"เอ็มมี่ อมลวรรณ" ตอบแล้ว เตรียมยื่นฟ้องน้องที่ทุกคนก็รู้ว่าใคร ไม่พูดชื่อ
ทำเอาหลายคนสงสัยไปตามกัน เมื่อ "เอ็มมี่ อมลวรรณ" ออกมาถ่ายภาพคู่กับทนาย และแจ้งผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า กำลังจะฟ้องใครสักคนในวงการบันเทิง
ล่าสุด "เอ็มมี่ อมลวรรณ" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ถึงกรณีที่เกิดขึ้น ว่าทั้งหมด เป็นเรื่องราวสุดทนที่ตนเองได้เจอตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
“อย่างที่เอ็มมี่โพสต์ไปเลยว่าถ้าเป็นคนในวงการตัวเอ็มมี่จะเป็นคนที่ไม่ฟ้องใครอยู่แล้ว เพราะเมื่อหลายสิบปีที่แล้วก็ได้มีเรื่องกับพี่ๆ นักแสดงเนอะ สุดท้ายเราก็ขอโทษกัน เพราะวงการบันเทิงมันเล็กมาก สักวันนึงเราก็ต้องได้กลับมาร่วมงานกัน เราแค่ขอโทษกันแค่นี้มันไม่ได้เหรอแค่นั้นเองค่ะ สำหรับตัวเอ็มมี่ ทุกครั้งที่เอ็มมี่ผิดหรือถูก เอ็มมี่จะยกมือขอโทษก่อนตลอด การขอโทษไม่ได้แปลว่าแพ้ แต่การขอโทษมันแสดงความจริงใจและความน่ารักในตัวเราออกไปมากกว่า นี่คือสิ่งที่เอ็มมี่คิด
และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าเอ็มมี่จะถูกเขากระทำอย่างไรก็ตาม เอ็มมี่ยอมมาโดยตลอด ยอมเพื่อที่จะให้เขาหยุด เพราะเราหยุดแล้ว แต่ทำไมคุณยังไม่หยุด จนมันมามีเรื่องนึงที่เอ็มมี่ก็มองว่ามันไม่ใช่เรื่องของเขาด้วย เขาก็ไม่ควรที่จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนั้น เอ็มมี่มองว่าหลายๆ คนรวมถึงพี่ๆ สื่อมวลชนก็บอกว่าอภัยเขาไปเถอะ คือเราอภัยอยู่แล้วค่ะ แต่ ณ วันนี้เอ็มมี่กำลังจะบอกน้องว่าทุกคำพูด ทุกการกระทำมันมีค่า มีราคา และไม่พูดเยอะ เพราะทุกอย่างตีค่าราคาออกมาหมดแล้ว”
โดยเอ็มมี่ โพสต์ว่า "แต่งตั้งทนายเสร็จแล้วเรียบร้อยนะจ๊ะ สิ่งนึงที่อยากบอกให้รู้ คือ #ทนายผู้หญิงเก่งทุกคน อันที่จริงแล้วเอ็มมี่เป็นคนที่ให้โอกาสคนมาเสมอ เป็นคนที่ชอบให้อภัย ถ้าเป็นคนในวงการเดียวกันโกรธเคืองกันแปบเดียวก้หายแล้ว บางทีโกรธมาก เสียใจมากแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะฟ้องใครเลย #ยิ่งถ้าเป็นคนในวงการบันเทิง เอ็มมี่ยิ่งไม่คิดจะฟ้องจริงๆนะคะ เพราะวงการบันเทิง เอ็มมี่เชื่อว่าอนาคตข้างหน้าเราอาจจะให้อภัยกันหายโกรธกันขอโทษกัน และท้ายที่สุดก็ได้กลับมาร่วมงานกัน แต่พอมาถึงเคสนี้เอ็มมี่กล้าพูดได้ว่ารับคำขอโทษเป็นเงินเท่านั้น มันหนักเกินจะหันกลับไปมองหน้าแล้วอะ เจอกันที่ศาลเท่านั้นนะน้องนะ ขอ #เอ็มมี่แม็กซิม คนนี้ออกมาปกป้องและได้พูดในสิ่งที่ถูกใส่ร้ายบ้างนะคะ บอกแล้ว เตือนแล้ว อย่าทำเรา ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรคุณ Red Carnation ขอบพระคุณ #ทนายนาท สำหรับทุกอย่างในครั้งนี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณที่เราจะเดินหน้าพิสูจน์ความจริงไปด้วยกัน ขอบพระคุณจริงๆคะ"
แต่ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หมายถึงน้องคนที่หลายคนตีความไปแล้วใช่มั้ย?
เอ็มมี่บอกว่า “เอ็มมี่ไม่รู้ว่าสื่อหรือใครก็แล้วแต่จะตีความไปยังไงว่าเป็นใคร แต่เอ็มมี่ก็บอกแค่นี้แหละว่าที่ผ่านมาเอ็มมี่ยอมเขามาโดยตลอด ยอมแพ้แม้กระทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เอ็มมี่จำได้ช่วงนั้นเอ็มมี่ท้องแก่ คุยกับน้องน้อยมาก และเราก็ดูแลเขามานะ ต่อให้เอ็มมี่ไม่ได้ดูแล ก็จะมีทีมทุกคนในค่ายดูแลกันอยู่ เอาเป็นว่าที่ผ่านมาเอ็มมี่ยอมทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ผิดอะไร แต่รู้สึกว่าทำไมถึงไม่หยุด แล้วมีแบบนี้ไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะฟ้องร้องกัน แต่เอ็มมี่มองว่ามันเริ่มหนักขึ้น ก็ขอให้เป็นกระบวนการของกฎหมายค่ะ”
มีจุดไหนที่เรารู้สึกไม่ไหวจนต้องฟ้อง
“จริงๆ มันก็ไม่ไหวทุกตรงแหละ แต่เอ็มมี่แค่อดทนเท่านั้นเองค่ะ เอ็มมี่อยากเป็นเพื่อนกับทุกคน อยากเป็นพี่ เป็นน้อง อยากเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีกับทุกๆ คน ถ้าเกิดว่าเขายอมที่จะเป็นเพื่อนกับเอ็มมี่แค่นั้นเอง”
แต่ที่เราไม่ยอมเพราะมันหนักขนาดไหน
“บางทีเรื่องบางเรื่องมันไม่ใช่ของเขา”
จะมีไกล่เกลี่ยกันมั้ย
“เอ็มมี่อยากให้คุยกับทนายมากกว่า และทนายจะยื่นฟ้องวันที่ 1 ก.พ.นี้ เอ็มมี่ขอคุยกับทนายก่อน”
เขาติดต่อมาขอโทษอะไรบ้างมั้ย
“ไม่มีค่ะ”
ไม่รับคำขอโทษแล้วใช่มั้ย
“จริงๆ ทางทนายเขาก็บอกว่าทุกอย่างมันมีค่า มีราคานะ เอ็มมี่ก็ให้เป็นการตัดสินใจของทนายเลย เพราะทนายที่เข้ามาดูแลให้คือเขาเห็นมาตั้งแต่ต้นว่ามันเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเอ็มมี่ก็เลยมองว่าให้เป็นหน้าที่ของทนาย ถามว่ารักกันมั้ย ทุกสิ่งทุกอย่างเอ็มมี่เป็นคนที่รักทุกคนอยู่แล้ว และเอ็มมี่ก็มั่นใจว่าเอ็มมี่ก็น่ารักกับทุกคนด้วย”
ตั้งใจจะสร้างบทเรียนให้เขาใช่มั้ย
“เอ็มมี่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เอ็มมี่กำลังจะพูดไปมันจะทำให้เสียรูปคดีมั้ย หรือมันจะไปถึงตัวเขามั้ย ก็ขอไม่พูดแล้วดีกว่า แต่เอ็มมี่กล้าพูดได้ว่าชีวิต 20 ปีที่ผ่านมาในวงการบันเทิงไม่เคยคิดจะฟ้องใคร อยากเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง อยากร่วมงานกับทุกๆ คน เอ็มมี่รู้สึกแฮปปี้ และเอ็มมี่เป็นคนเวลาที่ได้คุยกับใครแล้วจะมีความสุข ไม่อยากมีศัตรู”
กลัวมั้ยพอพูดวันนี้แล้วเรื่องราวจะยืดยาว
“ถ้ามันจะยืดก็ด้วยตัวของเขาเองก็สุดแล้วแต่เขา แต่เอ็มมี่มองว่าขอออกมาปกป้องตัวเองก็พอค่ะ”
ถ้าหลังจากนี้เขาติดต่อมาขอโทษล่ะ
“ขอให้เขาคุยกับทนายดีกว่า เพราะที่ผ่านมาเอ็มมี่รอ อ้าแขนรอเลย แต่ว่ามันกลับหนักขึ้น ก็เลยมองว่าขอให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายแล้ว ไม่คุยเองแล้วค่ะ แม้กระทั่งไปศาลตัวเอ็มมี่ก็จะไม่ไปเองด้วย”
ไม่พร้อมเจอเลย
“ไม่ค่ะ ไม่แล้ว”
เขาเอาเรื่องของเราไปพูดเสียหายเหรอ
“ก็อย่างที่พี่ๆ เห็น หนูก็ไม่ออกมาตอบโต้เลย วันงานคมชัดลึกหนูแต่งตัวก็เป็นหมื่นแล้วนะ แล้วในระดับคนไม่มีเงินน่ะยอมแต่งตัว ยอมแต่งหน้าเพื่อที่จะไปเดินงานให้กับทางคมชัดลึก แต่เอ็มมี่ก็ไม่ได้ไป คือเอ็มมี่รู้สึกว่าไม่อยากมีเรื่องอยากเป็นพี่ เป็นน้อง เอ็มมี่อยากเป็นใครก็ได้ที่ทุกคนรักเอ็มมี่มากกว่า”
ณ วันนั้นราเปิดทางให้เขาออกไปพูดเหรอ
“หนูไม่รู้ (ยิ้ม) ไม่รู้ว่าเรียกว่าเป็นการเปิดทางมั้ย แต่สำหรับตัวหนู หนูอยากแฮปปี้กับทุกคน อยากเป็นพี่ที่ใครๆ นับถือ หรืออยากเป็นน้องที่ใครๆ ก็เอ็นดูมากกว่า”
ถ้าเจอกันก็ไม่ขอร่วมงานแล้วใช่มั้ย
“งานคืองานค่ะ ต้องแยกแยะ สำหรับเอ็มมี่ถามว่าร่วมงานกันได้มั้ย เอ็มมี่ร่วมงานได้กับทุกคน งานคืองาน และงานคือเงินนะคะ ทำงานไปให้เสร็จ ส่วนจะอะไรยังไงข้างหลังบ้านก็แล้วแต่”
คิดหรือยังว่าจะฟ้องเขาเท่าไหร่
“แล้วแต่ทนายหมดเลยค่ะ เอ็มมี่ให้สิทธิทุกอย่างเป็นเรื่องของทนาย”
แล้วทนายมองว่าควรที่จะเรียกเท่าไหร่
“วันที่ 1 ก.พ.นี้ทนายจะไปที่ศาลค่ะ ถ้าเอ็มมี่ไปด้วยสัญญาว่าจะบอกพี่ๆ แน่นอน อยากให้ฟังจากทนายมากกว่า เอ็มมี่ไม่อยากพูดอะไรแล้ว”
อัพเดทเรื่อง “กานต์” หน่อย
“ตอนนี้พี่กานต์ยังเจ็บแขนอยู่นะคะ จริงๆ วันนี้พี่กานต์จะมาด้วย แต่พี่กานต์เจ็บแขน เนื่องจากกระดูกแตกด้วย และเอ็นขาดด้วย เขาบอกว่าเขาเจ็บ มาไม่ได้ ก็ขอบคุณทุกๆ คนมากๆ ที่เป็นห่วงพี่กานต์นะคะ (ยกมือไหว้)”
แล้ว “เสือ” มีได้ไปเยี่ยม “กานต์” บ้างมั้ย
“อันนี้เอ็มมี่ไม่ทราบเลยค่ะ ต้องถามผู้จัดการเขาค่ะ (ยิ้ม)”