไม่โจ่งครึ่มได้ เพลงก็จะไม่ถูกแบน

 ขอสนับสนุนให้คนที่ตั้งใจนำเพลงพื้นบ้านกลับคืนมาสู่หน้าปัดเพลงไทยครับ

นคร ศรีเพชร